โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ล้างแอร์ด้วยตัวเอง ทำได้ไม่ยาก ประหยัดไฟได้เยอะ

CondoNewb

อัพเดต 03 พ.ย. 2564 เวลา 10.18 น. • เผยแพร่ 03 พ.ย. 2564 เวลา 10.18 น.

          เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนั้น หากใช้ไปนาน ๆ โดยไม่ได้มีการล้างทำความสะอาด หรือล้างแอร์เลย แอร์ก็จะค่อย ๆ สะสมฝุ่นเข้าไปเก็บไว้ในเครื่อง นาน ๆ เข้าก็กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค สิ่งสกปรกต่าง ๆ และฝุ่นที่อยู่ในแอร์ ยังเข้าไปทำให้เกิดท่อแอร์อุดตัน จนแอร์ต้องทำงานหนักเกินกำลัง และเมื่อแอร์ทำงานหนักค่าไฟก็แพงเพิ่มขึ้น 

          แต่ในยุคปัจจุบันนี้ เราสามารถล้างแอร์ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องง้อช่างอีกต่อไปแล้ว เพราะมีน้ำยาล้างทำความสะอาดเอง จำหน่ายในท้องตลาดมากมาย แถมการล้างแอร์ด้วยตัวเองก็ทำได้ง่ายกว่าที่คิด ล้างได้ทั้งคอยล์เย็น คอยล์ร้อน ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทอง หรือเสียเวลาในการโทรหาร้านล้างแอร์ให้วุ่นวาย แต่จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้น วันนี้ CondoNewb จะมาแนะนำการล้างแอร์ด้วยตัวเอง ทำได้ไม่ยาก ประหยัดไฟได้เยอะ

 

. . . . . . . . . . . . .

 

ประโยชน์ดี ๆ ของการล้างแอร์

          ก่อนจะไปดูขั้นตอนต่าง ๆ ในการล้างแอร์ด้วยตัวเอง เรามาดูเหตุผลดี ๆ กันก่อนว่า ทำไมเราถึงต้องล้างทำความสะอาดแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ อย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ

 

1. ช่วยประหยัดค่าไฟ

                ข้อนี้เรียกว่าเป็นหัวใจสำคัญเลยในการล้างแอร์ จะล้างแอร์ด้วยตัวเอง หรือเรียกช่างมาล้างก็ได้ เพราะการล้างแอร์เป็นประจำนั้น ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากจริง ๆ ยิ่งในยุคที่ค่าไฟแพงขึ้นแบบนี้ด้วยแล้ว อะไรจะดีไปกว่าการประหยัดได้ทุกช่องทาง หากแอร์ของเราทำอุณหภูมิความเย็นอย่างสม่ำเสมอ คอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะทำงานไม่หนัก ใช้พลังงานน้อยลงเท่าไหร่ ก็จะช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้นเท่านั้น

 

2. ช่วยให้แอร์ทนทาน ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า

             การล้างแอร์เป็นการทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของแอร์ เพื่อกำจัดฝุ่นที่อยู่ภายในแผ่นกรองอากาศ ใบพัดแอร์ แผงคอยล์แอร์ ทั้งส่วนที่อยู่ในบ้าน หรือทำความสะอาดคอมเพรสเซอร์ส่วนที่อยู่นอกบ้าน เพื่อช่วยให้แอร์ดูดอากาศหมุนเวียนได้อย่างสะดวก เมื่อแอร์ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพมากขึ้น แอร์ไม่ต้องทำงานหนักในการทำความเย็นได้เร็วขึ้น เราก็จะเย็นสบาย ประหยัดไฟ และช่วยยืดอายุแอร์ให้ใช้ได้ไปนาน ๆ 

 

3. ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง

ฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะเป็นคราบสะสมอยู่ในแอร์ เป็นฝุ่นละอองเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็น ลอยปะปนในอากาศออกมา เวลาเราเปิดใช้งานแอร์ การล้างแอร์เป็นการกำจัดฝุ่น ที่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เชื้อรา และแบคทีเรียต่าง ๆ ที่ทำให้เราเจ็บป่วยไม่สบายได้ง่าย เช่น เป็นหวัด เป็นโรคภูมิแพ้ เป็นผื่นคัน หรือเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

