โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

ย้อนเวลามาอีกที จะไม่รักเธอ(มีE-book)

นิยาย Dek-D

อัพเดต 21 เม.ย. เวลา 23.05 น. • เผยแพร่ 21 เม.ย. เวลา 23.05 น. • alice711
ย้อนเวลามาอีกที จะไม่รักเธอ(มีE-book)
หมวยสาวอวบอ้วนที่เคยตกหลุมรักว่าที่คุณหมอหนุ่มรุ่นพี่ในหมู่บ้าน จนได้รับภัยพิบัติจนถึงแก่ชีวิต แต่เมือสวรรค์ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาอีกครั้งในเวลาเดิม หมวยคนนี้จะขอหลีกไกลรุ่นพี่คนนี้เอง!

ข้อมูลเบื้องต้น

หมวย สาวอวบพลัสไซด์ที่แอบหลงรักพี่ชายในหมู่บ้านที่เป็นลูกเศรษฐีเจ้าของสวนดาวเรืองที่ใหญ่ที่สุดของหมู่บ้านเรา

ที่ทั้งหล่อหน้าตาดี ดีกรีนายแพทย์หนุ่มอนาคตไกล ที่สอบชิงทุนได้ไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ หลังจากเรียนจบหมอในไทย

แต่เพราะความเมาและการกลั่นแกล้งที่แสนจะเลยเถิดของเพื่อนๆ เลยทำให้ทุกอย่างแย่ลง และสุดท้ายเลวร้ายถึงชีวิต

เมื่อหมวยมีโอกาสกลับย้อนมาอีกครั้ง หมวยจะไม่ถลำลึกกลับไปหลงรักผู้ชายคนนั้น และจะหนีออกไปจากเพื่อนที่แสนใจร้ายพวกนั้น

และจะพยายามอยูให้ห่างหายนะที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา

แล้วใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสงบกับ…

ก๊อกๆๆ **น้องหมวยกับพี่หมอเรืองมีE-bookแล้วนะคะ รีดที่รัก

ราคาเบาๆกับเรื่องราวที่แสนเข้มข้นกันเลยค่ะ

หมวย

ใกล้เที่ยงของวันนี้

“หมวยเอ้ย เดี๋ยวสักครู่แกเอาก๋วยเตี๋ยวไปส่งที่สวนดาวเรืองป้าสาครให้แม่หน่อยลูก แกโทรมาสั่งก๋วยเตี๋ยวไปเลี้ยงคนงาน วันนี้ลงมีดแรกดาวเรืองแปลงใหม่ของแกที่สวนทางหัวโคกเลยโรงเรียนไปนู่น ทางไปที่ทำเลหน่ะ เอ็งรู้จักอยู่ใช่ไหม”

“โคกทำเล รู้จักอยู่แล้วแม่ เยอะไหมล่ะ”

“ยี่สิบห้าถุง คนงานแกแยะ พ่อแกก็ไปรับจ้างทำงานแพ๊คดาวเรืองใส่ถุงตั้งกะบ่ายแล้ว”

“ยังไม่เสร็จอีกเหรอแม่”

“ยัง นู้น เที่ยงคืนตีหนึ่งจะเสร็จไหมเหอะ มีดแรกดาวเรืองดอกมันใหญ่ แล้วก็เยอะด้วย”

“ลูกค้าก็เยอะ ไม่รู้พ่อจะไปรับจ้างทำไมก็ไม่รู้ วันนี้ฉันช่วยแม่แทบไม่ทัน วิ่งจนขาจะขวิดอยู่แล้วนี่”

“จะบ่นทำไมเล่าไอ้หมวย ก็แพ๊คดอกดาวเรืองมันได้เงินดี แถมทำงานในร่มมีพัดลมเป่าให้ด้วยตลอดเวลา ก็แบ่งๆ กันไปทำงาน เงินทั้งนั้น”

“เราก็ไม่ได้ลำบากขนาดนั้นแล้วนี่แม่”

“ถึงเราจะดีขึ้นบ้างจาก ไม่มีหนี้สินเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เราจะต้องหมั่นขยันช่วยกันอีกแรงนะลูก เงินที่มีใช้ไปทุกวันก็หมด

ไหนจะเจ้ามอสจะต้องเรียนสูงๆ อีก ไม่รีบหาตอนนี้ จะให้ไปหาตอนไหน แม่กับพ่อเองก็แก่ลงทุกวัน ไม่รู้จะอยู่ถึงวันเจ้ามอสมันบวชไหมนะสิ”

“จะรีบไปไหนเล่า อายุแค่นี้เอง เสร็จยังอ่ะก๋วยเตี๋ยวอ่ะแม่ หมวยนับเอาเครื่องปรุงยี่สิบห้าชุดกับตะเกียบครบแล้วนะ แล้วที่สวนดาวเรืองป้าสาครที่หัวโคกมีช้อนชามหรือเปล่าละแม่”

“มี ขนำโรงนาเขาออกจะใหญ่โต มีทุกอย่างนั้นแหละเรือนเล็กเขาก็มีสวยยังกะรีสอร์ตพ่อเรืองกับพ่อรัฐเขามาสร้างไว้ มีสระเลี้ยงปลาที่นั่นด้วยนี่ น่าอยู่ คนเขามีเงินมีหัวคิด ทำอะไรออกมาก็มีแต่ดีๆ”

“…..”

