เมื่อคำถามทั่วไปตอบง่าย แต่ปัญหาหัวใจดันตอบยาก ความรักก็มักมีปัญหาเสมอ…
จะทำอย่างไรเมื่อความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน ไม่เคยตกลง ไม่เคยทำความเข้าใจ แต่ก็ไม่หายไปไหน ยังคงคุยกันบ่อย ๆ ทำทุกอย่างเหมือนเป็นแฟน แต่กลับไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นความรู้สึกที่จะจบก็ไม่ได้ จะไปต่อก็ไปไม่ได้
“เราสองคนคุยกันมาได้ครบ 3 ปี เมื่อก่อนก็ไปมาหาสู่กันค่อนข้างบ่อย หลัง ๆ มาได้แต่คุยแชต ซื้อของให้กันบ้าง ยาวนานจนบางครั้งคิดว่าเราควรหยุด เพราะมันเป็นคนสัมพันธ์ที่ไม่มีความชัดเจน เราถามหาความชัดเจนก็ไม่เคยได้รับ แต่แชตก็ไม่เคยหายไปไหน ยังคุยกันมาจนถึงทุกวัน มันเป็นความรู้สึกที่ดึงตัวออกมายาก ทั้งที่เราอยากจบ ๆ ไป แต่สุดท้ายก็วนมาที่เดิม ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันเหมือนเดิม แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ได้แต่ถาม แต่กลับไม่มีคำตอบ”
ความรักที่ไม่เคยแสดงออก ไม่เคยใส่ใจ ยังจะเรียกว่ารักได้อยู่ไหม
จริง ๆ ก็มีหลายคู่ที่รักกัน คบกัน แต่งงานกัน โดยไม่ได้มีการตกลงหรือทำความเข้าใจอย่างเป็นทางการตั้งแต่แรกว่าจะเป็นเริ่มต้นเป็นแฟนกัน บางคู่ก็ชัดเจนกับเรื่องอะไรแบบนี้ แต่บางคู่ก็ไม่…
นั่นเพราะมีอย่างอื่นที่ชัดเจนกว่าคำพูดหรือข้อตกลง สิ่งที่เรียกกันว่า “การกระทำ” เมื่อการกระทำมันชัดเจน ก็ไม่จำเป็นต้องพูดหรือตกลงอะไรอีกต่อไป เพราะบางครั้งคำพูด หรือแม้แต่คำสัญญาก็ไม่ได้หนักแน่นเท่ากับการกระทำที่คนสองคนปฏิบัติกัน
แต่ถ้าการกระทำก็ไม่ชัดเจน แถมยังไม่เคยพูดหรือตกลงอะไรกันเลย สถานะแบบนี้คืออะไร ? น่าจะเป็นแค่ “คนคุย” สถานะยอดฮิตของความสัมพันธ์ในยุคนี้
คนคุย..ที่ทำทุกอย่างเหมือนจะเป็นแฟน แต่ไม่ใช่แฟน คุยกัน แชตกัน งอนกัน หยอกล้อกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ซื้อของให้กัน หวงกัน ทุกอย่างก็เหมือนแฟนที่เค้าทำให้กันนั่นแหละ ยกเว้นแค่ความชัดเจนในเรื่องของความสัมพันธ์ เพราะคนคุยไม่จำเป็นต้องมีคนเดียว ตราบใดที่ยังไม่ใช่แฟนก็สามารถมีมากกว่าหนึ่งได้เสมอ
ความสัมพันธ์ของคนสมัยนี้ก็เลยยิ่งซับซ้อนเข้าไปทุกที เพราะสเตตัส“คุย ๆ กันอยู่” มันระบุอะไรที่ชัดเจนไม่ได้เลย เป็นแค่ it's complicated หรือความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายได้
สำหรับคนที่ไม่จริงจัง..คงถูกใจกับความสัมพันธ์แบบนี้ ได้เป็น “โสด” แต่ไม่สนิทแทบจะตลอดเวลา เปิดโอกาสให้ตัวเองไปเรื่อย ๆ แต่สำหรับคนที่พร้อมจะเดินหน้าต่อ การอยู่ในสถานะ “คนคุย” ก็ไม่ต่างจากการทรมานหัวใจตัวเองไปเรื่อย ๆ
จริง ๆ แล้วในความไม่ชัดเจนนั้น ก็มีความชัดเจนอะไรบางอย่างซ่อนอยู่..อาจเป็นเราหรือเปล่าที่แกล้งมองไม่เห็นมันเอง
ทั้งที่ความจริงแล้ว..ระยะเวลาก็เป็นความชัดเจนได้ พฤติกรรมของเค้าก็เป็นความชัดเจนได้ การที่เค้าปฏิบัติต่อเราอย่างไรก็เป็นความชัดเจนได้ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นคำตอบที่เราไม่กล้าที่จะยอมรับมันเองก็ได้
ถ้ารักกันจริง อยากเดินไปด้วยกันจริง ๆ สถานะ “คนคุย” จะไม่นานขนาดนั้น แม้คนเราจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แม้เวลาจะไม่ได้การันตีว่าความรักจะเพิ่มมากขึ้น แต่มันจะชัดเจนขึ้นเองโดยที่เราไม่ต้องกังวลอะไรเลย เพราะการแสดงออกของเค้าจะชัดเจน ตรงไปตรงมา การที่เค้าปฏิบัติต่อเราก็จะไร้ข้อกังขา การกระทำเหล่านี้จะทำให้มั่นใจว่า เราไม่ได้อยู่ในสถานะ “คนคุย” อีกต่อไป แม้จะไม่มีคำพูดหรือการขอเป็นแฟนเลยก็ตาม
ยิ่งถ้าเคยถามหาความชัดเจน แต่ไม่เคยได้รับ เคยตั้งคำถาม แต่ไม่เคยได้คำตอบ เรายิ่งต้องเปิดใจมองความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่นี้แบบตรงไปตรงมามากขึ้น เพราะการไม่มีคำตอบอาจเป็นคำตอบที่หนักแน่นที่สุด
ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ ก็อาจถึงเวลาที่ต้องให้โอกาสตัวเองเริ่มต้นใหม่แล้วก็ได้ ~