จังหวัดมิยาซากิ มีธรรมชาติและวัฒนธรรมมากมายของภูมิภาคคิวชูที่แสดงเอกลักษณ์เฉพาะตัวออกมาดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยือน สถานที่ท่องเที่ยวก็สวยงาม แถมยังมีรูปปั้นโมอายแห่งเดียวในเอเชียที่ได้รับอนุญาตให้สร้างได้อีกด้วย นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมที่หลากหลายแล้ว ชาวเมืองมิยาซากิก็สร้างชื่อเสียงและจุดเด่นให้กับจังหวัดแห่งนี้ด้วยนิสัยที่อบอุ่น ใจดี ไว้ใจซึ่งกันและกัน ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่รู้สึกผ่อนคลาย แถมยังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่มีวิถีชีวิตไม่เร่งรีบ ใช้ชีวิตภายใต้ความเรียบง่ายแบบสบาย ๆ ต่างจากชีวิตคนในเมืองที่เร่งรีบยุ่งเหยิง conomi เลยจะพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับจังหวัดที่อบอุ่นแห่งนี้ให้มากขึ้น กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไปไม่ได้ของจังหวัดมิยาซากิค่ะ
1. ปราสาทโอบิ
ปัจจุบันเหลือเพียงแต่ซากปรักหักพังของปราสาทที่ถูกบูรณะใหม่แล้ว มีหินกว่า 57,000 ก้อน กำแพงและบันไดก็ทำมาจากหินทั้งนั้น ประตูปราสาทที่ยังคงรูปแบบเดิมไว้ จนมีชื่อเรียกว่า“เกียวโตน้อย” และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรรักษาไว้ของญี่ปุ่นด้วย นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ ตัวปราสาทยังมีเมืองเก่าที่เป็นมีบ้านซามูไร คูน้ำ วัดที่สำคัญ และพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกัน เป็นสถานที่ที่ทำให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบเก่า ๆ เลยล่ะค่ะ
ข้อมูลปราสาทโอบิ (飫肥城)
ที่อยู่ 10 Chome-1 Obi, Nichinan, Miyazaki 889-2535, Japan เวลาเปิด – ปิด 09.30 น. – 16.30 น.
*หยุดวันที่ 29 – 31 เดือนธันวาคม ค่าเข้าชม – ผู้ใหญ่ 600 เยน
– นักศึกษา 450 เยน
– เด็ก 350 เยน การเดินทาง จากสถานีรถไฟ JR Obi เดินเล่นชมเมืองไปเรื่อย ๆ ประมาณ 20 นาที
2. ศาลเจ้าอูโดะ
ศาลเจ้าชินโตที่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำริมหน้าผาหันหน้าเข้าหาทะเล ซึ่งศาลเจ้าลักษณะนี้มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นในญี่ปุ่น จึงได้รับเลือกให้เป็น“มรดกทางวัฒนธรรม” นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในการขอพรให้มีบุตรหรือเรื่องความรักด้วย ซึ่งจะมีก้อนหินใหญ่ที่มีหลุมอยู่ตรงกลางเรียกว่า “คาเมะอิชิ” หากอธิษฐานขอพรแล้วโยนหินนำโชคลงหลุมได้ก็จะถือว่าพรที่ขอจะสมหวัง โดยผู้หญิงจะโยนด้วยมือขวาส่วนผู้ชายโยนด้วยมือซ้าย ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ริมทะเล ทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งเรื่องวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและชื่อเสียงเรื่องการขอพร
ข้อมูลศาลเจ้าอูโดะ (鵜戸神宮)
ที่อยู่ 3232 Miyaura, Nichinan, Miyazaki 887-0101, Japan เวลาเปิด – ปิด 06.00 น. – 19.00 น. ค่าเข้าชม ฟรี การเดินทาง จากสถานีรถไฟ JR Miyasaki นั่งรถไฟสาย Nichinan ไปลงที่สถานีรถไฟ Aburatsu จากนั้นนั่งรถเมล์สาย Miyasaki Airport แล้วลงที่ป้าย Udo Shingu Shrine และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
3. ซันเมสเสนิจินัน
สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ได้รับความสนใจมาก ๆ จากสถานที่ตั้งที่อยู่บริเวณเชิงเขา มีภาพเบื้องหลังเป็นทะเล และจุดที่เป็นไฮไลต์เลยก็คือ รูปปั้นโมอาย 7 รูป ซึ่งโมอายของที่นี่เป็นแห่งเดียวนอกเกาะอีสเตอร์ ประเทศชิลีที่ได้รับอนุญาตให้สร้างขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ฟาร์มม้าฟาร์มแกะ นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวมหาสมุทรแปซิฟิกได้แบบ 360 องศาเลย ไม่ว่าใครที่ได้มาจะได้รับความประทับใจกลับบ้านแน่นอน
ข้อมูลซันเมสเสนิจินัน (サンメッセ日南)
ที่อยู่ 2650 Miyaura, Nichinan, Miyazaki 887-0101, Japan เวลาเปิด – ปิด 09.30 น. – 17.00 น.