“นี่ใช่ไหมแม่”

“เออ นี่แหละ”

“…..”

“เยอะขนาดนี้เอามอเตอร์ไซค์ไปไม่ได้หรอก ซาเล้งเอ็งก็ขี่ไม่เป็นใช่ไหมไอ้หมวย”

“ขี่ไม่เป็นอะแม่ เอาอย่างนี้ ฉันวิ่งรถมอเตอร์ไซค์กลับมาเอาสองรอบดีไหม”

“ก๋วยเตี๋ยวอืดกันพอดีไอ้หมวย เอางี้เอ็งมาเฝ้าร้าน ข้าไปเองดีกว่าว่ะ”

“ลูกค้ามาสั่งผัดกะเพราเนื้ออีกสามคน แม่ไปเองไม่ได้หรอก ว่าแต่ถนนเขาดีไหมแม่ หมวยจะเอารถใหญ่ไปเองก็ได้”

“ถนนเขาดีจะตาย อ.บ.ต เขามาทำให้ตั้งแต่เมื่อปีก่อน แต่ถนนมันแคบนะอีหมวย ต้องดูคนสวนทางดีๆ”

“รู้แล้วแม่ เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเอารถออกก็แล้วกัน”

“เออๆ เดี๋ยวแม่เอาของรอขึ้นรถให้”

ฉันหมวยเอง หมวย คนที่เขาไปลือกันว่าที่เพิ่งหอบลูกชายคนเดียวกลับมาอยู่ที่บ้าน หลังเรียนจบทันทีปริญญา ทั้งที่ยังไม่ได้รับปริญญาเลย (รับปีหน้า)

สวัสดีค่ะฉันหมวย ทิชานันท์ เนื่องกระโทก นามสกุลบ่งบอกถึงความบ้านนอกแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ อายุยี่สิบสองปี มีลูกติดคนหนึ่งอายุสามขวบชื่อน้องมอส หรือคอตมอส ดอกไม้ที่ฉันชอบ ดูแล้วมันสบายตาดี

ฉันไม่ได้อยู่ในสถานะหม้าย เพราะยังไม่ได้แต่งงานกับใคร แล้วลูกชายคนเดียวก็เกิดมาไม่มีพ่อ เหมือนคนอื่นเขา เพราะความผิดพลาดของฉันเองในสองชีวิตที่ผ่านมาของฉัน

ใช่ค่ะ สองชีวิต ฉันนั้นมีโอกาสกลับมาแก้ไขอดีตที่เคยผิดพลาด จนยากจนเกินจะแก้ไข แต่ฉันก็จะพยายามทำชีวิตให้ดีกว่าครั้งที่แล้วของฉัน

เพื่อตัวฉันเอง เพื่อลูกและเพื่อครอบครัวเพื่อคนที่ฉันรัก

ฉันเกิดในครอบครัวชาวบ้านชาวนาธรรมดาฐานะยากจนทั่วไปและพ่อแม่ก็เป็นหนี้ธ.ก.สในหมู่บ้านแถบชนบทต่างจังหวัด แต่ท่านก็ยังอยากที่ให้ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างฉันนั้นได้เรียนให้จบปริญญาสักคนในตระกูล

เพราะน้าเล็ก น้าชายลูกหลงของยาย และเป็นน้องชายของแม่ที่แม่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กนั้นตัดสินใจสมัครไปเป็นทหารพรานลงใต้ไปเมื่อหลายปีก่อน เพื่อช่วยพ่อกับแม่ของฉันหาเงินใช้หนี้ ที่เป็นหนี้เก่าแก่มาแต่ก่อน จนต้องเอาที่นาไปจำนองบ้านป้าสาครเขาหลายปี แต่ก็ทำได้เพียงตัดดอกไปปีๆ เท่านั้นเพราะค่าใช้จ่ายก็มาก ฉันเองก็เรียนหนังสืออยู่

เราจึงได้เป็นหนี้กันมานาน นานมากจนฉันชิน

และสวนดาวเรืองที่สั่งก๋วยเตี๋ยวนี่จากร้านเรา ก็เป็นสวนดาวเรืองของป้าสาครอดีตเจ้าหนี้รายใหญ่ของเรา

