โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

รู้จัก เรือดำน้ำของ OceanGate ที่หายไประหว่างสำรวจซาก 'ไททานิก' กับปฏิบัติการค้นหาที่ไม่ง่าย

MATICHON ONLINE

อัพเดต 21 มิ.ย. 2566 เวลา 04.50 น. • เผยแพร่ 20 มิ.ย. 2566 เวลา 08.22 น.
ปฏิยัติการค้นหา2

รู้จัก เรือดำน้ำของ OceanGate ที่หายไประหว่างสำรวจซากเรือไททานิก กับปฏิบัติการค้นหาที่ไม่ง่าย

เป็นปฏิบัติการ ที่คนทั้งโลกต่างร่วมกันเอาใจช่วย เมื่อ เรือดำน้ำขนาดเล็ก ที่พานักท่องเที่ยวลงไปสำรวจซากเรือไททานิก ในมหาสมุทรแอตแลนติก ขาดการติดต่อกับเรือโพลาร์ พรินซ์ ที่เป็นเรือสนับสนุนที่ขนส่งเรือลำนี้ไป และหายสาปสูญไปตั้งแต่เมื่อ 18 มิถุนายน ตามเวลาสหรัฐ

บ่ายวันที่ 19 มิถุนายน ตามเวลาในสหรัฐ พลตรีจอห์น เมาเกอร์ จากหน่วยยามฝั่งสหรัฐ แถลงข่าวว่า คาดว่ามีเวลาเหลืออยู่เพียง 70 ชั่วโมง จากเวลาเต็มทั้งหมด 96 ชั่วโมง

“ทีมกู้ภัยกำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มกำลัง และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อนำผู้ที่อยู่บนเรือกลับบ้านอย่างปลอดภัย” พลเรือตรีเมาเกอร์กล่าว

เรือดำน้ำ ลำดังกล่าว เป็นเรือดำน้ำไททัน ของบริษัทโอเชียน เกท บริษัทที่ให้บริการเรือดำน้ำ แบบมีลูกเรือ ที่มีวัตถุประสงค์ในการสำรวจ วิจัย เป็นเรือดำน้ำขนาดเท่ารถบรรทุก น้ำน้ำหนัก 23,000 ปอนด์ ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และไททาเนียม บรรทุกผู้โดยสาร 5 คน ดำลงไปใต้ท้องทะเล ลึกลงไป 3,800 เมตร ใต้ผิวมหาสมุทร โดยมีออกซิเจนเพียงพอสำหรับ 4 วัน หรือ 96 ชั่วโมง

ในผู้โดยสารทั้ง 5 คนนั้น จะมีคนขับเรือ 1 คน ผู้เชี่ยวชาญอีก 1 คน และ แขกที่นั่งไปด้วย 3 คน ซึ่งขณะนี้ ทราบชื่อว่า 1 ในนั้นคือ นายฮามิช ฮาร์ดิง มหาเศรษฐีนักธุรกิจและนักสำรวจชาวอังกฤษวัย 58 ปี ที่เพิ่งประกาศผ่านโซเชียลมีเดีย ว่าจะเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ซากไททานิก

ผู้โดยสารอีก 2 คนบนเรือ ได้แก่ ชาห์ซาดา ดาวูด นักธุรกิจชาวปากีสถาน และ สุเลมาน ดาวูด ลูกชายของเขา ซึ่งครอบครัว ได้ประกาศออกมา ดาวูด เป็นรองประธานของกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของปากีสถาน คือ Engro Corporation ซึ่งมีการลงทุนด้านปุ๋ย การผลิตยานยนต์ พลังงาน และเทคโนโลยีดิจิทัล ตามเว็บไซต์ของ SETI ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยในแคลิฟอร์เนียที่เขาเป็นผู้ดูแล เขาอาศัยอยู่ในอังกฤษกับภรรยาและลูกสองคน

ในการเดินทางของเรื่อง โอเชียน เกท ไปยังเรือไททานิกนี้ ออกเดินทางจาก เซนต์ จอห์น นิวฟาวด์แลนด์ ไปยังซากเรือที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 370 ไมล์ โดยทริปแต่ละครั้ง ใช้เวลาเดินทาง 8 วัน และจะใช้เวลาดำน้ำเพื่อไปยังซากเรือ และขึ้นสู่พื้นผิวประมาณ 8 ชั่วโมง

มีค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งราว 250,000 ดอลลาร์ หรือราว 8.7 ล้านบาท ซึ่งมีการรายงานว่า การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ของปี

Despite being in the middle of the North Atlantic, we have the internet connection we need to make our #Titanic dive operations a success – thank you @Starlink! pic.twitter.com/sujBmPr3JD

— OceanGate Expeditions (@OceanGateExped) June 1, 2023

โอเชียน เกท ก่อตั้งเมื่อปี 2009 โดย สต็อกตัน รัช มีเรือดำน้ำที่สร้างขึ้นเองหลายลำ รวมถึงเรือไททัน ที่ได้รับการออกแบบมาให้ลงไปในน้ำลึกได้ถึง 13,123 ฟุต หรือเกือบ 4,000 เมตร ซึ่งจำเป็นสำหรับการเยี่ยมชมซากเรือไททานิก ที่อยู่ลึกลงไปถึง 12,500 ฟุต หรือ 3,800 เมตร เรือไททันนั้น ใช้ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมของ Starlink ของ SpaceX เมื่ออยู่ในทะเล

