“เศรษฐกิจดี” ทำไมประชาชนไม่รู้สึก? หรือรัฐคิดไปเองฝ่ายเดียว!
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอยากรู้คำตอบของคำถามที่ว่าจริง ๆ แล้วเศรษฐกิจของประเทศเรานั้นมันเป็นอย่างไร ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสถานการณ์ทางการเมืองนั้นมีผลอย่างมากต่อทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ ประเทศที่สถานการณ์ทางการเมืองมั่นคงเศรษกิจจะมีความแข็งแรงมาก แต่ประเทศไหนที่สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง เอาแน่เอานอนไม่ได้ เศรษฐกิจของประเทศนั้นก็จะไม่คงที่ตาม ซึ่งการเมืองของประเทศไทยนั้นเป็นอย่างไรคงไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ 4 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารบ้านเมืองของรัฐบาล คสช. เศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือแย่ลงนั้น เราจะทราบได้อย่างไร
เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้นจริงหรือ? สำคัญที่ถามใคร?
เรามักจะได้ยินรัฐบาลชี้แจ้งว่าเศรษฐกิจไทยกำลังดีขึ้นบ้าง ฟื้นตัวแล้วบ้าง ในขณะที่ไปไหนมาไหนก็มักจะได้ยินเสียงบ่นว่าเศรษฐกิจบ้าง ร้านค้าอยู่ไม่ได้บ้าง ขายของไม่ได้บ้าง เป็นหนี้เป็นสิน ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้
ตกลงว่าเศรษฐกิจของไทยนั้นกำลังฟื้นตัวและกำลังดีขึ้นจริงหรือ ทำไมคนจำนวนมากจึงรู้สึกว่าเศรษฐกิจแย่และพวกเขากำลังเดือดร้อนมากขึ้นทุกที ในขณะที่หากมองไปยังตัวเลขของรัฐบาลกลับบอกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว
เหตุใดคนจำนวนมากจึงรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังแย่เหลือเกินและทำไมผู้คนมากมายจึงมีความเห็นต่างกันมากในเรื่องนี้?
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ที่ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตนั้น ใช้ตัวเลขอัตราการเติบโตของจีดีพีประมาณร้อยละ 3 ต่อปี แต่จริง ๆ แล้วเวลาที่เศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตมาก ๆ นั้น ผู้คนจะรู้สึกว่าทำมาค้าขายได้คล่องตัว หาเงินง่าย ในอดีตนั้นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นอยู่ที่ประมาณ 6-7% หมายความที่เศรษฐกิจไทยกำลังเติบโตในปัจจุบันนั้นยังโตในอัตราที่ไม่สูงเลย และหากเทียบกับประเทศสมาชิกต่าง ๆ ในอาเซียน ประเทศไทยเรานั้นรั้งท้าย คือเติบโตด้วยอัตราที่ต่ำกว่าหลาย ๆ ประเทศเพื่อน ทั้งลาว กัมพูชา เมียนมาร์ มาเลเซีย
การส่งออก
มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในรูป USD ในเดือนมิถุนายน ปี 2560 ขยายตัวสูงถึง 11.7% เมื่อเทียบกับ มิถุนายน ปี 2559 รวมการส่งออกใน 6 เดือนแรกของปี 2560 ขยายตัวที่ 7.8% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปีเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจนได้เห็นอัตราการขยายตัวเป็นตัวเลข 2 หลัก ซึ่งไม่เคยเห็นมานานแล้ว ทำให้หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังดีขึ้น เพราะไทยพึ่งพาการส่งออกสินค้าถึงมากกว่า 50% ต่อขนาดเศรษฐกิจหรือจีดีพีของประเทศซึ่งถ้ารวมการส่งออกบริการที่ส่วนใหญ่คือการท่องเที่ยวเข้าไปด้วย ภาคการส่งออกรวมจะมีขนาดใหญ่ถึงเกือบ 70% ของจีดีพี