ที่เคยให้ความช่วยเหลือบ้านเรามาตลอด เพราะบ้านแกนั้นนับว่าถึงขั้นเศรษฐีคนหนึ่งของตำบลเลย ไม่สิระดับอำเภอดงมะไฟเลยล่ะ

บ้านแกปลูกดาวเรืองส่งขายปากคลองตลาดเป็นหลัก แล้วก็ปลูกสลับแปลงกับเผือกหอมบ้าง ข้าวโพดบ้าง ถั่วลิสงบ้าง บางทีก็ปลูกมะละกอสลับๆ กันไป

เพราะที่ดินที่ปลูกดาวเรืองนั้นมันจะปลูกซ้ำๆ ไม่ได้ เพราะโรคแมลงมันเยอะ เจ้าของสวนสู้ไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องปลูกพืชหมุนเวียนนั่นเองที่ดินเป็นพันไร่ปลูกสลับๆ กันไป รวมถึงทำนาและปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลังด้วย

รวยใช่ไหมล่ะ ใช่ รวยมากและก็ขยันมากทั้งบ้านด้วย

ต่อมา

“นั่นรถใครหน่ะป้าสาคร”

“ไม่รู้สิ รถฟอร์จูนเนอร์เสียด้วยราคาเป็นล้าน ฉันเห็นวิ่งอยู่บ้านเราสองสามวันแล้ว”

“รถไอ้หมวยมันหน่ะ ป้าแช่ม สงสัยมาส่งก๋วยเตี๋ยวที่ป้าสาครสั่งแม่ไอ้หมวยมันเมื่อสักครู่นี่ไง ไอ้หมวยมันคงมาส่งเอง มันขี่ซาเล้งไม่เป็น”

“อ้อ รถไอ้หมวยหรอกรึตาพัน ลูกสาวเอ็งไปทำอะไรมาถึงได้ร่ำรวยเสียจนมีเงินซื้อรถเป็นล้านเลยหรือ ข้าได้ข่าวว่ามันมีลูกติดกลับมาบ้านเราด้วยใช่ไหมๆ ทำไมมันถึงเลิกกับผัวมันเล่า ไม่เคยเห็นพามาด้วยจู่ๆ ก็หอบลูกเต้ากลับมา ฮ่า ฮ่า”

“…..”

เสียงป้าแช่มพูดขึ้นแล้วหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ที่ได้เยาะเย้ยลูกสาวของตาพันที่นั่งแพ๊คดอกดาวเรืองใส่ถุงอยู่ไม่ไกลนัก

“แล้วแกไปยุ่งอะไรกับเขาล่ะอีแช่ม มึงนี่มันปากหมาจริงๆ ถามอะไรไม่รู้เรื่อง นั่นเป็นไอ้หมวยจริงๆ ด้วย เอ้ นี่ไม่ได้เจอกันหลายปี มันผอมลงสวยจนจำไม่ได้เลยเว้ย

ทางนี้ๆ ไอ้หมวย”

“สวัสดีป้าสาคร สวัสดีป้าแช่ม ลุงธง ป้าสา อาเม้า อาโปงด้วยจ้ะ ป้าสาครแม่ให้เอาก๋วยเตี๋ยวที่สั่งมาให้จ้ะ”

“ดีๆ ลูก นี่มันสวยเหมือนดาราเลยโว้ยไอ้หมวย เอ็งไปทำอะไรมา เปลี่ยนไปเยอะเลย”

“ก็หลายอย่างอยู่ป้าสาคร จมูก ตา คางแก้ม ฮ่าๆ ไม่มีของแท้สักอย่างเลยจ้ะ”

เล่นตัวเองก่อนเลยจ้า ฉันยิ้มให้ป้าสาครที่แสนใจดี และเอ็นดูฉันมาตั้งแต่เด็กอย่างน่ารักกับแก

“เอ่อๆ ทำแล้วสวยก็ทำไปเถอะ น่าเอ็นดูเว้ย ดีๆ”

ป้าสาครพูดขึ้นเมื่อพิจารณาฉันแล้วยิ้มชอบใจ แต่ทันใดนั้นเอง

“ทำมาขนาดนี้ไม่กลัวเป็นมะเร็งหรือวะ ไอ้หมวย”

“ไม่กลัวหรอกป้าแช่มมันแค่มาเล็ง (มะเร็ง) ไม่ได้มายิงนี่ ใครๆ เขาก็ทำกัน ไม่มีใครเป็นอะไรนี่ นอกจากไปทำกับหมอถูกๆ ที่ไม่มีใบอนุญาต…”

“เหมือนที่ไอ้ชมลูกแกไปทำจมูกมาแล้วเน่าทะลุต้องเก็บเงินไปทำใหม่หรือเปล่าอีแช่ม”

ป้าเม้าถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้

“เออ ฉันก็ถามเพราะหวังดีนั่นแหละ เดี๋ยวจะเป็นแบบอีชม ลูกฉันนะสิ”

“ไม่เป็นหรอกป้าแช่ม หมวยทำมาแพง…”

“…..”

