สครับผิว เทคนิคเพื่อผิวสุขภาพดี เผยผิวสวยเนียนใส เด้งนุ่ม น่าสัมผัส
" แค่เพียงมีวินัย ผิวก็สวยได้ " การดูแลผิวอย่างหนึ่งที่สำคัญเลยคือการสครับผิว ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะจะทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วออกไป นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน เพื่อเผยผิวใหม่ออกมานั่นเอง นอกจากการบำรุงผิวด้วยการทาโลชั่นก็ยังคงไม่เพียงพอเพราะเหมือนกับว่าเราไม่ได้ผลัดเซลล์ผิวออกมาเหมือนเป็นการทาซ้ำและสะสมเรื่อยๆ ทำให้ใช้เวลาในการซึมลงสู่ผิว ฉะนั้นแล้วการสครับผิวจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามและต้องรีบทำตามหากอย่างให้ผิวเนียนสวยน่าสัมผัส ฉะนั้นไปดูข้อเท็จจริงและประโยชน์ของการสครับกันเลยค่ะ
" (≧◇≦) (≧▽≦) (≧ 3 ≦) ●﹏☉
การสครับผิว คืออะไร ?การสครับผิวก็คือวิธีที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าชั้นนอกสุดออกมา โดยปกติแล้วผิวหนังของร่างกายเราจะมีการผลัดเซลล์ผิวเองตามธรรมชาติโดยใช้เวลาประมาณ 28 วัน แต่เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น อาจทำให้กระบวนการการผลัดเซลล์ผิวทำงานน้อยลดลง ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการสครับผิวเพิ่มเข้ามาในการกำจัดเซลล์ผิวเก่าหรือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เพื่อให้เซลล์ผิวใหม่ได้ออกมาและได้รับการบำรุง โดยจากการสครับผิวนั้นจะส่งผลให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นอีกหนึ่งสเต็ปและเรียบเนียนไปเลย ดังนั้นควรมีการศึกษาวิธีการสครับผิวที่ถูกต้อง เพื่อที่จะไม่ทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองและส่งผลเสียในอนาคต
" (≧◇≦) (≧▽≦) (≧ 3 ≦) ●﹏☉
สครับผิว วิธีที่ถูกต้อง ทำตามได้ไม่ยาก !สครับผิว เทคนิคที่ 1 สครับผิวในขณะที่ผิวเปียก
ก่อนเริ่มสครับผิวควรมีการทำความสะอาดผิวก่อน เพื่อให้คราบสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผิวหนังออกมา แล้วจึงตามด้วยการครับผิวในขณะที่ผิวเปียกอยู่ เพราะจะสามารถป้องกันการเกิดการระคายเคืองต่อผิวจากเม็ดสครับบาดผิว และเมื่อเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วถูกน้ำจะมีความอ่อนนุ่มทำให้หลุดออกมาได้ง่าย โดยวิธีการสครับคือวนเป็นวงกลม วนเบาๆ ไปทั่วจุดที่เราต้องการ 5-10 นาที โดยเน้นการถูวนตรงจุดบริเวณที่ผิวหมองคล้ำ หรือผิวแห้งหยาบกระด้าง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สครับผิว เทคนิคที่ 2 เลือกเม็ดสครับให้เหมาะสม
การเลือกขนาดเม็ดสครับก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจมากๆ ในการนำมาสครับผิว แม้ว่าเราจะนำมาขัดผิวกาย แต่ด้วยผิวกายในร่างกายนั้นมีบางจุดที่ผิวหนังเราบางหนาไม่เท่ากัน ฉะนั้นการเลือกเม็ดสครับที่มีความอ่อนโยนไม่บาดผิวมาเป็นตัวเลือกคือดีและทำตาม แต่หากรู้สึกไม่สะใจอยากใช้เม็ดสครับเม็ดใหญ่แนะนำให้นำมาสครับบริเวณที่ผิวหยาบ หนาและแข็งอย่างเช่น บริเวณข้อศอกหรือส้นเท้า เป็นต้น
สครับผิว เทคนิคที่ 3 ไม่ควรขัดบ่อย
การสครับผิวบ่อย ๆ ผลลัพธ์คือผิวเรียบเนียนและดูมีความกระจ่างใส แต่การสครับผิวทุกวันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะหากเราสครับผิวบ่อยๆ จะเป็นการทำร้ายเซลล์ผิวให้เสื่อมสภาพเร็ว และรบกวนระบบนิเวศของผิวให้บอบบางเท่ากับว่าที่เราสครับมานั้นจะยิ่งส่งผลให้ผิวแย่ลง และถ้าไม่ได้รับการป้องกันจากการทากันแดดยิ่งแล้วใหญ่ ฉะนั้นแล้วควรมีการสครับผิวอยู่ที่อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เท่านั้น