 

4. ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์

          การหายใจได้อย่างเต็มปอด สูดอากาศได้อย่างเต็มที่ ทำให้ชีวิตของเราสดชื่น มีพลังในการทำงาน หากเราจัดตารางล้างแอร์อย่างเป็นประจำ ฝุ่นและสิ่งสกปรกก็จะไม่มีสะสม อากาศที่หมุนเวียนออกมาจากระบบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ก็จะเป็นอากาศบริสุทธิ์ ทุกคนในครอบครัวก็จะมีแต่ความสุขกายสบายใจ

 

. . . . . . . . . . . . . . .

 

ล้างแอร์ด้วยตัวเอง ต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง??

        ถึงแม้ว่าการล้างแอร์ด้วยตัวเอง จะไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป แต่เราก็ต้องมีอุปกรณ์ล้างแอร์ที่พร้อมอยู่พอสมควร ในการที่จะเป็นช่างแอร์จำเป็น แต่อุปกรณ์ที่ต้องใช้นั้นก็ไม่มีได้มีอะไรมาก ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ที่เราคุ้นเคย และมีอยู่ในบ้านแล้วนั่นเอง เรามาดูกันเลยว่าควรต้องมีอะไรบ้าง

  • หัวฉีดน้ำแบบทั่วไป หรือแบบแรงดันสูงก็ได้
  • สายยางแบบที่เราเอาไว้ใช้รดน้ำต้นไม้ 
  • ถังน้ำเอาไว้รองน้ำทิ้ง
  • ผ้ายางผืนยาว ๆ หรือแผ่นผ้าใบก็ได้ เอาไว้สำหรับรองน้ำไหลจากการฉีด
  • ไขควง 
  • ผ้าเทป หรือเทปกาว เอาไว้ติดผ้ายางกับแอร์
  • บันได
  • น้ำยาทำความสะอาด
  • โบลวเวอร์ หรือที่เป่าลม
  • ถุงพลาสติก
  • ผ้าขนหนูแห้ง เอาไว้ซับน้ำ เช็ดอุปกรณ์ และอะไหล่ต่าง ๆ 

 

. . . . . . . . . . . . . .

 

ขั้นตอนการทำความสะอาด และวิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง

  • ปิดการทำงานสวิตช์คัทเอาท์ ตัดระบบไฟแอร์เพื่อความปลอดภัย
  • เปิดหน้ากากเครื่องปรับอากาศ ใช้มือดึงแผ่นกรองอากาศ หรือแผ่นกรองฝุ่นออกจากเครื่อง
  • ขันน็อตยึดตัวรับสัญญาณรีโมตแอร์ บริเวณหน้ากากแอร์ออก ค่อย ๆ ขันน็อตยึดทีละตัว และถอดออกมา
  • ค่อย ๆ ถอดฝาครอบแอร์ออก
  • ขันน็อตตัวล็อกถาดน้ำทิ้งออก ถอดมอเตอร์บานสวิง 
  • ปลดตัวล็อคถาดน้ำทิ้ง เอาออกมาทำความสะอาด
  • ค่อย ๆ ถอดสลักบานสวิงลมออก
  • ครอบปิดฝาครอบแผงวงจรไฟฟ้าด้านข้าง ด้วยถุงพลาสติก ปิดให้มิดชิด
  • ขึงผ้ายาง หรือผ้าใบพลาสติกคลุมใต้แอร์ให้เป็นแนว หรือปลายพาดมาที่ถังรองน้ำทิ้ง กันไม่ให้น้ำกระเด็นเลอะผนังหรือพื้น
  • ฉีดล้างแผงคอยล์เย็น ด้วยหัวฉีดน้ำหรือหัวฉีดแบบแรงสูงให้ทั่ว
  • หลังล้างจนทั่วแล้ว ใช้โบลวเวอร์เป่าลม เป่าแผงคอยล์เย็น และแผงไฟฟ้าให้แห้งสนิท
  • ล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ แผ่นกรองฝุ่น ถาดน้ำทิ้ง หน้ากาก ฝาครอบแอร์ แล้วเช็ดให้แห้ง
  • ประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดกลับเข้าที่เดิม
  • ที่คอมเพรสเซอร์ด้านนอก ให้เราฉีดล้างคอยล์ร้อนให้สะอาด ไม่ต้องถอดชิ้นส่วนอะไรออกมา
  • หลังจากล้างแอร์ด้วยตัวเองครบทุกขั้นตอนแล้ว ให้เปิดแอร์ตามปกติ เพื่อให้ลมแอร์ไล่ความชื้นที่ค้างอยู่ และลองใช้รีโมตทดสอบระบบต่าง ๆ ว่าแอร์ทำงานปกติหรือไม่ โดยควรเปิดแอร์ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที 