“ไป ไปขนเอาชามข้างหลังมาแบ่งกันกิน วันนี้แพ๊คที่นี่เลยไม่ต้องขนไปแพ๊คบ้าน เสียเวลาขนไปบ้าน หลอดไฟนั่นไม่ติดกี่ดวงไอ้โม”

“สองดวงกับห้องน้ำด้วยป้าสาคร”

“เออๆ ข้าโทรเรียกลูกข้ามาติดให้ เท่าไรไอ้หมวยค่าก๋วยเตี๋ยว”

“ถุงล่ะสี่สิบบาทจ้ะ ยี่สิบห้าถุงเป็นหนึ่งพันบาทจ้ะป้าสาคร”

“เอานี่ อ้อ ให้แม่แกผัดกะเพราเนื้อไข่ดาวไปส่งที่บ้านให้ด้วยนะ หมอเรืองกับเจ้ารัฐมันเพิ่งกลับไปเมื่อครู่นี้เอง”

“…..”

“จำได้ไหมล่ะ ลูกชายป้าสองคน ที่เอ็งติดนักติดหนาตอนเด็กไงไอ้หมวย”

“จะ เอ่อ จำได้จ้ะป้า”

“ข้าวกะเพราเนื้อไข่ดาวไม่สุกนะ สองกล่องเท่าไรลูก”

“กล่องล่ะห้าสิบบาทจ้ะป้าสาคร”

“เอานี่เงินหนึ่งพันกับอีกร้อยหนึ่ง มันขาวตั้งกะเด็ก เมื่อก่อนมันตัวอ้วนๆ กลิ้งไปกลิ้งมาพอโตเป็นสาวแล้ว สวยกว่าใครเลยเว้ยไอ้หมวย”

ฉันได้เพียงยิ้มให้เบาๆ ก่อนที่จะรับเงินขับรถยนต์กลับบ้านมา

ลูกป้าสาคร

หมอเรืองกับพี่รัฐ หึ ทำไมฉันจะไม่รู้จักล่ะ เราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กแล้วนี่นา เพราะพ่อกับแม่ของฉันเป็นลูกหนี้ป้าสาครผู้เป็นแม่ของพี่ๆ เขามาตั้งนาน ใช่ ตั้งนานและนานมาก

พ่อกับแม่ของฉันรับจ้างทำงานรายวันหรือที่ว่าเป็นลูกน้องประจำของป้าสาครกับลุงยุทธมาตั้งแต่ฉันจำความได้ ก็ไม่ได้ถึงกับลำบากมากนัก จนพ่อไปรับเอาปู่ที่ป่วยหนักป่วยหนักมารักษาที่บ้าน ก็มีแต่ป้าสาครกับลุงยุทธที่ให้เรายืมเงินมารักษาปีหลายปี จนสุดท้ายปู่ก็ตาย เงินก็หมด ที่นาก็ต้องเอาไปจำนองแล้วหาเงินมาส่งขัดดอกทุกปี

และก็เป็นอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่ที่ฉันจำความได้ทั้งที่ปู่ไม่ได้ให้มรดกอะไรกับพ่อเลยสักอย่าง คนอีสานอะเน้อะ ชอบลูกสาว หวังฝากผีฝากไข้ด้วยกับคนที่เป็นลูกสาว ที่ไร่ที่นาจึงได้แบ่งให้แต่ลูกสาวเท่านั้น ส่วนลูกชายต้องไปหากันเอาเอง

สุดท้ายล้มป่วยขึ้นมาลูกสาวคนไหนๆ ก็เกี่ยงกัน ไม่มีใครยอมดูแลปู่สักคน ลูกชายก็ไม่มีใครเอา สุดท้ายพ่อของฉันก็รับมาดูแล

ที่นาที่เอาไปจำนำก็เป็นมรดกของทางแม่ทั้งนั้น สุดท้ายก็ต้องมารับจ้างกินกันไปกันตายนั่นแหละ

ฉันในสมัยก่อนก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก ด้วยความเป็นลูกสาวคนเดียวพ่อกับแม่เลยรักมาก อยากให้ลูกได้ดี อยากให้เรียนสูงๆ เป็นเจ้าคนนายคนอย่างคนอื่นเขาบ้าง

แต่ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนเท่าที่ควรทั้งที่เป็นคนที่เรียนเก่งมากไม่แพ้ใคร ไม่สนใจช่วยพ่อแม่ของตน ทั้งที่น่าจะสามารถสอบชิงทุนได้ด้วยซ้ำ