ภายในเรือไททัน ที่มีขนาด 22 ฟุต เทียบขนาดเท่ากับรถมินิแวน มีเพียงช่องเดียว ที่ผู้โดยสารจะมองออกไปเห็นซากเรือ เรือควบคุมจากด้านในด้วยปุ่มกลมๆ ปุ่มเดียว และยังมีอุปกรณ์ที่มีหน้าจอสัมผัสและคอมพิวเตอร์

ซึ่ง CBC ได้รายงานว่าภายในเรือดังกล่าว ระบุ เรือดำน้ำนั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง ห้องน้ำ เนื่องจากต้องใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมง

บนเว็บไซต์ของ โอเชียนเกท ระบุว่า การสำรวจนี้จะดำเนินตามแนวทางของ NOAA สำหรับการสำรวจวิจัยและการกอบกู้เรือไททานิก และสอดคล้องกับแนวทางของยูเนสโก ในการอนุรักษ์มรดกโลกใต้น้ำ มีภารกิจคือ รวบรวมข้อมูลและรูปภาพสำหรับการศึกษาทางวิทยาศาสตร์

เรือดำน้ำ ถูกออกแบบให้แสดงผลอัตโนมัติ เมื่อพบปัญหาทางเทคนิค

เว็บไซต์ของ โอเชียน เกท ได้เปิดเผยว่า เรือไททัน มีความสามารถในการช่วยชีวิตเป็นเวลา 96 ชั่วโมง

นอกจากการเดินทางไปยังเรือไททานิคแล้ว โอเชียน เกท ยังแสดงรายการสำรวจต่างๆ ที่เรือดำน้ำได้ดำเนินการในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาทิ การสำรวจซากเรือดำน้ำประวัติศาสตร์ 4 ลำ ในมหาสมุทรแอตแลนติกนอกชายฝั่งโรดไอส์แลนด์ รวมถึง เรือ อู ในเยอรมนี 1 ลำ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ในการค้นหาที่กำลังดำเนินอยู่นี้ เจ้าหน้าที่ยามฝั่งสหรัฐ ได้เริ่มสแกนหาพื้นผิวมหาสมุทร เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อมีรายงานว่าเรือหายไป โดยใช้ทั้ง เรือ เครื่องบิน และอุปกรณ์เรดาร์ ไปสแกน ทั้งยังใช้ ทุ่นโซนาร์ และ อุปกรณ์โซนาร์ในเรือพาณิชย์ เพื่อใช้ตรวจจับเสียงใต้น้ำด้วย

โอเชียน เกท ระบุว่า ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐบาล และ บริษัทในทะเลลึกอย่าง เดอะ โพลาร์ พรินซ์ ที่เป็นเรือรองรับเรือดำน้ำ ที่เข้าไปช่วยค้นหา

เดวิด โพก์ นักข่าวของซีบีเอสที่เคยเดินทางไปกับเรือดำน้ำไททันเมื่อปีที่ผ่านมา บอกว่า ผู้โดยสารจะถูกปิดตายอยู่ภายในเรือจากสลักเกลียว 17 ตัว ที่อยู่ภายนอก ดังนั้น ไม่มีทางที่จะหลบหนีได้ แม้ว่าจะสามารถขึ้นสู่ผิวน้ำด้วยตัวเองได้ก็ตาม เพราะผู้โดยสารจะไม่สามารถออกจากเรือดำน้ำได้ หากลูกเรือสนับสนุนที่อยู่ด้านนอกไม่เปิดให้

“ไม่มีทางใดๆ ที่จะติดต่อสื่อสารกับเรือดำน้ำได้ เพราะทั้งจีพีเอสและวิทยุไม่สามารถที่จะทำงานได้ใต้ท้องทะเล อย่างไรก็ดี เมื่อเรือสนับสนุนอยู่เหนือเรือดำน้ำโดยตรง พวกเขาสามารถส่งข้อความสั้นๆ ไปมาระหว่างกันได้ แต่เห็นได้ชัดว่าเรือสนับสนุนไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ อีกแล้ว” โพก์กล่าว

เขายังระบุด้วยว่า ก่อนที่จะลงเรือไปนั้น เขาต้องลงนามในเอกสารการสละสิทธิ์ ที่ระบุว่าเรือดังกล่าวเป็นการทดลอง และไม่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่กำกับดูแลใดๆ

แล้วใครคือเจ้าของ โอเชียนเกท

ซีอีโอของ โอเชียนเกท คือ สต็อกตัน รัช ที่ก่อตั้งบริษัทในปี 2009 และดูแลด้านการเงินและวิศวกรรมของบริษัท เขาเป็นนักบินเครื่องบินเจ็ตขนส่ง ที่อายุน้อยที่สุดในโลก เมื่อได้รับการจัดอันดับ DC-8 ของกัปตัน United Airlines Jet Training Institute ในปี 2524 ขณะอายุ 19 ปี ในปี 2542 เขาได้สร้างเครื่องบินทดลอง Glasair III อย่างเป็นส่วนตัว และยังเป็นเจ้าของอยู่ ก่อนจะต่อเรือดำน้ำ ดัดแปลงกว่า 30 ครั้งถึงปัจจุบัน

เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมการบินและอวกาศจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันในปี 2527 และปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจาก UC Berkeley Haas School of Business ในปี 2532

ที่มา CNN / foxbusiness/ forbes / cbc

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

youtube
0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น