ข่าวฉาววงการ 'บุฟเฟต์' กลับมาอีกครั้ง
ซ้ำร้อยร้านอาหารซีฟู้ดร้านดังร้านหนึ่งที่เคยเปิดขายบุฟเฟต์ราคาถูก แต่สุดท้ายกลายเป็นมหากาพย์การโกง ล่าสุดเมื่อร้านอาหารญี่ปุ่นเฟรนไชส์เปิดขายเวาเชอร์บุฟเฟต์ราคา 199 บาท สร้างความฮือฮาแก่สาวกนักกิน แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อไม่กี่วันต่อมา เพจร้านอาหารดังกล่าวกลับปิดตัว ติดต่อไม่ได้ เรื่องราวบานปลายจนผู้เสียหายทยอยแจ้งความ ส่วนเจ้าของกิจการยังลอยนวล
ความเย้ายวนของบุฟเฟต์ ที่เน้นความ 'คุ้มค่า' จนกลายมาเป็นจุดขายยั่วน้ำลายเหล่านักกิน มีที่มาที่ไปอย่างไร เราพาไปสำรวจกันถึงยุคไวกิ้งกันเลยทีเดียว!
โต๊ะแห่งจิตวิญญาณ
เริ่มต้นที่ศตวรรษที่ 16 ชาวสวีดิชได้ริเริ่มธรรมเนียมจัดโต๊ะอาหารแบบ'ตักได้ไม่อั้น' ให้แขกผู้มาเยือน มีชื่อเรียกว่า Brännvinsbord แปลว่า 'โต๊ะแห่งจิตวิญญาณ'
โต๊ะแห่งจิตวิญญาณนี้ รวบรวมอาหารจำพวกหยิบจับสะดวก อย่างขนมปัง เนย ชีส ปลารมควัน และเนื้อหมัก โดยมี 'วอดก้า' ที่หมักจากมันฝรั่งหรือธัญพืชเป็นพระเอกของธรรมเนียมดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเบียร์แกล้มเพิ่มสีสันอีกด้วย
จากที่เคยเป็นธรรมเนียมโต๊ะรับแขก ต่อมาในศตวรรษที่ 18 โต๊ะแห่งจิตวิญญาณนี้ได้กลายเป็นอาหารมื้อหลัก และเปลี่ยนชื่อเป็น Smörgåsbord จัดขึ้นสำหรับต้อนรับแขกและนักเดินทางที่กลับมาจากการเดินทางไกล เริ่มมีอาหารจานร้อนจัดวางบนโต๊ะด้วย แต่ยังเน้นอาหารสไตล์สวีดิช อย่าง ปลาหมักเกลือ ไข่ ผลไม้และผักเหมือนเดิม
โต๊ะบุฟเฟต์แบบสวีดิชนี้ยังต่างจาก 'บุฟเฟต์' แบบในปัจจุบัน ตรงที่ทุกอย่างไม่ได้ฟรี แต่ถูกเสิร์ฟมาเป็นลำดับอย่างเคร่งครัด ป้องกันไม่ให้แขกกินทุกอย่างในคราวเดียว ต่อมากลายเป็นสำนวนที่น่าสนใจของประเทศสวีเดน ว่า 'วิธีที่จะรู้ว่าคนนี้ไม่ใช่คนสวีเดน คือวิธีที่เขาหยิบอาหารทุกอย่างใส่จานในทีเดียว'
ธรรมเนียมจากโต๊ะแห่งจิตวิญญาณนี้ เพิ่งมาโด่งดังเมื่อปี 1912 ช่วง สตอคโฮล์มโอลิมปิกเกม (Stockholm Olympic's Games) เมื่อร้านอาหารในเมืองจัดโปรโมชันขายอาหารสไตล์นี้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามาดูกีฬา
ต่อมาในปี 1939 ที่งาน World's Fair ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันได้ลิ้มลองโต๊ะแห่งจิตวิญญาณในพาวิลเลียนของประเทศสวีเดน ซึ่งภายหลังจากนั้น 'โต๊ะอาหารแบบตักไม่อั้น' ก็เริ่มโด่งดังขึ้นมาในประเทศอเมริกา
จิตวิญญาณที่ส่งต่อถึงอเมริกา
แม้จะไม่ได้มีหลักฐานว่าคนคนนี้ไปร่วมงาน World's Fair ที่นิวยอร์ก แต่พนักงานในกาสิโนรีสอร์ตนามว่านายเฮิร์บ แมคโดนัลด์ (Herb McDonald) ดูเหมือนจะได้รับแรงบันดาลจากธรรมเนียมสวีเดนนี้ไปเต็มๆ
ลาสเวกัส (Las Vegas) ในปี 1945 เป็นเมืองท่องเที่ยวกลางทะเลทรายที่กำลังเริ่มเบ่งบาน ตำนานของจุดเริ่มต้นบุฟเฟต์อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบันเริ่มต้นที่นี่ เมื่อนายเฮิร์บ แมคโดนัลด์ พนักงานที่ทำงานอยู่ในกาสิโน El Rancho Vegas ตั้งใจจะนำชีส เนื้อหมัก และขนมปังมาทำแซนด์วิชกินเองที่บาร์ แต่บังเอิญมีนักท่องเที่ยวผ่านมาเห็นและขอร่วมวงกินด้วย จึงเกิดปิ๊งไอเดียว่าหากจะทำแซนด์วิชให้พวกเขากินเฉยๆ ก็จะเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากการเล่นกาสิโนของพวกเขามากเกินไป
นายเฮิร์บจึงริเริ่มตั้งโต๊ะบุฟเฟต์แบบสวีดิช สำหรับนักพนันให้เดินมาหยิบของกินแบบตักไม่อั้น ทั้งอิ่มท้อง ทั้งยังได้กลับไปเล่นกาสิโนต่อ ถือว่าวินๆ ทั้งสองฝ่าย กลายมาเป็นจุดขายเด่นของกาสิโนรีสอร์ตแห่งนี้ ที่เปิดบุฟเฟต์ 24 ชั่วโมง โดยคิดเงินลูกค้าแค่ 1 เหรียญ
นอกจากบุฟเฟต์จะกระจายความฮิตไปทั่วลาสเวกัส บุฟเฟต์ยังกลายเป็นเทรนด์การกินสุดฮิตที่หากินได้ทั่วโลก ลำพังในประเทศไทยเอง ก็จัดมาหมดแล้วทั้งบุฟเฟต์นานาชาติ แซลมอน หมูกระทะ ไปจนถึงบุฟเฟต์ทุเรียน สุดแล้วแต่นักกินชาวไทยจะสรรหาทดลอง!
ที่มา :
ความเห็น 6
phaitoon
ไม่ใช่แค่ไทยทั่วโลกมี และไม่ได้เริ่มที่ไทยเป็นที่แรก
21 มิ.ย. 2565 เวลา 13.22 น.
🧸-Myz:oMi-🧸
จิตวิญญานที่กุต้องเน้นกินกุ้ง ปู ให้เต็มพุง
21 มิ.ย. 2565 เวลา 13.15 น.
สัญญพันธ์ (ลุงปุ้ง)
กินหมูสไลด์ให้ได้สักโล-กุ้งให้ได้สักโลพอเป็นออเดริฟ์ แล้วค่อยตักอาหารอื่นๆมาทีหลัง ปิดท้ายขนมหวาน-ไอศครีม ราคาเท่าไรก็คุ้ม..ไม่ต้องแอบต้องซ่อนอะไรให้เค้าปรับ เพราะเกลี้ยงอยู่แล้ว
16 ต.ค. 2565 เวลา 08.41 น.
งานแต่ง งานวัดสมัยก่อน ก็ตักไม่อั่นนี่ครับ
31 ก.ค. 2565 เวลา 02.06 น.
ดูทั้งหมด