 

 

ขั้นตอนวิธีล้างแอร์บ้านด้วยโฟมง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

  • ปัจจุบันการล้างแอร์ด้วยตัวเอง ด้วยการใช้น้ำยาล้างแอร์ หรือโฟมทำความสะอาด ก็เป็นอีกวิธีล้างแอร์ด้วยตัวเองที่สะดวกมาก ๆ เช่นเดียวกัน เพราะน้ำยาล้างแอร์จะช่วยกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรก ที่อยู่ภายในเครื่องปรับอากาศ สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ 
  • ปิดสวิตช์คัทเอาท์แอร์ก่อนเพื่อความปลอดภัย
  • เปิดฝาแอร์ด้านหน้า บางรุ่นจะเป็นฝาด้านบน แล้วถอดแผ่นกรองฝุ่นที่มีลักษณะเป็นตะแกรงตาข่าย นำไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาทำความสะอาด ใช้แปรงขนอ่อนขัดคราบสกปรกเบา ๆ ล้างน้ำแล้วแล้วนำไปตากให้แห้ง
  • หลังจากถอดแผ่นกรองฝุ่นออกแล้ว จะมองเห็นแผงคอยล์เย็นที่เป็นขดลวด จากนั้นให้ฉีดน้ำยาล้างแอร์ให้ทั่วแผงคอยล์ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที 
  • นำแผ่นกรองอากาศใส่กลับที่เดิม ปิดฝาครอบแอร์ แล้วทดลองเปิดแอร์ทำงานประมาณ 20-30 นาที
  • จุดที่จำเป็นในการล้างแอร์ด้วยตัวเอง
  • ไม่ว่าจะเป็นวิธีล้างแอร์บ้านด้วยโฟม หรือวิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง สิ่งสำคัญเลยคือการทำให้แอร์สะอาด ปราศจากคราบฝุ่นสกปรก หลายคนอาจจะลังเลว่า การล้างเองจะไม่เหมือนกับเรียกช่างแอร์มาล้าง บอกเลยว่าไม่ต้องกังวลไป และในการล้างแอร์นั้น มีอยู่ 3 ส่วนที่สำคัญ ในการทำให้แอร์กลับมาทำงานได้ดีคือ
  • แผงคอยล์เย็น คือแผงซี่ลวดที่เป็นตะแกรง เวลาเราเปิดหน้ากากแอร์ขึ้นมาก็จะมองเห็นได้ทันที
  • พัดลมแอร์ จะอยู่ด้านหลังแผงคอยล์เย็นอีกที คอยทำหน้าที่เป่าแอร์เย็น ๆ ออกมาจากเครื่อง
  • แผงคอยล์ร้อน จะเป็นส่วนอยู่ภายนอก ก็คือแผงที่ติดกับคอมเพรสเซอร์แอร์

 

. . . . . . . . . . . . . .

