‘ทำแท้งถูกกฎหมาย’ ทางออกสังคมไทย! แก้ถูกจุดหรือสุดท้ายก็ปลายเหตุ?
ถ้าคุณลองพิมพ์คำว่า “ทำแท้งที่ไหน” ลงในช่องค้นหา จะพบผลลัพธ์กว่าแสนเว็บไซต์ และเพียงเลื่อนไปไม่กี่นิ้วมือไถ ก็จะพบกับเว็บไซต์แนะนำคลินิกทำแท้งที่ใช้ชื่อนำหน้าว่า แพทย์หญิง หมอ นายแพทย์ ฯลฯ ที่ให้บริการทำแท้งพร้อมบอกราคายาขับมดลูกในราคาไม่กี่ร้อยบาท เพื่อให้หญิงสาวที่ต้องการทำแท้งเพราะความไม่พร้อม (ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และด้านฐานะ) ได้สั่งซื้อไปกินเอง หรือเดินทางไปทำแท้งกับคลินิกเถื่อน
นี่คือสภาวะที่พร้อมจะคร่าชีวิตหญิงสาวหลายคนได้ทุกเมื่อ และเข้าถึงได้ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย
แล้วรู้หรือไม่ว่าในแต่ละปี มีผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อมารักษาภาวะแทรกซ้อนจากการทำแท้งอย่างไม่ปลอดภัยถึงปีละกว่า 30,000 ราย และจากข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในประชากรหนึ่งแสนคน จะมีผู้หญิงที่เสียชีวิตจากการทำแท้งเถื่อนสูงถึง 300 คน
เมื่อดูจำนวนของการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม จากสถิติของสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม1663 ที่เก็บข้อมูลจากผู้โทรเข้ามาปรึกษา ระหว่างเดือนตุลาคม 2560 ถึงมิถุนายน 2561 ก็มีจำนวนคนโทรเข้ามาปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อมถึง 12,215 ราย ในจำนวนนี้มีจำนวนผู้ตัดสินใจทำแท้ง 8,577 ราย หรีอเกินครึ่งของจำนวนคนที่ท้องไม่พร้อม ซึ่งการตัดสินใจทำแท้งที่ว่า ก็ต้องมาดูกันว่าเข้าข่ายที่แพทย์จะยุติการตั้งครรภ์ให้ได้หรือไม่
เพราะตามกฎหมายและข้อบังคับของแพทยสภา มีเพียง 5 เหตุผลเท่านั้นที่แพทย์ในโรงพยาบาลจะยุติการตั้งครรภ์ให้ได้ นั่นคือ การตั้งครรภ์นั้นส่งผลต่อสุขภาพของแม่, ส่งผลต่อสุขภาพจิต, ทารกมีความเสี่ยงที่จะพิการอย่างรุนแรง, เป็นการตั้งครรภ์จากการข่มขืน และเป็นการตั้งครรภ์ของเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี (แม้เด็กจะสมยอมกับเพศสัมพันธ์นั้นก็ตาม)
สาเหตุนอกเหนือจากนี้ แพทย์ในโรงพยาบาลไม่สามารถทำให้ได้เพราะถือว่า ‘ผิดกฎหมาย’
แต่อย่างที่เรารู้กันว่าในสังคมไทยที่เรื่องเพศยังเป็นเหมือนของแสลงที่มักไม่ถูกพูดถึงอย่างตรงไปตรงมา และการส่งเสริมให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ได้เปิดเผยในวงกว้าง ด้วยข้ออ้างด้าน ศีลธรรมที่ค้ำคอมากับคำว่า ความเป็นไทยจนทุกวันนี้ เรายังได้ยินความเชื่อแปลก ๆ อย่าง หลั่งนอกไม่ท้อง หรือนับหน้าเจ็ดหลังเจ็ด ที่เป็นการเอาความสุขนำหน้าความปลอดภัยในโรค และความเสี่ยงจากการท้องไม่พร้อมที่มาถึงได้ทุกเมื่อ
ที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่าง คือความเชื่อที่ว่า ‘มีแต่เด็กใจแตกเท่านั้นแหละที่ท้องจนต้องทำแท้ง’ ซึ่งตัวเลขสถิติการทำแท้งในไทยก็ชี้ให้เห็นว่านี่อาจเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีที่ทำแท้ง คิดเป็นตัวเลขเพียง 25% ในขณะที่ผู้หญิงที่เป็นแม่คน แต่มีความจำเป็นในชีวิตที่ต้องทำแท้ง กลับมีมากถึง 30-40%
ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่า ‘ไม่ว่าใคร ก็สามารถอยู่ในภาวะท้องไม่พร้อมได้’ และการป้องกันไม่ให้มีการสูญเสียจากการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย ก็เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องเริ่มถกเถียง และแก้ไขกฎหมายให้พวกเธอสามารถเลือกที่จะยุติการตั้งครรภ์ได้ด้วยตัวเอง
