LINE โชว์ศักยภาพแชทเพื่อคนไทย ร่วมยกระดับธุรกิจสู่ยุคใหม่แห่ง Chat Economy
LINE ประเทศไทย ได้ร่วมแสดงมุมมอง โชว์ศักยภาพแชท นำธุรกิจไทยเข้าสู่ยุค Chat Economy ในงาน DAAT DAY 2023 – The Age Of Marketing Intelligence When Human & AI Work As One โดยมี นวภัทร ร่มฟ้าไทย หัวหน้าที่ปรึกษาธุรกิจรีเทลและอีคอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย ร่วมเวทีในหัวข้อ “Success Case of Social Commerce” เผยพฤติกรรมการใช้งานแชทที่พัฒนาไปมากกว่าการสื่อสาร แต่สามารถใช้สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างครบวงจร
นวภัทร เปิดเผยว่า LINE เป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับการสื่อสารผ่านการแชทสำหรับคนไทยมากว่า 10 ปี จนปัจจุบันได้ขยายต่อยอดบริการสู่การใช้งานเพื่อธุรกิจผ่าน LINE OA ด้วยพื้นฐานพฤติกรรมของคนไทยที่ชอบพูดคุยซักถาม แชทจึงเข้ามาเป็นช่องทางหลักในการสร้างสัมพันธ์ โดยมี Human Touch มาสร้างมูลค่าเพิ่ม เติมเต็มประสบการณ์ที่ดีให้กับธุรกิจบนโลกออนไลน์
โดยในปัจจุบัน คนไทยใช้เวลาอยู่บน LINE เฉลี่ยมากถึงกว่า 90 นาทีต่อวัน และจากผลสำรวจของ LINE ชี้ให้เห็นว่า การพูดคุยผ่านแชทเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากถึง 30% ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของ LINE ในการเป็นแพลตฟอร์มแชทที่เข้าถึงและสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ ยังได้เผยถึงอัตราการเติบโตของจำนวนข้อความผ่านแชทบน LINE OA ที่เพิ่มมากขึ้นถึง 23% สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในการแชทระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเรื่องข้อมูลสินค้าเบื้องต้น ไปจนถึงบริการหลังการขาย แบรนด์จึงต้องสามารถตอบสนองลูกค้าผ่านแชทได้อย่างรวดเร็ว ครบครันและทันใจ
นั่นจึงเป็นที่มาที่ LINE พัฒนาเครื่องมือต่างๆ มากมาย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับ LINE OA รวมไปถึงการพัฒนาให้ LINE เป็นแพลตฟอร์มเปิด ที่พร้อมเชื่อมต่อเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นจากภายนอกผ่าน LINE API
โดย LINE OA Plus ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเครื่องมืออันน่าสนใจที่ LINE สร้างขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการแชทบน LINE OA ให้สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งแบรนด์สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ Myshop เครื่องมือพื้นฐานในการเปิดร้านออนไลน์ ช่วยปิดการขายผ่านแชทได้ง่าย เหมาะกับทุกกลุ่มธุรกิจ โดยลูกค้าสามารถกดลิงก์เข้าสู่ร้านเพื่อดูสินค้าและสั่งซื้อได้ทันที
และ MyCustomer สำหรับจัดเก็บและจัดการข้อมูลลูกค้า เพื่อการทำธุรกิจด้วยดาต้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน ด้วยการที่ LINE เป็นแพลตฟอร์มเปิด ธุรกิจหรือนักพัฒนาทั่วไปจึงสามารถพัฒนาเครื่องมือภายนอกเข้ามาเชื่อมต่อกับ LINE OA ได้ อาทิ การพัฒนาแชทบอตเข้ามาเพื่อช่วยให้แบรนด์ตอบรับลูกค้าให้รวดเร็วขึ้น หรือแม้แต่การเชื่อมต่อกับ AI ของ GPT ก็สามารถทำได้ เพื่อช่วยให้แบรนด์สามารถเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล และโต้ตอบกับลูกค้าในรูปแบบที่ซับซ้อนภายใต้ข้อมูลจากแบรนด์ ตลอดจนการทำโปรแกรม CRM เก็บแต้ม เก็บดาวหรือคะแนนสะสม เพื่อสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในกลุ่มลูกค้า เป็นต้น
นวภัทร ยังเล่าเพิ่มเติมถึงตัวอย่างเทคนิคการใช้ LINE OA ที่ให้ประสิทธิภาพสูง คือ การใช้ LINE OA ในรูปแบบ Decentralized คือการเพิ่มจำนวน LINE OA ย่อยตามพื้นที่บริการ เช่น ตามพื้นที่สาขาย่อย โดยมี LINE OA หลักของสำนักงานใหญ่ควบคุมการทำงาน ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้แบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ดูแลได้อย่างทั่วถึง สร้างประสบการณ์ที่เป็นเลิศให้กับลูกค้า ซึ่งรูปแบบนี้เริ่มถูกนำไปใช้ในธุรกิจหลายประเภทธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจธนาคาร รีเทล ความงาม แฟชั่น
รวมถึงมีการใช้เครื่องมือ MyShop เพื่อปิดการขายได้ง่าย สะดวกต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขายใน OA ย่อยควบคู่ด้วยเช่นกัน
“วันนี้ เมื่อเราพูดถึง Chat โดยเฉพาะ Chat บน LINE ไม่ได้เป็นเพียงการพูดคุยเพื่อการสื่อสารเท่านั้น แต่ LINE ได้พัฒนา Chatให้กลายเป็น Chat Economy ระบบนิเวศสำคัญแห่งการพูดคุย ที่สามารถขับเคลื่อนประเทศให้เติบโตโลกยุคดิจิทัลได้
ไม่ว่าจะเป็น*เชิงพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่*ที่ LINE ได้เชื่อมโยงบริการด้านไลฟ์สไตล์ต่างๆ เช่น ช้อปปิ้ง คอนเทนต์ สาระข่าวสาร ดูดวง ทำบุญ บริจาคเงิน ฯลฯ มารวมไว้ในแพลตฟอร์มเดียว
และในเชิงการทำธุรกิจให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างการเติบโตให้กับทั้งแบรนด์ใหญ่และเล็กในประเทศไทยได้อย่างครบครัน” นวภัทร กล่าวสรุป
ผู้สนใจใช้งาน LINE สร้างการเติบโตให้ธุรกิจ สามารถดูข้อมูลเบื้องต้นได้ที่ เว็บไซต์ LINE for Business หรือติดต่อเอเจนซี่ที่ดูแลแบรนด์ของท่านได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือเลือกติดต่อพันธมิตรเอเจนซี่ของ LINE ได้โดยคลิก ที่นี่
#LINEforBusiness #DAATDay2023