แบรนด์หรูระดับโลก Gucci กำลังเผชิญวิกฤตรอบใหม่ หลังจากบริษัทแม่ เคอริง (Kering) รายงานยอดขายไตรมาสแรกของปี 2025 ลดลงถึง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายรวมทั้งกลุ่มลดลง 14% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ บริษัทยอมรับว่าสถานการณ์ในตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเปราะบาง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่เคยจับจ่ายใช้สอยอย่างมั่งคั่ง เริ่มชะลอตัวท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ฟร็องซัวส์-อองรี ปิโนต์ ประธานและซีอีโอของเคอริง กล่าวว่าบริษัทจะเพิ่มความเข้มงวดในการบริหารต้นทุน พร้อมกับเตรียมลดความซ้ำซ้อนภายในองค์กรระหว่างระดับกลุ่มและแบรนด์ ทั้งยังมีการปิดร้านไปแล้ว 25 แห่งตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดจำนวนร้านที่ไม่ทำกำไรให้เหลืออีกประมาณ 50 สาขา ภายในปีนี้ ด้าน ฟรานเชสกา เบลเล็ตตินี รองซีอีโอของกลุ่ม ยอมรับว่าปริมาณลูกค้าที่เดินเข้าร้านกุชชี่ลดลงอย่างมาก และนั่นกระทบต่อยอดขายในภาพรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในความพยายามฟื้นฟูแบรนด์ กุชชี่ได้แต่งตั้ง เด็มนา (Demna) นักออกแบบภายในเครือ เป็นหัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์คนใหม่ ซึ่งแม้จะสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนที่คาดหวังชื่อดังจากภายนอก แต่เคอริงยืนยันว่าเด็มนาได้เริ่มทำงานกับทีมแล้ว และจะทยอยเปิดตัวผลงานใหม่ตลอดช่วงปลายปีนี้ โดยไม่ต้องรอถึงปี 2026 เบลเล็ตตินียืนยันว่า
ทิศทางแบรนด์ยังคงมุ่งเน้นการขยับสู่ตลาดบนอย่างชัดเจน แม้จะมีการปิด “กุชชี่ ซาลอน” สาขาหรูในลอสแองเจลิส ที่ออกแบบไว้สำหรับลูกค้าระดับพรีเมียมโดยเฉพาะ