เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนคงเคยประสบปัญหา 'ขัดใจกับครอบครัว' เรื่องการตกแต่งบ้านกันบ้าง
เพราะครอบครัวไทยส่วนมากมีลักษณะเป็นครอบครัวใหญ่ เมื่อต้องแชร์บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ และถึงวัยที่อยากจะปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เข้ากับรสนิยม วัยรุ่นไทยบางคนก็ต้องพบกับสถานการณ์ลำบากใจ เมื่อพบว่าของแต่งบ้านพ่อแม่นี่มันไม่โดนเอาเสียเลย!
ประกอบกับประเด็นชวนขบคิดเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน เมื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วมคนหนึ่งพบว่าหลังจากอพยพกลับบ้านเมื่อน้ำแห้ง ของในบ้านชิ้นเดียวที่ปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนคือ 'โซฟาไม้' เฟอร์นิเจอร์ของคุณแม่ เกิดเป็นข้อถกเถียงสนุกๆ ถึงความเป็นมาของโซฟาชิ้นนี้ ว่าทำไมมันถึงขึ้นแท่นเป็น 'ไอเท็มที่มีทุกบ้าน' แบบไม่มีอะไรมาล้มล้าง
และนอกจากโซฟา ยังมีไอเท็มปริศนาอีกหลายอย่างที่หันไปต้องเจอสักชิ้น เป็นสิ่งของที่ผู้หลักผู้ใหญ่ซื้อติดบ้าน แม้จะมีรูปร่างหน้าตาชวนขัดใจคนรุ่นใหม่ อาจด้วยการออกแบบหรือจุดประสงค์การใช้งาน แต่ลองมาส่องเหตุผลที่ว่าทำไมสิ่งของเหล่านี้จึงได้ใจผู้ใหญ่ แต่ไม่โดนใจวัยรุ่น พร้อมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่อ่านแล้วจะเข้าใจมุมมองของทั้งสองฝ่ายมากขึ้น
LINE TODAY ORIGINAL วันนี้จึงเสนอตอน 'ไอเท็มโดนใจแม่ แต่แหม..น่าจะถามกันก่อนซื้อเนอะ!'
โซฟาไม้ ที่ไหนมีบ้าน ที่นั่นมีเธอ
เริ่มกันด้วยไอเท็มตัวจี๊ดที่ชาวเน็ตเพิ่งพูดถึงกันไปหมาดๆ สำหรับ 'โซฟาไม้' ไอเท็มปริศนาที่เหมือนมีคุณสมบัติสะกดจิตผู้ใหญ่ในบ้านให้ต้องหาซื้อมาวางให้ได้ โดยไม่เกี่ยงตำแหน่งและขนาด!
ขัดใจตรงไหน? : ปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าตาของโซฟาไม้นั้นค่อนข้างจะสวนทางเทรนด์แต่งบ้านแห่งยุคอย่าง 'มินิมอล' อยู่ไม่น้อย นอกจากจะไม่สปาร์กจอยแล้ว ยังมักมาในขนาดครึ่งๆ กลางๆ จะนั่งก็พิงไม่ถึงพนัก จะนอนก็ขาติดที่พักแขน หากจะเลือกแบบไซส์ใหญ่สุดก็กลายเป็นโซฟาขนาดยักษ์ ที่ทั้งเทอะทะ แถมแข็งปั้ก วางตรงไหนต้องตั้งอยู่ตรงนั้นไปตลอดกาล
หากห้ามผู้ใหญ่ที่บ้านไม่ทัน ลองเพิ่มความสบายให้ตัวเองด้วยการตัดเบาะมาวาง เสริมความนุ่มนิ่มน่านั่ง หากได้โซฟาไม้มะค่าเนื้อด้านมา ก็มีหลายความเห็นแนะนำให้ขัดทำสีเพิ่มความใหม่ เพราะอย่าลืมว่าประโยชน์ของโซฟาไม้ประเภทนี้คือความทนทานระดับปีศาจ ที่ต่อให้โดนน้ำท่วมหรือพายุซัดก็ยังยืนหยัดเป็นเสาหลักของบ้านได้นานเท่านาน
หมอนขิด ฮิตที่สุดในใจคุณปู่คุณย่า
มาถึง 'หมอนขิด' หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า 'หมอนสามเหลี่ยม' ไอเท็มยอดฮิตที่ขาดไม่ได้สำหรับบ้านที่มีสมาชิกเป็นผู้ใหญ่ โดยหมอนสามเหลี่ยมจะมีแบบที่มาเดี่ยวๆ ทำหน้าที่เป็นหมอนเฉยๆ กับแบบที่พับและคลี่ออกมาได้กลายเป็นฟูกปูนอนอีกหนึ่งต่อ