 

รู้จักกับน้ำยาล้างแอร์ ก่อนล้างแอร์ด้วยตัวเอง

             อุปกรณ์ล้างแอร์ น้ำยาล้างแอร์แต่ละชนิด มีคุณสมบัติการใช้งานแตกต่างกัน ทั้งน้ำยาล้างแอร์สำหรับล้างใบพัดลม น้ำยาล้างแอร์ หรือโฟมสำหรับล้างคอยล์แอร์ ควรเลือกให้เหมาะสม เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่า

 

  •    น้ำยาล้างแอร์แบบสเปรย์ สำหรับฉีดทำความสะอาดคอยล์เย็น ที่อยู่ตรงกับช่องรับอากาศฝุ่นละอองต่าง ๆ จะเกาะอยู่ตามซอกของคอยล์เย็น น้ำยาสเปรย์ใช้ฉีดพ่นกำจัดสิ่งสกปรกได้ดี น้ำยาล้างแอร์แบบสเปรย์ ฉีดทิ้งไว้ได้โดยไม่ต้องล้างซ้ำ สิ่งสกปรกต่าง ๆ จะไหลออกไปตามท่อระบายเอง ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว 

 

  •   น้ำยาล้างแอร์แบบโฟม สำหรับฉีดทำความสะอาดคราบสกปรกฝังแน่น ทั้งคอยล์เย็นและพัดลมแอร์จะเป็นที่สะสมฝุ่น และยากต่อการทำความสะอาด น้ำยาแบบโฟม กำจัดคราบฝังแน่นได้ดี เนื้อโฟมจะเข้าไปกำจัดคราบฝังลึก น้ำยาล้างแอร์แบบโฟม จะประกอบด้วยสเปรย์ 2 ชนิด คือ โฟมขจัดคราบ และโฟมสเปรย์ทำความสะอาด เหมาะกับการล้างแอร์ด้วยตัวเอง สำหรับแอร์ที่ไม่ได้ล้างมาเป็นเวลานาน 

 

. . . . . . . . . . .

 

แนะนำ 5 น้ำยาล้างแอร์น่าใช้ เหมาะสำหรับล้างแอร์ด้วยตัวเอง

 

                น้ำยาล้างแอร์มีด้วยกันหลายแบบหลายยี่ห้อ มีประสิทธิภาพและคุณสมบัติแตกต่างกัน ให้เลือกใช้งานอย่างมากมาย เราสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมกับที่อยู่อาศัยของเรา น้ำยาล้างแอร์ชนิดที่มีส่วนผสมของน้ำ สามารถกำจัดเชื้อราและแบคทีเรีย นอกจากนั้นยังมีน้ำยาล้างแอร์แบบผสมน้ำหอม หรือน้ำยาล้างแอร์แบบไม่มีกลิ่น ให้เลือกใช้อีกด้วย มาดูเลยว่ามียี่ห้อไหนน่าใช้งานกันบ้าง

 

1. โฟมล้างแอร์ 3M Air Foam 500ml MAGNOLIA

              โฟมล้างแอร์ 3M Air Foam กลิ่นดอกแมกโนเลีย น้ำยาทำความสะอาดแอร์สเปรย์โฟม สำหรับกำจัดคราบสกปรกที่แผงคอยล์เย็น ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา ล้างแผงคอยล์เย็นโดยไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ ช่วยกำจัดฝุ่นสกปรก เชื้อรา แบคทีเรีย กำจัดกลิ่นอับชื้น กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้อย่างหมดจด ปรับบรรยากาศให้หอมสดชื่น หลังฉีดทำความสะอาดแอร์จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การล้างแอร์เป็นเรื่องง่าย ยืดอายุแอร์ให้ใช้งานได้นาน ช่วยประหยัดค่าไฟ แถมยังเป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพราะไม่มีส่วนผสมของสารอันตราย

 

2. น้ำยาล้างแอร์ Blue Clean รุ่น BC001-S01

 