สครับผิว เทคนิคที่ 4 ใช้เวลาขัดอย่างพอควร
การสครับผิวนั้นไม่ควรที่จะสครับเป็นเวลานานเกินไปควรจะอยู่ที่ 5-10 นาที เพราะว่าหากสครับนานไปมากกว่านี้จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และแสบผิวได้ โดยเฉพาะคนที่มีผิวบาง การสครับผิวต้องกำหนดเวลาให้เหมาะสม เพื่อจะช่วยให้ผิวได้รับการฟื้นฟูสุขภาพดี และดูกระจ่างใสเรียบเนียน
สครับผิว เทคนิคที่ 5 ใช้อุปกรณ์เสริม
การสครับผิวนอกจากการใช้มือขัดวนบนผิว เรายังสามารถหาอุปกรณ์เสริมมาเพื่อช่วยเสริมให้การสครับผิวดูมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ใยบวบ ถุงมือสครับ หรือแปรงขัดผิว จะช่วยให้การสครับผิวง่ายขึ้น และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจุดที่มีความหมองคล้ำและแห้งกร้าน เช่น ข้อศอก หรือเข่า เป็นต้น แนะนำว่าการใช้อุปกรณ์เสริมก็ไม่ควรลงน้ำหนักมากเกินไป อาจจะทำให้ผิวอักเสบได้
สครับผิวเทคนิคที่ 6 ใช้ออยล์ทาผิว
การใช้ออยล์หลังจากสครับผิวหรืออาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ในขณะที่ตัวยังมีน้ำเกาะอยู่แบบหมาดๆ การลงออยล์ในตอนนี้นั้นจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว และไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง ยิ่งทาหลังจากที่วันนี้เราสครับผิวเหมือนเป็นการปลอบประโลมเซลล์ผิวใหม่ให้ได้รับการบำรุงอย่างทันท่วงที นอกจากการกักเก็บความชุ่มชื้นแล้วนั้น จะเห็นผลลัพธ์ได้เลยว่าผิวดูอิ่มฉ่ำน้ำสุขภาพดีสุดๆ
สครับผิว เทคนิคที่ 7 ใช้โลชั่นบำรุงผิว
เมื่อใช้ออยล์ทาผิวตอนหมาดๆ แล้ว การบำรุงผิวที่สำคัญหลังจากนี้คือการบำรุงด้วยครีมทาโลชั่นเข้าไปอีกสเต็ปเพื่อช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่หยาบกระด้างเหมือนที่เคย และการทาโลชั่นกันแดดช่วงกลางวันก็เป็นการป้องกันผิวจากแสงแดดที่มาทำลายได้ด้วย เพราะผิวหลังจากสครับนั้นควรหลีกเลี่ยงแดดหรือไม่ควรโดนแดดเลย เพราะเป็นช่วงที่เราผลัดเซลล์ผิวใหม่ออกมาดังนั้นการป้องกันคือการทาโลชั่นบำรุงกลางคืนและกลางวันอย่างกันแดดนั่นเอง
สครับผิว กับประโยชน์ที่ต้องบอกต่อ1) ช่วยให้ผิวดูนุ่มขึ้นไม่หยาบกระด้าง สีผิวมีความสม่ำเสมอ และช่วยลดรอยแตกลายบนผิวให้ดูจางลงได้ด้วย
2) ช่วยป้องกันการเกิดรูขุมขนอุดตันผิว จากสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวเก่า
3) ช่วยทำให้ครีมบำรุงต่างๆ สามารถซึมสู่ลงผิวได้เร็วและง่าย
4) ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของต่อมน้ำเหลือง
5) ช่วยผ่อนคลายความเครียด
" (≧◇≦) (≧▽≦) (≧ 3 ≦) ●﹏☉
บอกเลยว่า การสครับผิว นั้นดีต่อผิวของเราไปเลยแบบสุดๆ เพราะผิวหลังจากที่สครับนั้นทั้งมีความกระจ่างใสมากขึ้น ดูเรียบเนียน เด้งนุ่มน่าสัมผัสแล้ว ยังทำให้ช่วงที่เราสครับผิวทำให้ผิวได้รับการผ่อนคลายรวมถึงตัวเราด้วย ยิ่งการเลือกกลิ่นสครับที่มีความละมุนฟุ้งๆ มานั้น บอกเลยว่าสุดยอดของความผ่อนคลายไปเลย แต่สิ่งที่ควรเลี่ยงทำของการสครับผิวอย่างการสครับผิวที่บ่อยเกินไปควรจะตระหนักและสครับเพียงแค่ 1-2 ต่อสัปดาห์เพียงเท่านั้น เพื่อให้ผลลัพธ์จากการสครับผิวไปในทางที่ดีไม่ใช่กลับกันกลายเป็นผิวยิ่งเสียกว่าเดิม
ขอขอบคุณแหล่งรวมไอเดียดี ๆ จาก Pinterest
บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาดติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore