ประชาชน“คนดี” จะจ่ายภาษีเพื่อชาติ! ทำไมขั้นตอนยุ่งยากขนาดนี้!
ลดหย่อนด้วยประกันสุขภาพ…ทำไมต้องยุ่งยาก
ปี 2560 หลายคนอาจได้เฮ เพราะเป็นปีแรกที่กรมสรรพากรอนุญาตให้นำเบี้ยประกันสุขภาพมาลดหย่อนภาษี จากเดิมที่ได้ลดหย่อนภาษีเฉพาะเบี้ยประกันชีวิต โดยใช้หลักฐานยืนยันที่บริษัทประกันออกให้ แต่สำหรับการยื่นภาษีในปีนื้ สรรพากรกลับขอให้ประชาชนต้องกรอกเอกสารยินยอมให้บริษัทประกันเปิดเผยข้อมูลต่อกรมสรรพากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแม้จะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่บังคับ แต่ก็เป็นที่น่าตั้งคำถามว่า ในกรณีที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์นี้ ทำไมต้องกลับกลายเป็นเรื่องยุ่งยากขึ้น ทั้งๆ ที่ทางกรมสรรพากรเองสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ที่เอื้อความสะดวกสบายแก่ประชาชนได้ ผ่านการกำหนดกฎหมายที่ให้บริษัทประกันเปิดเผยข้อมูลแก่กรมได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอม ซึ่งการแจ้งความยินยอมนี้ ต้องดำเนินการภายใน 7 มกราคม 2562 ซึ่งนั่นหมายความว่า คนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ก็ต้องเสียประโยชน์ตรงนี้
ระบบที่คิดมาไม่จบ
การยื่นภาษีในแต่ละปี แม้จะสะดวกสบายขึ้นด้วยระบบการยื่นออนไลน์ ทั้งผ่านหน้าเว็บและแอพพลิเคชัน แต่สิ่งที่มักก่อปัญหากวนใจคือ เมื่อมีการขอคืนภาษี ทางกรมสรรพากรมักเรียกขอหลักฐานเพิ่มเติมประกอบการลดหย่อน จนหลายคนถอดใจกับการขอคืนภาษีไปเสียดื้อๆ เพราะ 'ระบบที่คิดมาไม่จบ’ ของกรมสรรพากร ทั้งๆ ที่กรมสรรพากรเอง สามารถทำงานแบบบูรณาการกับธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ ในกรณีการลดหย่อนด้วยกองทุน บริษัทประกัน ในกรณีการลดหย่อนด้วยเบี้ยประกัน หรือแม้แต่ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ที่อยู่ในกระทรวงมหาดไทย เพื่อตรวจสอบสถานภาพการสมรส การมีบุตร หรือแม้แต่อายุของบิดามารดาที่ต้องเลี้ยงดู ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ลดหย่อนหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบการจ่ายภาษีจากบริษัทที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
รู้แล้วทำไมต้องถาม?
สำหรับผู้ที่มีรายได้จากหลายทาง ก็มักต้องประสบปัญหาการขอเอกสารรับรองการหักภาษีเพิ่มเติม จุดนี้ทำให้ทราบว่ากรมสรรพากรเองก็มีข้อมูลภาษีเงินได้ของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว จากการรายงานภาษีของบริษัทห้างร้านต่างๆ ก็เป็นที่น่าสงสัยว่าเหตุใดสรรพากร จึงไม่อาจนำดาต้าเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ โดยแจกแจงให้ผู้มีเงินได้รับทราบและทำหน้าที่เพียงเป็นผู้ตรวจสอบว่า เหล่าบริษัทห้างร้านต่างๆ ยื่นภาษีได้ครบถ้วนหรือมีการแอบอ้างชื่อหรือไม่ กลับกลายเป็นภาระของประชาชนที่ต้องดิ้นรนหาเอกสารมายื่นเพิ่มเติม
เปลี่ยนโฟกัสจะดีกว่าไหม?
ฐานผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากรายงานล่าสุดปี 2557 คนไทยทั้งประเทศยื่นภาษีราว 10 ล้านคน เท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมากหากเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ นี่อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่สะท้อนความยุ่งยากของระบบการจ่ายภาษีก็เป็นได้ ขณะที่จากฐานข้อมูลภาษีกรมสรรพากร ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2560 (ปีภาษี 2558) ที่นำมาแสดง พบว่า ประเทศไทยมีผู้ประกอบการเข้ามายื่นแบบแสดงรายการผู้เสียภาษีทั้งสิ้น 2,096,297 ราย ผู้อ่านลองคิดดูเล่นๆ ว่าการจัดการข้อมูล 10 ล้านหน่วย กับการจัดการข้อมูล 2 ล้านหน่วย อะไรจะง่ายและมีความเที่ยงตรงกว่ากัน?
การเป็นประเทศไทย4.0 ไม่ได้สำคัญที่เทคโนโลยี แต่อาจต้องเริ่มที่วิธีคิดของข้าราชการไทย.
อ้างอิง
http://www.rd.go.th/publish/310.0.html
https://thaipublica.org/2016/01/personal-income-tax-structure-29/
https://thaipublica.org/2012/04/personal-income-tax-structure-demolished3/
ความเห็น 58
นายสมชาย
BEST
เห็นเอาไปแจก กรูไม่อยากยื่นแบบเลย
10 ธ.ค. 2561 เวลา 05.11 น.
Mr.Santi
BEST
เอาไปใหรัฐถลุง
10 ธ.ค. 2561 เวลา 05.08 น.
Nuthapol
BEST
เพราะ สรรพากรมันหัวหมอ ใครคิดหาทางขอคืน มันไม่คืนง่ายๆหรอก ผมเลยคิดว่า ทำไงก็ได้ที่ไม่เสียก็พอ
10 ธ.ค. 2561 เวลา 05.16 น.
ooy013
ภาษีที่เสียไปถ้ามันย้อนกลับเพื่อปชช.และประเทศชาติจริงใครๆด็คงอยากเสีย นี่โกงกินจนเหลือถึงจริงไม่กี่% แถมทำเรื่องให้วุ่นวายเพื่อให้คนเบื่อจะได้ไม่ต้องขอหักลดหย่อน แน่มากกับนโยบายห่วยๆแบบนี้
10 ธ.ค. 2561 เวลา 05.23 น.
punsang
เหมือนขนส่ง ต่อทะเบียน รถบางคัน ต้องไปตรวจ ตรอ. ต้องไปตรวจแก๊ส เพื่อต่อทะเบียน ต้องเสียเงินเหล่านี้จำนวนมาก ยังมีประกัน อีก คนมาเสียภาษีรถยนต์ รถ จยย. เอาเงินมาให้ ก็กลับมาทำให้ยุ่งยากกว่าเดิม ครับ
10 ธ.ค. 2561 เวลา 05.10 น.
ดูทั้งหมด