สุดท้ายด้วยความอยากให้ลูกสาวคนเดียวของตนได้เรียน ก็ไปเอาที่นาในส่วนของน้าเล็ก น้องชายลูกหลงของยายเอาไปจำนองอีกผืน รวมที่ดินผืนล่ะห้าไร่จำนองไปแปลงล่ะสี่แสน สองแปลงก็แปดแสน เป็นอันจบปิ้ง ชาติทั้งชาติก็ลงจะไม่มีปัญญาหาเงินไปไถ่ที่นามาจากป้าสาครได้หรอก

แต่ป้าแกก็ใจดี บอกว่าจะเก็บที่นาสองแปลงหลังบ้านเรานี้ไว้ให้ พร้อมเมื่อไรก็ให้มาไถ่เอา แกสงสาร ไม่ยึดเหมือนคนอื่น เพราะพ่อกับแม่เป็นลูกน้องแกมาหลายปี รักชอบน้ำใจกันดี

สุดท้าย ผลจากการกระทำที่สิ้นคิดของฉันในชีวิตก่อน ก็ทำลายความหวังของพ่อแม่ไปจนหมด ฉันตายอย่างน่าอนาถไร้ค่า พ่อแม่หมดสิ้นความหวังสิ้นเนื้อประดาตัว และหลังจากที่น้าเล็ก…ได้ยินข่าวว่าฉันตาย น้าเล็กที่กำลังจะออกไปลาดตระเวนก็แทบจะไม่มีสมาธิทำงาน แล้วก็เกิดเหตุปะทะกับอีกฝ่าย จนน้าเล็กตายไปอีกคน

ไหนจะงานศพของฉันที่พ่อกับแม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามาจัดงานศพเล็กๆ ตามฐานะ(ยากจน)แล้ว

ก็ต้องมาเสียใจอีกครั้งที่ต้องจัดงานศพน้าเล็กอีกคนในเดือนเดียวกันห่างกันไม่กี่วัน

ทุกอย่างมันแย่ยิ่งกว่าแย่ จนฉันที่ได้รับโอกาสให้ย้อนกลับมาอีกครั้งในวันนั้น มันทำให้ฉันคิดได้ และตั้งใจที่จะเป็นคนที่ดีขึ้น จนถึงวันนี้…

นึกถึงเมื่สมัยเด็กๆ ฉันน่ารักตัวขาวจั๊วอ้วนจ้ำม้ำใครเห็นใครก็รัก พี่หมอเรืองกับพี่รัฐที่อยากมีน้องสาวก็เลยชอบและเอ็นดูฉันมากกว่าใครในหมู่บ้านในรุ่นเดียวกัน

ชอบแบ่งขนมและพาฉันขี่จักรยานเล่นในหมู่บ้านและบอกใครๆ ว่าฉันนั้นเป็นน้องสาว จนลูกพี่ลูกน้องแท้ๆห่างๆ ของหมอเรืองกับพี่รัฐอย่างมะลิไม่ชอบใจ และไม่ชอบหน้าฉัน ทั้งๆ ที่เราเรียนหนังสือรุ่นเดียวกันและเป็นเพื่อนแท้ๆ

แต่ฉันในตอนเด็กๆ ตอนนั้นก็โนสนโนแคร์ เบะบากมองบน ใส่นางไปเลยจ้า

พี่รัฐกับหมอเรืองลูกป้าสาครกับลุงยุทธนั้นเป็นฝาแฝด เป็นพี่อายุมากกว่าฉันห้าปี พี่ทั้งสองคนใจดีกับฉันมาก มากจน…

พอเริ่มโตขึ้น ฉันก็แอบหลงรักพี่หมอเรืองหรือพี่เรืองในตอนนั้นจนถอนตัวไม่ขึ้นเพราะพี่เรืองนั้นหล่อสูงใจดีพูดเพราะ ใครๆ ก็ชอบ โดยไม่ดูสังขารความอวบอ้วนหนักเกือบเจ็ดสอบกิโลกรัมของตน

แล้วยังกล้าหน้าด้านมั่นหน้ามั่นโหนกไปสารภาพรักพี่เขาไป กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง สุดท้ายแม้แต่หน้าฉันพี่เรื่องก็ไม่อยากจะมอง ท่ามกลางความสะใจของบรรดาสาวๆ ที่หมายปองตกหลุมรักความหล่อเท่ห์ และเรียนโคตรจะเก่งของพี่เรืองจนสอบติดได้เรียนหมอที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง

แต่ฉันก็ยังไม่เข็ด ก็คนมันยังรักปักจิตปักใจอยู่กับพี่เขา เพราะแอบรักมาตั้งแต่เด็ก รักมานานเป็นสิบๆ ปี จะมาให้เลิกรักได้ยังไง จริงไหม?