*หยุดทุกวันพุธที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน ค่าเข้าชม – ผู้ใหญ่ 700 เยน
– นักเรียน 500 เยน
– เด็ก 350 เยน การเดินทาง จากสถานีรถบัส Miyazaki นั่งรถบัสสาย Nichinan มาลงที่ป้าย Sun Messe Nichinan ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
4. ภูเขาคิริชิมะ
ภูเขาคิริชิมะเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่และมีวิวธรรมชาติที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ในปัจจุบันยังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักปีน เขาเพราะมีเส้นทางการเดินและปีนเขาให้เลือกหลายเส้นทาง ทั้งแบบเส้นสั้น ๆ ง่าย ๆ หรือจะทางยาก ๆ ที่สูงชันก็มี โดยมีเส้นทางแนะนำให้นักท่องเที่ยวซึ่งจะสามารถเดินชมได้ทั้งแถบภูเขา ด้วยระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตรโดยใช้เวลาเดินประมาณ 10 ชั่วโมง และมีเส้นทางยอดนิยมคือ ทางเดินผ่านยอดเขาที่สูงที่สุดและผ่านทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งจะใช้เวลาเดินประมาณ 6 ชั่วโมง เส้นทางการเดินเขาทั้งหมดได้รับดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างดี ทั้งสะอาดและปลอดภัยแถมยังสวยงามขนาดนี้คงต้องไปปีนเขากันบ้างแล้ว
ข้อมูลเขาคิริชิมะ (霧島山)
ที่อยู่ Hosono, Kobayashi, Miyazaki 886-0004, Japan เวลาเปิด – ปิด เปิดตลอดทั้งปี ค่าเข้าชม ฟรี การเดินทาง การขับรถไปเองหรือนั่งแท็กซี่เป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุดในการเดินทาง
5. เอบิโนะโคเกน
เอบิ โนะ โคเกน มีความหมายว่า ทุ่งกว้างของกุ้ง ที่มาของชื่อมาจากช่วงฤดูร้อน ต้นหญ้าที่สูง ๆ จะมีสีขาวอมส้มพลิ้วไปตามลมตัดกับพื้นดิน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกุ้งนั่นเอง เป็นเมืองเล็ก ๆ อยู่ที่บริเวณเชิงเขาคิริชิมะ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรก ๆ ของญี่ปุ่นและมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก แถมยังมีเส้นทางปีนเขาที่มีชื่อเสียงอีกด้วย เส้นทางที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเดินรอบสระน้ำร็อคคันนอนเป็นที่นิยมมากทีเดียว เพราะเพื่อน ๆ จะได้ชื่นชมความงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่ ยิ่งถ้าไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะยิ่งสวยขึ้นไปอีก
ข้อมูลเอบิโนะโคเกน (えびの高原)
ที่อยู่ Suenaga, Ebino, Miyazaki 889-4302, Japan เวลาเปิด – ปิด เปิดตลอดทั้งปี ค่าเข้าชม ฟรี การเดินทาง การขับรถไปเองหรือนั่งแท็กซี่เป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุดในการเดินทาง
6. ช่องเขาทาคาชิโฮ
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่แสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา น้ำตกมิไนโนะทากิ ความสูงถึง 17 เมตร ไหลตกลงมาสู่ธารน้ำสีเขียวมรกต ทำให้เกิดภาพที่ออกมาสวยงามราวกับเนรมิตขึ้นมา นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือมาพายชมน้ำตก หรือจะเดินเท้าขึ้นไปบนผาแล้วมองลงมาก็ได้ ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติรอบ ๆ ตัว พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอดเลย
ข้อมูลช่องเขาทาคาชิโฮ (高千穂峡)
ที่อยู่ Mukoyama, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki 882-1103, Japan เวลาเปิด – ปิด 08.30 น. – 17.00 น. ค่าเข้าชม ฟรี
*เช่าเรือพายเสีย 3,000 เยน/30 นาที (นั่งได้มากสุด 4 คน)
การเดินทาง อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองทาคาชิมาก แต่จะต้องนั่งแท็กซี่หรือขับรถไปเอง หรือหากเดินไปจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที เว็บไซต์ takachiho-kanko.info
7. ศาลเจ้าทาคาชิโฮ
ศาลเจ้าที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าสน ลักษณะของสถาปัตยกรรมถูกออกแบบมาให้กลืนไปกับธรรมชาติรอบ ๆ ตัว ให้บรรยากาศที่เงียบสงบในเวลากลางวัน ส่วนเวลากลางคืนจะมีการแสดงตามประเพณี ซึ่งจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าของญี่ปุ่นตามความเชื่อของศาสนาชินโต นักแสดงจะใส่หน้ากากและมีการเล่นเครื่องดนตรีญี่ปุ่นโบราณประกอบด้วย สร้างความสนุกสนานและน่าสนใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ข้อมูลศาลเจ้าทาคาชิโฮ (高千穂神社)
ที่อยู่ 1037 Mitai, Takachiho, Nishiusuki District, Miyazaki 882-1101, Japan เวลาเปิด – ปิด 08.00 น. – 09.00 น. ค่าเข้าชม 700 เยน การเดินทาง อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองทาคาชิมาก แต่จะต้องนั่งแท็กซี่หรือขับรถไปเอง หรือหากเดินไปจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที
8. เกาะอะโอชิมะ
เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับชายฝั่งทะเลของมิยาซากิด้วยสะพาน มีข้อมูลบอกว่าเกาะแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อนจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกและหินทรายที่ทับถมมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ตรงกลางของเกาะก็มีศาลเจ้าอะโอชิมะสีแดงสดใสตั้งอยู่ ซึ่งผู้คนมักจะมาขอพรเรื่องความรักกัน นอกจากนี้ทางขวามือของศาลเจ้าก็มีทางเดินเล็ก ๆ เข้าป่าที่เงียบสงบและสวยงามด้วย ถ้าไปช่วงน้ำลดจะเห็นพื้นทรายที่มีรูปร่างแปลก ๆ เป็นรอยแตกที่คนที่นี่เรียกว่า ที่ซักผ้าของยักษ์ หรือถ้าไปช่วงเย็น ๆ ก็เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยอีกแห่งหนึ่งเลย
ข้อมูลเกาะอะโอชิมะ (青島)
ที่อยู่ Miyazaki, 889-2162, Japan เวลาเปิด – ปิด เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ค่าเข้าชม ฟรี การเดินทาง นั่งรถไฟมาลงสถานี Aoshima แล้วก็เดินจากสถานีมาประมาณ 10 นาที
9. สะพานแขวนอะยะเทรุฮะ
สะพานแห่งนี้ยาว 250 เมตร และสูงจากแม่น้ำอายามินามิ 142 เมตร ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติรอบตัวและสัมผัสกับรรยากาศสวย ๆ นี้ได้ นอกจากจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้ความเสียวกลับไปแน่นอน เพราะถ้าเราเดินไปจนถึงช่วงกลางสะพาน สะพานจะแกว่งนิดนึงตามแรงลม และพอมองลงไปข้างล่างก็จะเห็นแม่น้ำอายามินามิ ไหลผ่าน ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังเดินเล่นอยู่บนท้องฟ้าเลย
ข้อมูลสะพานแขวนอะยะเทรุฮะ (綾の照葉大吊橋)
ที่อยู่ Japan, 880-1303 Miyazaki, Higashimorokata District, Aya, Minamimata เวลาเปิด – ปิด 08.30 น. – 18.00 น.
*ช่วงเดือนตุลาคม – เดือนมีนาคมจะปิด 17.00 น. ค่าเข้าชม 300 เยน การเดินทาง นั่งรถบัสจากสถานี Miyako Bus มาลงที่ป้าย Aya Shusen no Mori ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
10. น้ำตกเซกิโนโอะ
น้ำตกภายในอุทยานแห่งชาติคิริชิมะ ประกอบด้วย 3 น้ำตกคือน้ำตกโอทากิ น้ำตกโอโตโกะดากิ และ น้ำตกอนนะดากิ น้ำตกโอทากิซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดนั้นมีขนาดความยาวเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 เมตร และสูงถึง 18 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของน้ำตกเซกิโนโอะและเก็บภาพสวย ๆ ได้จากบนสะพานที่อยู่ใกล้ ๆ
ข้อมูลน้ำตกเซกิโนโอะ (関之尾滝)
ที่อยู่ 6843-20 Sekinoocho, Miyakonojo, Miyazaki 885-0113, Japan เวลาเปิด – ปิด เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ค่าเข้าชม ฟรี การเดินทาง จากสถานีรถไฟ JR Nishi-Miyakonojo นั่ง Miyazaki Transportation Bus มาลงที่ป้าย Sekinoodaki แล้วเดินต่อประมาณ 3 นาที
ทริปญี่ปุ่นครั้งหน้า มาเที่ยวมิยาซากิกัน!
เป็นยังไงกันบ้างคะ ช่างเป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติสวยงามจริง ๆ เลยเนอะ ขนาดศาลเจ้ายังโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ให้กลิ่นอายของความสบายใจและผ่อนคลาย ถ้าเพื่อน ๆ ที่ชอบในความสวยงามของธรรมชาติและชอบบรรยากาศของจังหวัดที่ให้ความผ่อนคลาย ก็อย่าลืมจังหวัดมิยาซากิแห่งนี้นะคะ และถ้ามาเที่ยวแล้วยังไม่จุใจ ก็ไปสนุกกันต่อที่จังหวัดคุมาโมโตะ จังหวัดโออิตะ และจังหวัดคาโกชิม่าที่อยู่ติดกันได้นะ