'ตาวิว'โผล่ปฏิเสธคดีฆ่าโหด'ป้าอี๊ด'ทิ้งสระ พบเบาะแสใหม่หิ้วสอบ'รปภ.ธนาคาร'
ตร.เค้นสอบ"ลูกชาย-ตาวิว"คนสนิทคดีฆ่าโหดยายเจ้าของสวนทุเรียนทิ้งศพตายเปลือยสระน้ำที่ระยอง ขณะที่ทั้งสองยืนยันบริสุทธิ์ เชื่อคนฆ่าคือคนใกล้ตัว พบเบาะแสใหม่สนิทกับ รปภ.ธนาคาร ล่าสดนำตัวมาสอบปากคำแล้ว
8 มี.ค.67 ความคืบหน้ากรณีพบศพนางฉวีวรรณ ใจช่วย อายุ 69 ปี หรือ ป้าอี๊ด อยู่บ้านเลขที่ 209 ม.10 ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง เจ้าของสวนทุเรียน โดยพบศพถูกฆาตกรรมมัดมือไพล่หลัง กางเกงพันศีรษะครอบด้วยถังพลาสติก ทิ้งศพตายเปลือยในสระน้ำ ภายในสวนทุเรียน ริมถ.ไร่อ้อย-เขายายพริ้ง ม.4 ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง
ต่อมา พ.ต.อ.พิมุข นาคขำพันธ์ ผกก.ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ได้เดินทางไปที่บ้านผู้เสียชีวิต ตรวจสอบพื้นที่ พร้อมเรียกผู้ใกล้ชิดสอบสวน ประกอบด้วย นายอลงกต อายุ 36 ปี บุตรชายผู้เสียชีวิต และ บุตรสาว 2 คน และบุตรชาย รวม 5 คน รวมทั้งนายณรงค์ จามจุรี อายุ 74 ปี คนดูแลสวนทุเรียน ส่วนนายวิว คนกรีดยาง ซึ่งเป็นคนสนิทผู้เสียชีวิต ตอนแรกยังไม่พบตัว ตำรวจจึงพุ่งเป้าไปที่คนใกล้ชิดเป็นหลักนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รู้ตัวแล้วศพตายเปลือยในสระ เป็นยายวัย 60 เจ้าของสวนทุเรียน ตร.เรียกสอบคนใกล้ชิด)
ล่าสุด พ.ต.อ.พิมุข นาคขำพันธ์ ผกก.สภ.ปากน้ำประแสร์ ระยอง ได้เรียกตัวนายบุญส่ง อิ่มมา อายุ 69 ปี หรือ นายวิว คนกรีดยาง และคนใกล้ชิดของ นางฉวีวรรณ ใจช่วย อายุ 60 ปี หรือ ป้าอี้ด ผู้เสียชีวิต หลังจากเมื่อวานยังไม่พบตัวเพราะออกไปหาปลา จนกระทั่งกลับมา จึงเข้ามาให้การ ที่ สภ.ปากน้ำประแสร์ในวันนี้
นายบุญส่ง หรือ ตาวิว ให้การว่า ตนเองออกไปหาปลา จึงไม่อยู่ จนกลับมาจึงรีบมาให้การ ตนเป็นคนกรีดยาง และช่วยผู้เสียชีวิตทำงาน พบผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 มี.ค.67 โดยขี่จยย.พาไปซื้ออุปกรณ์การเกษตรที่ตลาด แล้วก็พามาส่งที่บ้าน ต่อมายังพบเห็นนั่งอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่ได้คุยกัน จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าเสียชีวิตแล้ว ขอยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตาย และ ก็ไม่มีเหตุที่ตนเองจะต้องไปฆ่า พร้อมให้ตรวจสอบ
ทั้งนี้ จากแนวทางการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตกับนายอลงกต บุตรชายมักจะมีปากเสียงทะเลาะกับผู้เสียชีวิตบ่อยครั้ง และยังชอบทำลายข้าวของด้วย นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตยังเคยพูดให้ฟัง เกี่ยวกับเรื่องของบุตรชายที่ติดยาบ้า และเคยเข้าแจ้งความตำรวจให้มาตรวจสอบบุตรชาย รวมถึงยังพูดเกี่ยวกับมรดกที่ดินที่มีอยู่ว่าจะแบ่งให้กับลูกทั้ง 5 คน โดยคาดว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครอื่น ต้องเป็นคนใกล้ตัว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวบุตรชาย พร้อมด้วยลูกอีก 4 คน มาสอบสวนเพิ่มเติม แต่ทุกคนยังให้การปฏิเสธ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะบุตรชายผู้เสียชีวิต ปรากฎว่า ผลออกมาปัสสาวะสีม่วง มีสารเสพติด จึงควบคุมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะที่ลูกสะใภ้ ยืนยันหนักแน่นว่า อยู่ด้วยกันกับนายอลงกตตลอดเวลา สามีไม่ใช่คนฆ่าแม่แน่นอน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ได้เบาะแสใหม่ จากการตรวจสอบหลักฐานและกล้องวงจรปิด รวมถึงการสอบสวน พบว่าที่ผ่านมาผู้เสียชีวิต เดินทางไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร ธ.ก.ส. อ.นายายอาม จ.จันทบุรี บ่อยครั้ง และได้รับการดูแลอำนวยความสะดวก จาก รปภ.ของธนาคาร จนเกิดความสนิทสนม และเคยไปรับประทานอาหารด้วยกัน ล่าสุดตำรวจได้มีการควบคุมตัว รปภ.นายนี้ไปทำการสอบสวนแล้ว แต่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นอื่นทั้งหมด