แต่นับวันพี่เขาก็ยิ่งทำตัวไม่สนใจและเฉยเมยกับฉันมากขึ้นทุกที ทั้งๆ ที่พี่เขาเป็นคนนิสัยดีพูดเพราะมีมารยาทกับทุกคน

แต่สำหรับฉันแล้วที่ถูกมองเหมือนไม่มีตัวตน และถูกต่อว่าแรงๆ อืม มันยิ่งกว่าถูกลากมาตบกลางสี่แยกไฟแดงเสียอีก แต่ถามว่าเข็ดไหม หึ ไม่เลยสักนิด

ฉันคิดถึงเรื่องราวในเมื่อก่อนอย่างละอายใจ จนขับรถมาถึงบ้าน

“แม่ ป้าสาครสั่งกะเพราเนื้อไข่ดาวไม่สุขมากของ ของหมอเรืองกับพี่รัฐ ให้ไปส่งที่บ้าน นี่เงินหนึ่งพันหนึ่งร้อยบาทจ้ะ”

“อ้าว พ่อหมอเรืองกับพ่อรัฐมาบ้านแล้วหรือ สงสัยจะเตรียมเข้าวัดแล้วสินะ”

“…..”

ฉันฟังแล้วก็เฉยๆ เหมือนเรื่องฟ้าฝนทั่วไปจนผิดวิสัยเดิมมาก ถึงมากที่สุด จนแม่เงยหน้าขึ้นมามอง

“เอ้า แล้วเอ็งจะไม่ถามข้ารึว่าใครเป็นอะไรต้องเข้าวัดไอ้หมวย”

“ฉันไม่ได้อยากรู้นี่แม่”

“…..”

“ก็ดี คิดได้อย่างนั้นก็ดีไอ้หมวยเอ้ย เออ พอดีแหละ เอ็งไปส่งข้าวให้หมอเรืองกับพ่อรัฐแล้ว ก็ไปรับเจ้ามอสที่ศูนย์อ.บ.ต เลยก็แล้วกัน ทางเดียวกันจะได้ไม่ต้องเสียเวลา ใกล้เลิกเรียนแล้วพอดี ไม่รู้วันนี้จะร้องหรือเปล่า”

“แม่…”

“หืม อะไร?”

ปากถาม มือก็ผัดกะเพราพริกแห้งเผ็ดๆ ของลูกบ้านป้าสาครไป ก่อนจะหันไปทอดไข่ดาวเยิ้มๆ สองใบโป๊ะหน้าจุกๆ กันไปเลย

“คือว่า…”

“อะไรของเอ็งไอ้หมวย”

“ไม่มีอะไรแม่”

ฉันอยากบอกว่าฉันไม่อยากไปเจอกับคนบางคน…ที่แสน เฮ้อ! คนนั้นอีกครั้งเลย ทั้งที่ เราก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลยตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น

และตั้งแต่ที่ฉันได้ย้อนกลับมามีชีวิตที่สองนี้

ใจดี

เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ไม่มีใครมานั่งจำเหมือนแกแล้วนังหมวยเอ้ย กลัวไรวะ ก็แค่ส่งข้าว เจอกันมันก็ไม่ตายหรอก จริงไหม!

เขาอาจจะจำเราไม่ได้ด้วยซ้ำไป เอ็งอ่ะ เป็นไรมากป่ะ คิดมากไปเองทั้งนั้น!

ฉันขี่รถฟอร์จูนเนอร์สีขาวคันใหญ่คู่ใจเอาถุงข้าวกล่องข้าววางไว้เบาะข้างคนขับ ขี่ไปบ้านหลังใหญ่ของป้าสาคร แล้วจึงจอดรถไปเรียกคนในบ้านให้มาเอาข้าว

“มีใครอยู่ไหมจ๊ะเอาข้าวมาส่งจ้ะ”

ในใจหวังอยากให้พี่รัฐออกมารับข้าว อย่าให้คนใจร้ายคนนั้นออกมาเลย

“อยู่ๆ อยู่ครับ…”

“ค่ะ ฉันมาส่งข้าวค่ะ นี่ค่ะ”

ฉันส่งข้าวให้พี่รัฐที่ตอนนี้เป็นหนุ่มตัวสูงใหญ่วัยยี่สิบแปดปี หล่อเหลาสมวัย มีความดิบเถื่อนน้อยๆ ด้วยรอยสักที่แขนที่ดูสวยดีไม่มากไม่น้อยเกินไปตาแบบหนุ่มวิศวกรสุดหล่อ

“…..”

“…..”

“หมวย น้องหมวยหรือเปล่านี่”

“จ้ะ ฉันเอง สวัสดีค่ะพี่ เอ่อ คุณรัฐ”

“มาคงมาคุณอะไรเล่าน้องหมวย ไม่เจอกันหลายปีเลย เปลี่ยนไปมากพี่จำแทบไม่ได้เลย”

“…..”

