พอพูดเรื่องการอยู่คนเดียว หลายคนมีแต้มติดลบอยู่ในใจ
“ไม่มีเพื่อนล่ะสิ”
“นิสัยไม่ดีแน่ ๆ ถึงไม่มีคนคบ”
“ไม่มีใครเอาแน่นอน ถึงต้องอยู่คนเดียว”
จริง ๆ การอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลกหรือต้องมองในแง่ลบอะไรเลย และการอยู่คนเดียวก็ไม่ใช่ไม่มีใครเอา แต่การอยู่คนเดียวคือการแบ่งเวลาให้ตัวเองบ้าง เพราะทุกวันนี้ความสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้คนเราแทบไม่มีเวลาให้ตัวเองเลย
การจัดเวลาให้ตัวเอง ให้พื้นที่สำหรับตัวเองบ้าง ก็ทำให้เกิดพลังบางอย่างที่ตัวเราเองก็นึกไม่ถึง ไม่เชื่อลองให้เวลาตัวเอง แล้วไม่ทำอะไรเลยดูสิ และนี่แหละคือ 7 พลังที่คุณจะได้จากการอยู่คนเดียว
1. พลังที่จะฟื้นฟูจิตใจ
การมีสังคมไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่การอยู่ในสังคมทั้งวี่ทั้งวันมากจนเกินไป บางครั้งก็ทำร้ายเราได้อย่างร้ายกาจได้เหมือนกัน
ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่ทุกคนติดต่อกันตลอดเวลา ออนไลน์บ้าง ออฟไลน์บ้าง ความสัมพันธ์แบบนี้นี่แหละที่ทำให้เรามีเวลาอยู่คนเดียวน้อยลง ทำให้เราใช้ชีวิตกันแบบไม่มีลิมิตจนบางทีก็ทำให้ร่างกายและจิตใจเหี่ยวแห้งไปโดยไม่รู้ตัว
มีงานวิจัยมากมายที่บอกว่าการอยู่เงียบ ๆ คนเดียวช่วยเยียวยา ฟื้นฟูจิตใจตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะช่วงเวลานั้นเราจะได้พัก ได้คิด ได้ให้เวลากับเวลาตัวเองอย่างเต็มที่ และความสงบที่เกิดขึ้นก็จะเป็นพลังให้จิตใจได้รีบูสขึ้นใหม่อีกครั้ง
2. พลังที่จะคิดทบทวนเรื่องต่าง ๆ
เวลาใน 1 วันของคนเรา มักจะอยู่กับผู้คนเสียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากเวลานอนแล้ว เราอยู่กับคนอื่นแทบจะตลอดเวลา การใช้ชีวิตแบบนี้ทุกวัน ทั้งวัน ทำให้คนเราไม่มีช่องว่าง ไม่มีพื้นที่สำหรับตัวเองเลย บางคนวุ่นทั้งวันกับการดูแลลูก ดูแลสามี มีเวลาให้อีกทีก็ต้องนอนหลับพักผ่อน เพราะฉะนั้นทั้งวันคือไม่มีเวลาคิดอะไรเลย
การได้คิด ได้ตริตรองในสิ่งที่ผ่านไปแล้วเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต ถึงแม้จะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่ทุกอย่างคือบทเรียนที่จะทำให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง ดังนั้นการให้เวลาตัวเองได้คิดถึงเรื่องที่ผ่านมา ก็เหมือนกับการอ่านทบทวนบทเรียนสำคัญในแต่ละช่วงของชีวิต ให้โอกาสตัวเองได้ทำแบบทดสอบเพื่อเรียนรู้ว่าจะใช้ชีวิตให้มีความสุขมากขึ้นอย่างไร
3. พลังที่จะทำความเข้าใจกับตัวเอง
คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ใช้ชีวิตไปตามทางที่มันควรจะเป็น ขนบและค่านิยมหล่อหลอมในพวกเราต้องเรียนให้เก่ง ทำงานให้หนัก หาเงิน หาแฟนสักคน แต่งงาน มีครอบครัว มีลูก เลี้ยงลูก ให้ลูกเรียนให้เก่ง ทำงานให้หนัก หาเงิน หาแฟนสักคน แต่งงาน มีครอบครัว มีหลาน วนลูปไปแบบนี้เรื่อย ๆ โดยไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทางที่ว่านี้มันใช่ ! สำหรับเราจริง ๆ ใช่ไหม
ทุกวันนี้คำว่า “ค้นหาตัวเอง” ก็เลยถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นบ่อย ๆ บางคนเดินทางไปไกลโพ้นเพื่อค้นหาตัวเอง บางคนใช้เวลาไปครึ่งค่อนชีวิตเพื่อค้นหาตัวเอง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะพบตัวเองที่ปลายทางเหล่านั้น
จริง ๆ แล้ววิธีที่จะค้นหาตัวเองอาจเป็นแค่การทำความเข้าใจตัวเองให้มากขึ้น ที่ผ่านมาเราอาจใช้ชีวิตไปตามทางที่มันควรจะเป็น แต่ถ้าเราเข้าใจตัวเอง เราอาจไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไหนเลย หรือไป ก็ไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย บางทีอาจมีทางที่ยากกว่าหรือง่ายกว่านั้นก็ได้ แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นทางแบบไหน มันจะกลายเป็นทางที่เราอยากจะเดิน