            น้ำยาล้างแอร์บลูคลีนชนิดสเปรย์ ใช้งานง่าย ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง Blue Clean BC001-S01 สามารถกำจัดคราบสกปรกต่าง ๆ รวมทั้งเชื้อราและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อากาศสามารถไหลเวียนได้ดีขึ้น เป็นน้ำยาล้างแอร์ที่ผ่านมาตรฐาน IEC 62321 ไม่มีการปนเปื้อนของสารโลหะหนัก ช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยในการใช้งาน ทำความสะอาดแอร์ได้ในเวลารวดเร็ว แถมยังปลอดภัยต่อสุขภาพ และไม่มีกลิ่นตกค้าง ปริมาณ 500 มิลลิลิตร สามารถใช้งานได้ 1-2 ครั้ง

 

3. โฟมล้างแอร์ Norca รุ่น Norca Foam

 

             โฟมทำความสะอาดแอร์ Norcaรุ่น Norca Foam สำหรับล้างแผงคอยล์เย็น มาพร้อมขวดใส่น้ำแบบปรับแรงดัน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ช่วยให้การล้างแอร์ด้วยตัวเองเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น เนื้อโฟมมีประสิทธิภาพในการกำจัดสิ่งสกปรกอุดตันได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงสามารถกำจัดเชื้อรา ฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่ตกค้างในท่อระบายน้ำแอร์ และยังกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างเห็นผล หลังล้างแอร์จะกลับมาทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดค่าไฟ ประหยัดค่าใช้จ่าย Norca Foam ไม่มีกลิ่นตกค้าง ไม่มีส่วนผสมของสารอันตราย ดีต่อสุขภาพ ปริมาณ 500 มิลลิลิตร สามารถใช้งานได้ 3-4 ครั้ง

 

4. โฟมล้างแอร์ SIMPLE GREEN 567g

 

              สเปรย์โฟมทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศแบรนด์ SIMPLE GREEN สำหรับทำความสะอาดแผงคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน สามารถทำความสะอาดได้ทั้งภายนอกและภายใน ใช้งานสะดวกไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ ไม่กัดกร่อนผิววัสดุและไม่ติดไฟ ช่วยให้การล้างแอร์เป็นเรื่องง่าย สามารถกำจัดฝุ่นและกลิ่นอับชื้นได้เป็นอย่างดี ช่วยคืนความสดชื่นให้กับที่พักอาศัย ปลอดจากสารพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

 

5. น้ำยาล้างแอร์ ARS 370ml

          ARS คลีนเนอร์สเปรย์ นวัตกรรมใหม่จากประเทศญี่ปุ่น ใช้ทำความสะอาด กำจัดคราบสกปรกฝังแน่น และช่วยดับกลิ่นแอร์ สร้างบรรยากาศหอมสดชื่น ARS คลีนเนอร์สเปรย์ ออกแบบหัวฉีดแบบ Trigger Jet ฉีดได้แรงมากขึ้น เพื่อให้การล้างแอร์ด้วยตัวเอง มีความสะดวกและมีประสิทธิภาพ สามารถล้างทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง มีสารสกัดจากใบชาเขียวช่วยลดกลิ่นอับชื้น และกำจัดกลิ่นต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี 

           แอร์หรือเครื่องปรับอากาศ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องใช้งานเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน ๆ แอร์ที่ไม่ได้ล้างจะทำงานหนักมากขึ้น 

 

. . . . . . . . . . . . .

 

          ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใส่ใจดูแล และบำรุงรักษาให้เป็นอย่างดี เพื่อแอร์จะได้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และใช้งานไปได้อย่างยาวนาน ซึ่งโดยปกติทั่วไป เราควรล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง และตรวจตราอุปกรณ์ทุกอย่างให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานอยู่เสมอ การล้างแอร์ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว ใครที่ยังไม่ได้ล้างแอร์ เราอยากชวนล้างแอร์ด้วยตัวเอง ทำได้ไม่ยาก ประหยัดไฟได้เยอะจริง ๆ ถ้าใครอยากพูดคุยกับเรา สามารถทักทายกันเข้ามาได้ที่ FB Page : CondoNewb ครั้งหน้าจะหยิบยกประเด็นอะไรมาฝาก อย่าลืมติดตามกันค่ะ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0