“นี่ถ้าพี่ไม่ทักก่อน ก็ไม่คิดจะทักพี่ชายคนนี้หรือไง”

“เปล่าจ้ะ เอ่อ คือว่า”

“ข้าวมาส่งแล้วเหรอไอ้รัฐ”

“เออ มาแล้ว”

“…..”

“…..”

“ฉันไปก่อนนะคะ มีธุระ”

“อืม เออ หมวย อาทิตย์หน้าพี่บวช หมวยมาช่วยงานที่บ้านด้วยนะ มาเอาบุญด้วยกัน”

“เอ่อ…”

“งานบวชพี่ทั้งที่จะขาดน้องสาวคนสวยของพี่ได้ยังไง จริงไหม”

“…..”

“…..”

“ถ้าไม่มา พี่โกรธนะ บอกเลย”

พี่รัฐพูดยิ้มๆ ใจดีเหมือนเดิม

“หมวยเหรอ?”

“ก็เออสิวะ ไม่เจอกันหลายปีน้องมันผอมจนเอวบางเป็นกระดาษแล้ว สวยกว่าใครเลย แกว่าไหมไอ้หมอเรือง”

“…..”

“หมวยไปก่อนนะคะ”

“จะรีบไปไหนล่ะ ยังคุยกันไม่เสร็จเลย”

“ถึงเวลาไปรับลูกที่ศูนย์เด็กเล็กอ.บ.ตแล้วค่ะ เดี๋ยวลูกรอ หมวยไปก่อนนะคะ”

“…..”

ฉันรีบเดินกลับมาขึ้นรถใจสั่นๆ ทั้งที่คิดว่าพี่เขาคงจำอะไรไม่ได้

หึ และถึงเขาจำได้ เขาก็คงไม่คิดเอามาใส่ใจอยู่แล้ว

เฮ้อ! แล้วก็จำใส่สมองเอาไว้ด้วยอีหมวยว่าแกต้องอยู่ห่างๆ ตัวหายนะอย่างหมอเรืองให้ไกลๆ เลย ไม่อย่างนั้นชีวิตแกจะมีแต่ความวุ่นวายและฉิบหาย เหมือน…ชีวิตที่แล้วของแกแน่

“น้องมันรีบไปไหนวะ ไม่มองหน้า ไม่ทักแกเสียด้วยไอ้หมอเรือง สมใจแกแล้วสิ เมื่อก่อนทำรังเกียจน้องมันยิ่งกว่าแมลงสาบ

มาตอนนี้น้องมันก็ไม่แม้แต่จำแกได้ด้วยซ้ำ เมื่อก่อนแกก็ทำเกินไปจริงๆ”

“…..”

“จะว่าไป หมวยมันโตขึ้นแล้วสวยน่ารักมากเลยนะ ผิวดีมาตั้งแต่เด็กแล้วด้วย ว่าไหมหมอเรือง เสียดายมีลูกมีผัวแล้วโว้ย อย่างว่าคนสวยก็ต้องมีเจ้าของเป็นธรรมดา”

“…..”

“ไม่รู้ ไหนล่ะข้าว จะกินข้าวแล้ว”

“นี่เอาไปสิ”

“ข้าวร้านไหนหอมพริกแห้งดี”

“ร้านน้าไหมไง แม่ไอ้หมวยมัน เปิดร้านสามปีกว่าแล้ว ขายดี อร่อย นัวผงชูรส เยี่ยมใช่ไหมล่ะ แถมยังให้เยอะด้วย”

“น้าไหมแกเปิดร้านขายอาหารตามสั่งเหรอ เมื่อเช้าฉันไปช่วยคนงานตัดดอกดาวเรืองมาปั่นน้ำออกให้แห้ง ไม่ทันสังเกตว่าเปิดร้านด้วย

ตอนเกือบเที่ยงก็เห็นน้าพันมารับจ้างแพ๊คดอกดาวเรืองอยู่เลย”

“เปิดสายๆ หน่ะ เหมือนได้ยินว่าแม่บอกว่า ไอ้หมวยพาลูกกลับมาอยู่บ้าน น้าพันเห็นมีคนช่วยน้าไหมขายของแล้วก็เลยมารับจ้างบ้านเรา”

“เหรอ…”

“อืม”

“อืม อร่อยดี รสชาติบ้านๆ ไม่ติดหวาน คงขายดีอยู่แล้วล่ะ”

“ลูกสาวแม่ค้าสวยขนาดนี้ ยังไงก็ขายดีอยู่แล้วล่ะไอ้หมอเรือง”

“ไหนแกบอกว่าหมวยมันมีลูกมีผัวแล้วไง”

“หึ!”

