(2 มี.ค. 68) ‘เปิ้ล ไอริณ’ เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.คันนายาว พร้อมทนายอัครเดช หวังสุข และ ทนายนพฤทธิ์ จันทร์สุวรรณ เข้าแจ้งความหมิ่นประมาท กรณี ‘อินฟลูเล่าข่าว’ ได้โพสต์คลิปโดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ในแอพพลิเคชั่น TikTok ที่โพสต์ไว้เมื่อปี 2566
เปิ้ล ไอริณ เผยว่า ปกติไม่เล่นติ๊กต็อก แต่วันนั้นเข้าไปเห็นคลิปที่อินฟลูฯสาวโพสต์ มีการกล่าวพูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญในชีวิตของเปิ้ลก็คือคุณแม่ ทุกวันนี้ก็ยังห้อยกระดูกแม่ติดตัว โดยเปิ้ลได้สืบมาแล้วว่า เขาเป็นใคร ทำอะไร
รวมไปถึงคนที่เข้ามาคอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าวด้วยว่า ที่มีการด่าด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงแม่ ตา ยาย ใครที่แตะถึงบรรพบุรุษ เปิ้ลเอาเรื่องทุกคน ให้เวลา 3 วันรีบลงทิ้ง หากไม่ลบจะให้ทางทนายจัดการทั้งหมด
เปิ้ล กล่าวว่า ที่ผ่านมาขอให้จัดการให้เรียบร้อย แต่ 1 เดือนผ่านไป ยังไม่มีการตอบกลับ หากจะมาขอโทษ ทุกคำด่ามีค่าใช้จ่าย ตนเองมาที่ สน.ก็ต้องมีการจ้างทนายความ ในทุกเดือนเปิ้ลจะนำเงินไปบริจาคให้กับทหารผ่านศึก เงินที่ได้จากการฟ้องก็จะนำไปมอบให้กับทหารผ่านศึกเช่นกัน โดยฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย 1 ล้านบาท ก็เห็นคู่กรณีนั่ง first class อยู่ตลอดเวลา เงินจำนวนเท่านี้คงไม่ได้มาก แต่มันมากสำหรับการเอาไปช่วยทหารผ่านศึก
เปิ้ล ยังได้โพสต์ภาพคุณแม่และข้อความว่า เนื่องในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. เปิ้ลจะไปแจ้งความในคดีหมิ่นประมาทออนไลน์ ซึ่งตั้งแต่เปิ้ลอยู่ในวงการมาเกือบ 30 ปี ครั้งนี้ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทที่รุนแรงที่สุด โดยนักข่าวและพิธีกรคนดังได้กล่าวพาดพิงและสร้างความเกลียดชัง ชักชวนผู้อื่นให้เข้ามาด่าทอ ด้อยค่าเปิ้ล ถึงเรื่องที่เปิ้ลเคยแสดงออกในการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และบุคคลนี้ ได้กล่าวลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเปิ้ล ซึ่ง ณ ที่นี้ ทุกคนจะรู้ดีว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในชีวิตเปิ้ล ที่เปิ้ลระลึกและพูดถึงอยู่เสมอ ก็คือคุณแม่ของเปิ้ล แม้คุณแม่จะจากไป เป็นคนบนฟ้านับ 10 ปีแล้ว แต่ทุกๆปี เปิ้ลก็ยังคงระลึกถึงท่าน ทำบุญทุกวันครบรอบ นำกระดูกแม่มาห้อยคอติดตัวเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดและยังสวดมนต์แผ่เมตตาให้ท่านทุกคืน ไม่เคยขาด!!
….การอยู่ในวงการนี้ จะด่าทำร้าย….การใช้พื้นที่ในโลกโซเชียล ถือเป็นสิ่งพึงระวัง หากพาดพิงถึงบุคคลอื่นที่เราไม่รู้จัก ด้วยความเกลียดชัง เพื่อสร้างยอดไลค์ สามารถสร้างความเสียหาย มีโทษอาญาถึงขั้นจำคุก และถ้าบุคคลนั้น ยิ่งเป็นบุคคลสาธารณะ ที่มีอิทธิพลกับคนหมู่มาก ยิ่งพึงต้องระวัง โดยเฉพาะการใช้คำพูด ที่มีเจตนาในการสร้างความเกลียดชัง ในที่สาธารณะและสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่นทั้งทางด้านจิตใจและชื่อเสียง