18+ เซ็กส์ทอยยุคหิน ! ประวัติศาสตร์ความฟินของมนุษยชาติ
Sextoy ตัวช่วยเสื่อม หรือตัวช่วยเสียว !
ก่อนอื่นทุกคนรู้มั้ยว่า การครอบครอง Sextoy ถือเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา 287 ที่ระบุว่า Sextoy เป็นสินค้าต้องห้าม เป็นสินค้าผิดกฎหมาย เข้าข่ายลามก อนาจาร และเป็นอันตรายต่อสังคมและศีลธรรม ซึ่งตามพระราชบัญญัติศุลกากรห้ามนำเซ็กซ์ทอยเข้าหรือออกประเทศกันด้วยนะ
ถ้าใครฝ่าฝืนแอบส่งดิลโด้ไปให้เพื่อนสาว หรือให้นางส่งดิลโด้มาให้เรา ระวังจะต้องรับโทษตามความผิดมาตรา 244 และมาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2560 เราสามารถโดนจับ และปรับไม่เกิน 60,000 บาทได้เลย ดังนั้นต้องระวังให้ดี ใครคิดจะครอบครองของเล่นเสียว ๆ ระวังโดนจับเข้า "ห้องกรง" แบบไม่รู้ตัว
เราเลยจะพาทุกคนไปทัวร์รอบโลก สืบประวัติศาสตร์เล่นเสียวว่า มีกำเนิดมาจากไหน ในแต่ละยุคหน้าตาเป็นยังไง ให้ได้ขบคิดกันดูว่า Sextoy นั้นควรถูกตีตราให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายจริงไหม ?
ประวัติศาสตร์เสียว ! การเดินทางของ Sextoy จะไปหยุดที่ตรงไหน ?
ขอบอกเลยเรื่องต่อไปนี้จะช็อกวงการมากค่ะ ! รู้มั้ยว่า ความจริงแล้ว Sextoy นั้นกำเนิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ในยุคหินแล้วนะจ๊ะ ก็แอบงงอยู่ว่าหินไม่บาดจิมิหร๊อ !? แต่ก็เอาเถอะ ! พ้อยท์ของเรื่องนี้ก็คือ… ไม่ว่าจะมนุษย์ยุคไหนมันก็มี "ความเงี๊ยน" กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จนเป็นเรื่องปกติกันอยู่แล้ว ไม่เชื่อไปดูหน้าตาของเล่นสุดเสียวในแต่ละยุคกันเลย
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคจู๋หินบาดจิมิ !
เปิดโลกกับของเล่นผู้ใหญ่ชิ้นแรกของโลก Sextoy ที่ถูกค้นพบแบบมีหลักฐานเป็น ๆ อยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมัน เชื่อว่า กำเนิดขึ้นประมาณ 28,000 ปีก่อนอยู่ในช่วงยุคหิน โดยเจ้าของเล่นชิ้นนี้จะมีลักษณะเป็นแท่งหินที่มีรูปร่างคล้ายอวัยวะเพศของผู้ชาย
อย่างไรก็ดีเจ้า "จู๋หิน" ชิ้นนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่า เป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้ในกิจกรรมทางเพศโดยตรง หรือว่าเป็นเครื่องรางกันแน่ หน้าตาของมันจะคล้ายกับ "ศิวลึงค์" และอาจใช้ในพิธีกรรมบูชาบางอย่าง หรือใช้เป็นอาวุธก็ได้ แล้วยังเจอพร้อมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่หน้าตาคล้ายหวี หรือเข็มเย็บผ้าอีกด้วย
และในยุคอียิปต์โบราณเอง ก็มีการใช้อุปกรณ์ที่ทำจากหินหรือแท่งไม้ จำลองให้คล้ายกับอวัยวะเพศชายในการสนองความใคร่ด้วยนะ ลือกันว่า พระนางคลีโอพัตราได้คิดค้น "เครื่องสั่นพลังผึ้ง" หรือ "น้ำเต้าเสียว" แบบสั่นได้ ที่ใส่ผึ้งเข้าไปในน้ำเต้าเพื่อให้เกิดการสั่นได้ด้วย อันนี้ก็ล้ำเกินแม่ !
อารยธรรมกรีกโรมัน ยุคที่ Sextoy คือเรื่องปกติ
ในยุคกรีกโรมันเป็นยุคที่พบหลักฐานชัดเจนที่สุดว่า มีการสร้าง Sextoy ขึ้นมาจริง ๆ เพราะมีภาพวาดอยู่ในพิพิธภัณฑ์ฝรั่งเศสด้วย โดยเจ้าเซ็กซ์ทอยชิ้นนี้มีชื่อเรียกว่า "Olisbos" (โอลิสโบส) เป็นแท่งเสียวที่ทำมาจากดินเหนียวหรือไม้ ปั้นเป็นรูปอวัยวะเพศชาย สามารถใช้สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้ทั้งชายและหญิง
แถมยุคนี้ยังมีความเชื่อสุดแซ่บที่ว่า ถ้าหากผู้หญิงห่างหายการมีเซ็กซ์ไปนาน จะทำให้เสี่ยงเป็นโรคภัยไข้เจ็บได้ ! ในระหว่างที่ผู้ชายต้องออกรบนาน ๆ บรรดาหญิงสาวหญิงม่ายทั้งหลาย ก็มีเจ้าแท่งไม้ดิลโด้นี้แหละเป็นเพื่อนคลายเหงา ว่ากันว่า มีการใช้ขนมปังปั้นให้เป็นรูปจู๋ และใช้กับน้ำมันมะกอกด้วยนะคุณน้า คนยุคนั้นชีก็แซ่บอยู่เด้อ !
ในเวลาเดียวกัน ทางฝั่งมณฑล Jiangsu ของจีน ในช่วงราชวงศ์ฮั่นปกครอง ก็พบกับเครื่องชามต่าง ๆ ที่รูปร่างคล้ายดิลโด้ ทำมาจากหยก และทองแดง ส่วนจะเอาไว้ใช้ทำอะไรนั้นใครได้เห็นก็คงจะนึกออกแหละ นอกนั้นยังมีบันทึกในราชวงศ์หมิงด้วยว่า มีการใช้ "Ben Wa Balls" ลูกบอลเสียวที่ทำจากทองแดงหรือดิน สอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศหญิง และใช้กล้ามเนื้อจิมิบีบเกร็งแล้วจะรู้สึกดี พร้อมฝึกความแข็งแรงไปด้วย ว่าไปนั่น !
จะผ่านไปกี่ยุค ความเสียวก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์เสมอ ! เราก็เห็นอยู่ว่า Sextoy นั้นมีมาตั้งแต่ในยุคหินจนถึงปัจจุบัน ทุกวัฒนธรรมทั่วโลกมีการพูดถึงของเล่นสนองความเสียวของมนุษย์กันมาโดยตลอด
แล้วหลังจากยุคโบราณล่ะ ? Sextoy จะมีวิวัฒนาการไปในรูปแบบไหน ? จนกลายเป็น Sextoy ที่เห็นในปัจจุบันเราไปหาคำตอบกันเพิ่ม ชวนซิสไปส่องประเภทของ Sextoy พร้อมวิธีใช้แซ่บ ๆ กันได้ที่……
หรือไปที่ Line Official Account : @SistaCafe ( bit.ly/LineOASis ) หรือ สแกน QR code ที่นี่ !
บทความแนะนำ