อีกด้านหนึ่ง

ฉันที่มารับเจ้ามอสลูกชายสุดหล่อที่ศูนย์เด็กเล็กที่อ.บ.ต.กลับบ้าน ก็ได้คุยกับไอ้เหมย อืมไม่สิ ว่าที่น้าสะใภ้เหมยของฉัน

เพื่อนจริงๆ คนเดียวที่ฉันนั้นมีมาทั้งสองชีวิตของฉัน

“เมื่อเช้ามายังไงเหมยให้ฉันรอแกเลิกงานด้วยไหม”

“ไม่เป็นไร น้าเล็กมาส่งเมื่อเช้า ตอนเย็นแกบอกว่าจะมารับเอง”

“อ้อ อยากกินไรหมวยจะทำรอ”

“เหมยอยากกินน้ำพริกปลากระป๋องกับผักริมรั้วลวกอ่ะ ได้เปล่า”

“อือ หมวยจะทำรอก็แล้วกัน ไปล่ะ น้องมอสสวัสดีแม่เหมยก่อนลูก”

“สวัสดีครับ แม่เหมยคนสวย”

“จ้าคนเก่ง ปากหวานจริงๆ ได้ใครมาลูกเอ้ย ฮ่า ฮ่า”

“เออ หมวยก็ว่างั้นแหละ ดูจะเจ้าชู้แรงอยู่”

“เตรียมปวดหัวรอเลยพวกเรา ฮ่าๆ”

เราหัวเราะให้กันอย่างรู้ใจ

ฉันแวะตลาดนัดซื้อผักหลายอย่างไปเพิ่มจากที่น้าเล็กกับพ่อช่วยกันปลูกไว้หลังบ้าน แล้วไปแวะซื้อปลากระป๋องสองกระป๋องที่ร้านค้าในหมู่บ้าน

“แม่หมวยครับ หนูอยากกินปีโป้”

“เอาสิ แต่น้องมอสต้องเอาโอวัลตินไปกินกล่องหนึ่งด้วยนะ”

“ครับแม่”

“แม่ค้าเบียร์สามขวดน้ำแข็งด้วยห้าบาทจ้ะ รวมปีโป้สิบอันโอวัลตินกล่องหนึ่งด้วย แบงค์พัน”

ทันใดนั้นเอง

“อ้าวหมวย มาซื้ออะไร นี่กินเบียร์เป็นด้วยรึไง?”

“เป็นจ้ะ เย็นๆ ชื่นใจหายเหนื่อย พี่รัฐมาซื้ออะไร”

“มาซื้อเหล้าหน่ะ ไอ้หรั่ง หงส์กลมโซดาแปดน้ำแข็งสิบ เอาถั่วนั่นด้วยยกแผงเลย”

“ครับลูกพี่ ฉลองก่อนเข้าวัดหรือพี่รัฐ”

“เออ นิดหน่อย”

พี่รัฐพูดกับหรั่งลูกป้าแป้นเจ้าของร้านขายของชำแต่ตามองที่หมวยกับลูก

“แม่หมวย กลับบ้าน”

“…..”

น้องมอสได้ปีโป้แล้วอยากกลับบ้านทันที

“นี่ ลูกหมวยเหรอ”

“จ้ะ พี่รัฐ”

“อ้อ”

“น้องมอส ไหวลุงรัฐสิลูก”

“สวัสดีครับ”

“หลานลุงมันหล่อเว้ย ท่าจะสูงเสียด้วย แขนขายาวเชียว ชื่อน้องมอสหรือ มาลุงให้ห้าร้อยไว้กินขนมนะลูก”

“ไม่เป็นไรหรอกพี่รัฐ ไม่ต้องให้หรอกจ้ะ”

“พี่จะให้หลาน อย่าขัดพี่เลยหมวย มาเป็นหลานลุงนะครับ ไหนเรียกลุงรัฐสิลูก”

“ลุงรัฐ”

“น่ารักจริงๆ”

ลุงรัฐพูดยิ้มๆ ยื่นเงินแบงค์ม่วงให้หลาน ก่อนจะลูบหัวเบาๆ

“ฉันไปก่อนนะจ๊ะ จะรีบไปทำกับข้าวด้วย”

“อืม ทำไรกินวันนี้แม่ครัว”

“น้ำพริกปลากระป๋องผักลวกจ้ะ”

“น่ากิน”

“…..”

“ไว้วันหลังพี่จะขอไปกินข้าวบ้านหมวยสักมื้อนะ”

“เอ่อ…จ้ะ”

บนรถ

“แม่หมวยครับ คุณลุงคนเมื่อกี้ใจดีจังเลย”

“อืม จ้ะ ลุงรัฐเป็นคนใจดี (พูดเบาๆ) แต่อีกคน…ไม่ใช่”

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0