เมื่อเศรษฐกิจและการส่งออกไทย มีแนวโน้มดีขึ้น แล้วทำไมจึงมีคนบางส่วนที่ยังไม่รู้สึกว่าดีขึ้น เมื่อย้อนกลับไปดูตัวเลขการส่งออกของไทยในอดีต ก็พบว่ามูลค่าการส่งออกของไทยลดลงมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2555 จากที่เคยส่งออกได้ถึง 229,084 ล้าน USD ก็ลดลงมาเรื่อย ๆ กระทั่งเหลือ 215,387 ล้าน USD ในปี 2559 ที่นับว่าก็กระเตื้องขึ้นบ้างแล้ว จากที่หดตัว 3 ปีติดต่อกัน ระหว่างปี 2556-2558 แม้การส่งออกใน 6 เดือนแรกปีนี้ จะทำได้ค่อนข้างดีจนขยายตัวได้ถึง 7.8% และถ้าภาครัฐสามารถทำให้ส่งออกทั้งปีโตได้ตามเป้าที่ 5% มูลค่าการส่งออกรวมของปี 2560 ก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเมื่อปี 2555
ใน 20-30 ปีมานี้ ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทยเติบโตเร็วๆนั้น การส่งออกเติบโตด้วยอัตราเป็นเลข 2 หลักเกือบตลอด มากกว่า 10% ขึ้นไป จึงเรียกได้ว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ การส่งออกของเราแทบจะไม่ขยายตัวเลย
ภาคการเกษตร
เมื่อไปดูในภาคเกษตร ซึ่งมีคนทำงานอยู่ในภาคนี้ถึงประมาณ 11 ล้านคน หรือคิดเป็นเกือบ 30% ของคนที่มีงานทำทั้งหมดในประเทศไทย พบว่า คนทำงาน 30% มีส่วนแบ่งในผลผลิตของประเทศหรือจีดีพีเพียงแค่ 8% ส่วนผลผลิตที่เหลืออีก 92% แบ่งกันไประหว่างคนอีก 70% ที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภาคบริการ นั่นคือคนจำนวนมากมีส่วนแบ่งจำนวนน้อย แม้ภาคเกษตรจะขยายตัวถึง 7.7% ในไตรมาสแรกปีนี้ ก็ยังไม่พอแบ่งได้อย่างทั่วถึงสำหรับคนเกือบ 11 ล้านคน
ดังนั้นภาคเกษตรที่ว่าดี ๆ หลัก ๆ ก็มาจาก ยางพารา ซึ่งราคาในตลาดโลกเริ่มสูงขึ้นในช่วงตั้งแต่ปลายปีที่แล้วถึงเดือน ก.พ. ปีนี้ ธุรกิจยางจึงได้ประโยชน์ แต่หลังจากนั้นราคาเริ่มตก และลดลงมากในไตรมาส 2 ธุรกิจยางจะได้ประโยชน์น้อยลงจากที่เคยได้อีกอย่างคือผลไม้ ซึ่งได้ทั้งราคาส่งออกดี และปริมาณส่งออกมาก ขณะที่ราคาส่งออกข้าว ยังไม่ดี แต่ที่มูลค่าส่งออกยังขยายตัวได้บ้าง เพราะขายปริมาณมาก ส่วนมันสำปะหลัง ทั้งปริมาณส่งออกและราคาลดลงทั้งคู่ และแม้สินค้าการเกษตรส่งออกได้ดีใน 6 เดือนแรกปีนี้ ด้วยอัตราการขยายตัวสูงถึง 17.9% ทว่าสัดส่วนในการส่งออกรวมก็น้อย จึงยังไม่พอที่จะทำให้คนในภาคเกษตรทั้งหมดรู้สึกดีขึ้น ฉะนั้นแม้ดูรวมๆแล้วภาคเกษตรจะดี แต่ก็ดีไม่กี่ตัว และโดยรวมๆราคาสินค้าเกษตรปัจจุบันก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าที่เกษตรกรเคยขายได้ในปี 2554-2555
หนี้ครัวเรือนและหนี้ภาคแรงงาน