ทุกวันนี้ ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา301 ยังเขียนเอาไว้ว่า ‘หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูกต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ’ ซึ่งเป็นการตราหน้า และบังคับให้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อย่างไม่พร้อม จำเป็นต้องอุ้มท้องและคลอดหนึ่งชีวิตออกมาเผชิญกับโลกภายนอก ในสภาพสังคมหรือเศรษฐกิจที่คนเป็นแม่อาจไม่ได้อยากให้ลูกของเธอเกิดมา
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาผู้หญิงเสียชีวิตจากการทำแท้งเถื่อน ไม่ใช่แค่เปิดเสรีให้ทำแท้งได้อย่างถูกกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่การแก้ไขปัญหาท้องไม่พร้อมในระยะยาวก็ต้องทำควบคู่กันไปด้วยเป็นวัฏจักร หากเราส่งเสริม และกล้าพูดถึงเรื่องเพศกันอย่างตรงไปตรงมา ให้ความรู้เรื่องเพศในสถานศึกษาอย่างถูกต้อง ปัญหาการท้องไม่พร้อมก็จะลดลง การเสียชีวิตจากการไร้ทางเลือกก็จะลดลง
จริงอยู่ที่หัวข้อของการอนุญาตให้ทำแท้งเป็นเรื่องเสรี ยังเป็นที่ถกเถียงกัน แม้แต่ในประเทศใหญ่ ๆ ในโลก เป็นการปะทะกันระหว่างความเชื่อทางศาสนาและบาปบุญ กับความเชื่อด้านสิทธิและเสรีภาพของคน ๆ หนึ่ง แต่ถ้าลองมาดูที่ปลายทาง และตัวเลขของชีวิตที่เสียไปจากการทำแท้งอย่างผิดกฎหมาย เพียงเพราะพวกเธอไม่มีตัวเลือกอื่นในชีวิต เราควรเห็นตรงกันว่านั่นอาจเป็นบาปที่เกิดขึ้น
บาปนั้นคือบาปของรัฐที่ปล่อยให้ชีวิตหนึ่งต้องไร้หนทางจนต้องไปพึ่งพาสิ่งที่ทำร้ายตัวเองในภายหลัง
ที่มาข้อมูล:
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2194379
https://thematter.co/thinkers/international-safe-abortion-day/61006
https://www.matichon.co.th/newsroom-analysis/news_1151361
http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/m2-301-305.html
ภาพประกอบ
https://www.dek-d.com/board/view/3050709/
http://uasean.com/showpic.php?url=http://uasean.com/images/blog/kerobow01/20130508121135.jpg
ความเห็น 53
Jum'T💜
การทำเช่นนี้จะทำให้เด็กมีผัวอายุน้อยลงและเพิ่มจำนวนมากขึ้นในกลุ่มที่ยังเรียกว่า..เด็กหญิง
13 ก.พ. 2562 เวลา 15.51 น.
Gifz Naparat
กรณีที่ไม่พร้อมป้องกันดีกว่าไหม คิดจะสนุก พอท้องแล้วทำแท้ง ไม่ได้จะโลกสวยอะไร แต่ทำอะไรลงไปแบบไร้ความรับผิดชอบ มันดีแล้วหรือ?
ส่วนกรณีที่โดนข่มขืน อันนี้เห็นด้วยที่ให้ทำแท้ง เพราะไม่ได้เกิดจากความเต็มใจ ยิ่งถ้าให้เด็กเกิดมา คนเป็นแม่ยิ่งแย่ไปกันใหญ่
แต่พวกที่สนุกไปวันๆ เอากันมันๆ พอท้องแล้วบอกไม่พร้อม ก็รู้ตัวอยู่แล้วนี่ว่าไม่พร้อม แค่เอามันก็ป้องกันสิ หรือป้องกันแล้วเอากันไม่มัน?
13 ก.พ. 2562 เวลา 15.08 น.
Wisit
แต่ก็ยังดีกว่าคลอดแล้วเอาไปทิ้งหรือฆ่าทิ้ง
13 ก.พ. 2562 เวลา 12.57 น.
😈takorn_puk 1951😈
ส่วนตัวเห็นด้วยครับถ้าเด็กเกิดมาโดยไม่ได้เป็นความต้องการของพ่อแม่ เด็กก็จะไม่มีความสุข เป็นปัญหาสังคมในภายหน้าอีก คนพร้อมที่ตะดีจะทำให้สถาบันครอบครัวมีความสุขนะครับ
13 ก.พ. 2562 เวลา 12.25 น.
อยากให้ถูกกฏหมายค่ะเพราะเด็กวัยรุ่นใจแตกมีเยอะในสังคมไทยและมีการท้องไม่พร้อมมากขึ้นเรื่อยๆของใช้ในชีวิตประจำวันของเด็กก็แพงโรงพยาบาลก็แพงอากาศก็ไม่บริสุทธิ์ทำให้เด็กเล็กๆป่วยงานก็หายากจะเลี้ยงเด็กหนึ่งคนกว่าจะโตก็หลายปีสุดท้ายก็เกิดพ่อแม่ทำร้ายกันทะเลาะกันแล้วก็มาลงทำร้ายเด็กในที่สุดสุดท้ายก็ทิ้งเป็นภาระแก่สังคมและประเทศชาติค่ะไม่โลกสวยแต่เป็นความจริงของประสบการณ์ชีวิตค่ะ
13 ก.พ. 2562 เวลา 11.48 น.
ดูทั้งหมด