ขัดใจตรงไหน? : ด้วยสีสันของหมอนสามเหลี่ยมที่มักมาเป็นลายไทย แถมขนาดก็ไม่เล็ก รูปทรงก็ออกจะไม่เหมือนใคร ทำให้จะนำไปวางตรงไหนก็ขัดใจวัยรุ่นแท้ๆ
แต่รู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้วหมอนขิดมีประวัติเก่าแก่ โดยทำมาจาก 'ผ้าขิด' ของภาคอีสาน เป็นไอเท็มสำคัญที่ผูกพันกับคนไทยอีสานมายาวนาน มักใช้เป็นเครื่องขอขมาญาติผู้ใหญ่ หรือมอบให้กันในงานบวชหรืองานแต่งงาน
ส่วนอีกหนึ่งข้อดีที่อาจปัดเป่าความขัดใจได้สักเล็กน้อยคือหมอนขิดมีคุณสมบัติช่วยให้ไม่ปวดหลังจากการนั่งนานๆ ลองมองหาหมอนขิดลายมินิมอลที่มีขายทั่วไปในท้องตลาดเพื่อทดลองใช้ดู อาจนั่งสบายจนสู่ขิตสมชื่อหมอนขิดไปเลยก็ได้นะวัยรุ่น!
เสื่อน้ำมัน ที่ไม่เคยจะเข้ากัน
บ้านคนไทยกับเสื่อน้ำมันนับเป็นของคู่กัน เพราะเป็นวัสดุหาง่าย ราคาถูก ปูแล้วทำให้บ้านเย็นสบาย ทั้งยังสามารถประหยัดงบส่วนปูพื้นไปทุ่มทุนกับส่วนอื่นของบ้าน จะให้ดูเป็นบ้านคนไทยแท้ต้องปูเสื่อน้ำมันหลากสี เหมือนมาจากคนละม้วน แบ่งโซนห้องตามสีเสื่อไปเลยมันจึงจะถึงใจ!
ขัดใจตรงไหน? : ก็ขัดใจตรงสีสันนี่แหละ! บางบ้านคุณพ่อคุณแม่เลือกเสื่อน้ำมันโดยเน้นโทนซัมเมอร์สไตล์ไทย หรือจะเลือกใช้ลายดอกไม้นานาพันธุ์ต่างก็ทรมานใจวัยหวานอย่างเราทั้งนั้น ยังไม่นับความ 'พัง' ของเสื่อน้ำมันที่หากปูไม่ดีหรือใช้เสื่อที่ไม่ได้คุณภาพ เสื่อจะฉีกขาดและมีสภาพไม่น่าดูเลยทีเดียว
แต่อย่าเพิ่งทะเลาะกัน! เพราะรู้ไหมว่าไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ประเทศเกาหลีหรือญี่ปุ่นก็ใช้วัสดุประเภทนี้ปูพื้นเช่นกัน เพียงแต่เจ้าของบ้านต้องเลือกเสื่อน้ำมันคุณภาพดี ส่วนเรื่องสีสันในสมัยนี้เสื่อน้ำมันก็มีหลากหลายแบบให้เลือก ตั้งแต่ลายไม้แบบเซน ไปจนถึงลายหินอ่อนเรียบหรูเลยทีเดียว
เสื่อกก ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้
อีกหนึ่งไอเท็มที่ผู้เฒ่าผู้แก่ต้องขอมีติดบ้าน 'เสื่อกก' ผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาชาวไทยที่พบเห็นได้แทบทุกจังหวัด ประวัติศาสตร์ของเสื่อกกคือดั้งเดิมคนไทยจะทำไว้ใช้เองหรือแจกจ่ายหมู่ญาติ สมัยก่อนใช้กกเหลี่ยมที่ขึ้นเองตามธรรมชาติในการทอ แต่เมื่อมีการเพาะกกกลมเป็นวัสดุ การทอเสื่อจึงเริ่มพัฒนาเป็นการทำกันเป็นกลุ่มก้อน บ้างทำไว้ใช้ในงานบุญหมู่บ้าน หรือเพื่อการจำหน่าย มีการคิดค้นลวดลายสีสันแปลกใหม่ตามแต่ละท้องที่
ขัดใจตรงไหน? : จุดเด่นของเสื่อกกคือความเหนียวแน่นทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนานหากไม่นำไปใช้แบบสมบุกสมบัน แต่ด้วยหน้าตาและสีสันของเสื่อกกที่ค่อนข้าง 'เชย' กล่าวคือมีโทนสีไม่หลากหลาย นำมาตกแต่งกับบ้านสมัยใหม่ยาก ทำให้วัยรุ่นมักมองข้ามไอเท็มชนิดนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
วัยรุ่นอาจลองมองที่จุดกึ่งกลางในความเป็น 'ภูมิปัญญา' และความเป็นมาของเสื่อกก ว่าภายใต้รูปลักษณ์ธรรมดาๆ ไม่น่าดึงดูดใจ เสื่อกกก็เต็มไปด้วยความตั้งใจของช่างทอเสื่อ ถือว่าได้ใช้ของแฮนด์คราฟต์ระดับไทยทำไทยใช้เชียวนะเออ!
ศาลพระภูมิ สุดขลัง
ตามความเชื่อทางศาสนาพุทธและพราหมณ์ฮินดู คนไทยจะอัญเชิญผีเจ้าที่เจ้าทางหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาปกป้องคุ้มครอง และรักษาบ้านเรือนหรือสถานที่ให้มีความเป็นสิริมงคล และเมื่อมี 'ศาลพระภูมิ' อยู่ในบ้าน เจ้าที่หรือผีเจ้าที่ ก็จะได้รับการทำพิธีแต่งตั้งให้เป็น พระหรือพระภูมิ มีหน้าที่ปกปักดูแลที่อยู่อาศัยนั้นๆ
ขัดใจตรงไหน? : ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แม้ความเป็นพุทธยังคงมีในตัว แต่รูปลักษณ์ของศาลพระภูมิอาจไม่ถูกใจคนสมัยใหม่อีกต่อไป โดยเฉพาะเจ้าของบ้านแนวน้อยแต่มาก เรียบแต่เท่ การมีศาลพระภูมิสีทองผูกผ้าสามสีอยู่บริเวณบ้านคงชวนให้สถาปนิกส่ายหัวเบาๆ
โชคดีที่ปัจจุบันนักออกแบบหรือดีไซเนอร์ชาวไทยเข้าใจปัญหานี้ และเริ่มมีการออกแบบศาลพระภูมิรูปทรงเรียบๆ สไตล์มินิมอลมากขึ้น บางสถานที่ยังมีศาลพระภูมิที่ใส่ใจรายละเอียดถึงขนาดออกแบบศาลพระภูมิให้คล้ายกับตึกอยู่อาศัยเสียด้วยซ้ำ ส่วนบางครอบครัวก็เลือกสร้างศาลพระภูมิขึ้นเอง ให้เข้ากับวิถีชีวิตของเจ้าของบ้าน
เจ้าของบ้านที่มีทั้งผู้ใหญ่และเด็กอาจลองเปิดแค็ตตาล็อกศาลพระภูมิร่วมกัน เผื่อว่าพ่อแม่จะเปิดใจยอมให้พระภูมิได้อยู่ในบ้านโมเดิร์น วินๆ ทั้งเจ้าที่ และวัยรุ่นในบ้าน
หวังว่ามุมมองต่อไอเท็มสุดคลาสสิกทั้ง 5 ชิ้นของเราจะพอช่วยประคับประคองความสัมพันธ์ของครอบครัวได้บ้าง เพราะอย่าลืมว่า 'บ้าน' ต้องสร้างขึ้นจาก 'หัวใจ' ของทุกคน การเลือกของใช้ในบ้านก็ควรเลือกด้วยความรักและความเข้าใจเช่นกัน อย่าหลงลืมความชอบหรือรสนิยมของใครคนใดคนหนึ่งไปเลยนะ!
ว่าแต่ 'บ้าน' คุณล่ะ มีของอะไรในบ้านที่นับเป็นไอเท็มสุดคลาสสิกบ้างไหม?
อ้างอิง