หนี้ครัวเรือนไทยขยายตัวต่อเนื่อง ณ สิ้นไตรมาสแรก ปี 2560 ครัวเรือนไทยมีหนี้สินรวมเท่ากับ 11,480,921 ล้านบาท คิดเป็น 78.6% ของจีดีพี นับว่าสูงเป็นอันดับต้นๆในภูมิภาคเอเชีย จากผลการวิจัยของนางโสมรัศมิ์ จันทรัตน์ และ น.ส.อัจนา ล่ำซำ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ้งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยมุมมองใหม่หนี้ครัวเรือนไทยว่า 1 ใน 3 ของประชากรไทยทั้งหมด 69 ล้านคนเป็นหนี้ในระบบ ค่าเฉลี่ยหนี้ต่อคนอยู่ที่ 150,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้ไม่รวมหนี้เพื่อการศึกษา หนี้จากสหกรณ์ และหนี้นอกระบบ
เดือนเมษายนปีนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจสถานภาพแรงงานไทยจากการสุ่มตัวอย่าง พบว่า แรงงานไทยส่วนใหญ่ 97% ระบุมีภาระหนี้ ส่วนอีก 3% ระบุไม่มีภาระหนี้ โดยแรงงานไทยมีหนี้เฉลี่ย 131,479 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 10.43% จากปีก่อน ซึ่งในแง่มูลค่าสูงสุดรอบ 8 ปี
ข้อมูลที่รวบรวมมานี้เป็นเพียงบางด้านของเศรษฐกิจไทย แต่ก็น่าจะพอตอบคำถามที่ว่าทำไมคนจำนวนหนึ่งหรือคนส่วนใหญ่จึงไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยดีขึ้นและทำไมจึงมีความเห็นแตกต่างจากตัวเลขของรัฐบาล
ที่ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวแล้วนั้น อัตราการเติบโตก็ยังต่ำ การส่งออกที่ว่าฟื้นตัวแต่อัตราการขยายตัวก็ยังต่ำมากมาหลายปี มีทั้งดีขึ้นและแย่ลง หนี้ในครัวเรือนที่พุ่งขึ้นบวกกับรายได้ของเกษตรกรที่ลดลง ทั้งจากการที่ทั้งราคาสินค้าเกษตรส่งออกและราคาสินค้าเกษตรที่ขายได้ลดลงมาโดยตลอด เมื่อคนจำนวนมากมีภาระหนี้สินสูง แต่รายได้ลดลงนั้น ทำให้กำลังซื้อไม่เพิ่ม คนค้าขายรายเล็กรายน้อยก็แย่ไปตามๆกัน คนกลุ่มนี้จึงไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจของไทยดีขึ้น ธุรกิจบางประเภทเติบโตด้วยเลข 2 หลัก ในขณะที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3 ก็ย่อมหมายความว่ามีหลายภาคส่วนที่โตด้วยอัตราต่ำมากๆหรือไม่ก็เป็นลบเลย ซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนส่วนมาก นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนจำนวนมากจึงบอกว่าเศรษฐกิจไทยนั้นแย่มากๆ ไม่ว่าใครจะยกตัวเลขสวยหรูอะไรมาก็ตาม
อ้างอิง
https://www.thaipost.net/main/detail/10618
ความเห็น 146
ประเทศกรูมี
20 ธ.ค. 2561 เวลา 01.07 น.
gung15
ถามพวกแม่ค้าพ่อค้าได้เลยว่าแย่ขนาดไหนรัฐบาลโกหกประชาชน
20 ธ.ค. 2561 เวลา 00.47 น.
gung15
แย่ทีสุดของทีสุดคนจนจะอดตายแล้วคนรวยก็รวยเอา
20 ธ.ค. 2561 เวลา 00.45 น.
Orasa
ขอแสดงความคิดเห็นบ้าง. ดีตรงไหนเป็นหนี้เพิ่มเพื่อนำเงินอนาคตมาใช้กิน. กินนะยังเบียดเสียด
19 ธ.ค. 2561 เวลา 13.14 น.
รับงาน M/C X= 1,600
รวยกระจุกจนกระจาย ชี้แนะนะคับ อบต.ทั่วประ จะมีงบลงทุน หาวิธี งานบางอย่าง ควรจ้างชาวบ้านในพื้นที่ คับ อย่างเช่น งบทำถนน หมู่บ้านใหน ก็ให้หมู่บ้านนั้นทำ เขาจะได้มีรายได้คับ จะได้ไม่รวยกระจุก ได้เงินแต่ผู้รับเหมาคนเดียว ชาวบ้านก็ทำได้ ขุดลอกคลอง ประมาณนี้คับ รับสมัครเอาชาวบ้านในพื้นที่ ครับ
18 ธ.ค. 2561 เวลา 02.00 น.
ดูทั้งหมด