โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ความคุ้มเป็นเหตุ! เปิดที่มาของ 'บุฟเฟต์' เสน่ห์ที่นักกิน (จุ) ชาวไทยหลงรัก

LINE TODAY

เผยแพร่ 20 มิ.ย. 2565 เวลา 08.20 น.

ข่าวฉาววงการ 'บุฟเฟต์' กลับมาอีกครั้ง

ซ้ำร้อยร้านอาหารซีฟู้ดร้านดังร้านหนึ่งที่เคยเปิดขายบุฟเฟต์ราคาถูก แต่สุดท้ายกลายเป็นมหากาพย์การโกง ล่าสุดเมื่อร้านอาหารญี่ปุ่นเฟรนไชส์เปิดขายเวาเชอร์บุฟเฟต์ราคา 199 บาท สร้างความฮือฮาแก่สาวกนักกิน แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อไม่กี่วันต่อมา เพจร้านอาหารดังกล่าวกลับปิดตัว ติดต่อไม่ได้ เรื่องราวบานปลายจนผู้เสียหายทยอยแจ้งความ ส่วนเจ้าของกิจการยังลอยนวล

ความเย้ายวนของบุฟเฟต์ ที่เน้นความ 'คุ้มค่า' จนกลายมาเป็นจุดขายยั่วน้ำลายเหล่านักกิน มีที่มาที่ไปอย่างไร เราพาไปสำรวจกันถึงยุคไวกิ้งกันเลยทีเดียว!

โต๊ะแห่งจิตวิญญาณ

เริ่มต้นที่ศตวรรษที่ 16 ชาวสวีดิชได้ริเริ่มธรรมเนียมจัดโต๊ะอาหารแบบ'ตักได้ไม่อั้น' ให้แขกผู้มาเยือน มีชื่อเรียกว่า Brännvinsbord แปลว่า 'โต๊ะแห่งจิตวิญญาณ'

โต๊ะแห่งจิตวิญญาณนี้ รวบรวมอาหารจำพวกหยิบจับสะดวก อย่างขนมปัง เนย ชีส ปลารมควัน และเนื้อหมัก โดยมี 'วอดก้า' ที่หมักจากมันฝรั่งหรือธัญพืชเป็นพระเอกของธรรมเนียมดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเบียร์แกล้มเพิ่มสีสันอีกด้วย

ขอบคุณภาพจาก Franz Schekolin | Unsplash
ขอบคุณภาพจาก Franz Schekolin | Unsplash

จากที่เคยเป็นธรรมเนียมโต๊ะรับแขก ต่อมาในศตวรรษที่ 18 โต๊ะแห่งจิตวิญญาณนี้ได้กลายเป็นอาหารมื้อหลัก และเปลี่ยนชื่อเป็น Smörgåsbord จัดขึ้นสำหรับต้อนรับแขกและนักเดินทางที่กลับมาจากการเดินทางไกล เริ่มมีอาหารจานร้อนจัดวางบนโต๊ะด้วย แต่ยังเน้นอาหารสไตล์สวีดิช อย่าง ปลาหมักเกลือ ไข่ ผลไม้และผักเหมือนเดิม

โต๊ะบุฟเฟต์แบบสวีดิชนี้ยังต่างจาก 'บุฟเฟต์' แบบในปัจจุบัน ตรงที่ทุกอย่างไม่ได้ฟรี แต่ถูกเสิร์ฟมาเป็นลำดับอย่างเคร่งครัด ป้องกันไม่ให้แขกกินทุกอย่างในคราวเดียว ต่อมากลายเป็นสำนวนที่น่าสนใจของประเทศสวีเดน ว่า 'วิธีที่จะรู้ว่าคนนี้ไม่ใช่คนสวีเดน คือวิธีที่เขาหยิบอาหารทุกอย่างใส่จานในทีเดียว'

ธรรมเนียมจากโต๊ะแห่งจิตวิญญาณนี้ เพิ่งมาโด่งดังเมื่อปี 1912 ช่วง สตอคโฮล์มโอลิมปิกเกม (Stockholm Olympic's Games) เมื่อร้านอาหารในเมืองจัดโปรโมชันขายอาหารสไตล์นี้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามาดูกีฬา

ต่อมาในปี 1939 ที่งาน World's Fair ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันได้ลิ้มลองโต๊ะแห่งจิตวิญญาณในพาวิลเลียนของประเทศสวีเดน ซึ่งภายหลังจากนั้น 'โต๊ะอาหารแบบตักไม่อั้น' ก็เริ่มโด่งดังขึ้นมาในประเทศอเมริกา

จิตวิญญาณที่ส่งต่อถึงอเมริกา

แม้จะไม่ได้มีหลักฐานว่าคนคนนี้ไปร่วมงาน World's Fair ที่นิวยอร์ก แต่พนักงานในกาสิโนรีสอร์ตนามว่านายเฮิร์บ แมคโดนัลด์ (Herb McDonald) ดูเหมือนจะได้รับแรงบันดาลจากธรรมเนียมสวีเดนนี้ไปเต็มๆ

ลาสเวกัส (Las Vegas) ในปี 1945 เป็นเมืองท่องเที่ยวกลางทะเลทรายที่กำลังเริ่มเบ่งบาน ตำนานของจุดเริ่มต้นบุฟเฟต์อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบันเริ่มต้นที่นี่ เมื่อนายเฮิร์บ แมคโดนัลด์ พนักงานที่ทำงานอยู่ในกาสิโน El Rancho Vegas ตั้งใจจะนำชีส เนื้อหมัก และขนมปังมาทำแซนด์วิชกินเองที่บาร์ แต่บังเอิญมีนักท่องเที่ยวผ่านมาเห็นและขอร่วมวงกินด้วย จึงเกิดปิ๊งไอเดียว่าหากจะทำแซนด์วิชให้พวกเขากินเฉยๆ ก็จะเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากการเล่นกาสิโนของพวกเขามากเกินไป

นายเฮิร์บจึงริเริ่มตั้งโต๊ะบุฟเฟต์แบบสวีดิช สำหรับนักพนันให้เดินมาหยิบของกินแบบตักไม่อั้น ทั้งอิ่มท้อง ทั้งยังได้กลับไปเล่นกาสิโนต่อ ถือว่าวินๆ ทั้งสองฝ่าย กลายมาเป็นจุดขายเด่นของกาสิโนรีสอร์ตแห่งนี้ ที่เปิดบุฟเฟต์ 24 ชั่วโมง โดยคิดเงินลูกค้าแค่ 1 เหรียญ

นอกจากบุฟเฟต์จะกระจายความฮิตไปทั่วลาสเวกัส บุฟเฟต์ยังกลายเป็นเทรนด์การกินสุดฮิตที่หากินได้ทั่วโลก ลำพังในประเทศไทยเอง ก็จัดมาหมดแล้วทั้งบุฟเฟต์นานาชาติ แซลมอน หมูกระทะ ไปจนถึงบุฟเฟต์ทุเรียน สุดแล้วแต่นักกินชาวไทยจะสรรหาทดลอง!

ขอบคุณภาพจาก Ulysse Pointcheval | Unsplash
ขอบคุณภาพจาก Ulysse Pointcheval | Unsplash

ที่มา :

foodandwine.com

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0