4. พลังที่จะฟังเสียงตัวเอง
ลองย้อนนึก ๆ ดูสิว่าเราเคยได้คุยกับตัวเองจริง ๆ จัง ๆ บ้างหรือเปล่า การคุยกับตัวเอง ฟังเสียงความรู้สึกในใจของเราเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราจะไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของตัวเองเลย ถ้าไม่ได้ลองคิด ถาม ฟังหรือพูดคุยกับตัวเองดูสักครั้ง
เราอาจจะคิดไปเองก็ได้ว่าชอบอะไรแบบนั้น หรืออิทธิพลจากอะไรบางอย่างนำพาให้เราคิดไปแบบนั้น แต่การฟังเสียงตัวเอง คุยกับตัวเอง จะช่วยทำให้เราได้แสดงตัวตนผ่านความคิดของเราเอง โดยไม่ต้องมีใคร หรืออะไรมาชี้นำ
จริง ๆ แล้วเราอาจเป็นอีกคนที่เราเองก็นึกไม่ถึงเลยก็ได้ และเราจะไม่มีวันรู้ว่าตัวเราเป็นคนยังไง ถ้าไม่ได้ลองฟังเสียงตัวเองจริง ๆ จัง ๆ ดูสักครั้ง
5. พลังที่จะรู้จักตัวเองจริง ๆ
พอได้คิดเรื่องต่าง ๆ ได้ทำความเข้าใจตัวเอง ได้ฟังเสียงตัวเองมากขึ้น สิ่งที่ได้กลับมาก็คือการรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง โอเคอยู่กับคนอื่น เราอาจเป็นคนตลก สนุกสนาน พูดไม่หยุด แต่ตัวตนจากก้นบึ้งจริง ๆ อาจไม่ได้เป็นแบบนั้น เราอาจจะแค่เป็นไปตามแรงกระเพื่อมของสิ่งรอบตัว หรือคนรอบตัวอาจทำให้เป็นแบบนั้น
แต่หลังจากการได้อยู่คนเดียว เราอาจได้พบคนอีกคนที่ต้องมาทำความรู้จักกันใหม่ คนใกล้ตัวที่ไม่เคยได้รู้จักจริง ๆ เลยสักครั้ง คน ๆ นี้อาจมาแค่ทักทายหรือมาคุยด้วยตอนที่อยู่คนเดียว มาทำให้เราได้รู้จักตัวตนของเค้าให้มากขึ้น ซึ่งคน ๆ นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน คน ๆ นี้ก็คือตัวเราเอง
6. พลังที่จะเป็นตัวของตัวเองแบบสุด ๆ
คนเราเป็นสัตว์สังคมก็จริง แต่คนเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้อยู่กับคนอื่นตลอดเวลา เราต้องมีพื้นที่ให้ตัวเองได้ขยับขยาย ปลดปล่อย หรือแม้แต่หายใจได้คล่อง ๆ กันบ้าง เพราะการอยู่ร่วมกับใครสักคน ต่อให้สนิทชิดเชื้อกันแค่ไหน ก็มีบางโมเมนต์ที่เราสามารถไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่
ขณะที่การอยู่คนเดียวคือการปลดปล่อยตัวเองขั้นสุด เราจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรเลยก็ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเองล้วน ๆ ไม่ต้องสนใจใคร ไม่ต้องแคร์สายตาใคร และไม่ต้องคิดว่าคนอื่นจะคิดอะไร คนเราไม่จำเป็นต้องคีฟลุคตลอดเวลา ปล่อยตัวเองให้บ้า ๆ บอ ๆ เวลาอยู่คนเดียวบ้างก็ไม่ใช่เรื่องผิด
7. พลังที่จะทำในสิ่งที่ฉันมีความสุข
หลังจากได้ปลดปล่อยออกไปบ้างแล้ว สิ่งที่จะตามมาเวลาอยู่คนเดียวก็คือ การอยากหาอะไรสักอย่างที่เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ มานั่งทำ นอนทำเงียบ ๆ คนเดียว
บางคนแค่นั่งมองต้นไม้เงียบ ๆ คนเดียวก็เป็นความสุขแล้ว บางคนนั่งคนเดียวมองทะเลทั้งวันไม่มีเบื่อ เพราะเรื่องเหล่านี้คือความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทุกคนมองข้าม เพราะฉะนั้นลองอยู่คนเดียวดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าอะไรคือความสุขจริง ๆ ของเรา
มาถึงตรงนี้ อยากให้ทุกคนลองเริ่มให้เวลาตัวเอง เอาล่ะ ! ปิดมือถือ ไม่ต้องหลับตาหรืออะไรทั้งนั้น แค่ปลีกวิเวกออกมาอยู่คนเดียวในท่าทางที่คุณสบายที่สุด แล้วทุก ๆ วันคุณจะได้รับพลัง 7 อย่างนี้ไปแบบไม่รู้ตัว
ความเห็น 71
พระท่านว่าอย่าส่งจิตออกนอก ละเว้นการคลุกคลี
06 ก.ย 2565 เวลา 10.38 น.
ณัฐวัตร
สุดยอด!!!! ขอชมเชย ขอให้ทำแนวคิดดีๆๆนะครับ เป็นกำลังใจ
15 พ.ค. 2564 เวลา 23.15 น.
Toasumbankam
ผม
28 มี.ค. 2564 เวลา 01.06 น.
Supachai Munchaisuk
มนุษย์ก็เป็นธรรมชาติแต่ต่างจากสิ่งอื่นๆตรงที่มีจิตเป็นส่วนประกอบ
10 มี.ค. 2564 เวลา 21.25 น.
Sudarat S.
👍🙂ชอบข้อ6”พลังที่จะเป็นตัวของตัวเองแบบสุดๆ”
ขอบคุณมากค่ะสำหรับเนื้อหาที่มีประโยชน์นี้
09 ก.พ. 2564 เวลา 14.06 น.
ดูทั้งหมด