ในชีวิตประจำวันเราต้องเผชิญกับเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะเรื่องดี ๆ ทำให้มีความสุข หรือบางวันอาจจะต้องเจอความทุกข์บ้างก็เป็นธรรมดา ถ้ามันเกี่ยวข้องกับเราก็ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น แต่เนื่องจากเราอยู่ในสังคม แวดล้อมไปด้วยคนอื่น มันก็มีบ้างที่เผลอไผลไปข้องเกี่ยวกับ ‘เรื่องคนอื่น’ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ซึ่งบางทีก็นำพาเรื่องไม่พึงประสงค์มาให้เราซะงั้น จะดีกว่าไหมหากเราไม่ต้องไปยุ่ง ไปพัวพัน ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้
1. เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ
เรื่องคนอื่นที่ไม่ควรไปก้าวก่าย แตะต้องที่สุดก็หนีไม่พ้นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เพราะว่าอะไร เพราะว่าเงินใครเงินมันถูกไหมล่ะคะ เงินเราเองเราก็ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวาย เงินคนอื่นก็เหมือนกัน ดั่งสุภาษิตที่ว่า เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร มันทำลายมิตรภาพ ทำลายชีวิตกันมาแล้วนักต่อนัก กับแค่กระดาษบาง ๆ แต่แสนอันตราย เพราะฉะนั้นเรื่องเงินทองอย่าได้ข้องเกี่ยวซึ่งกันและกันเลย
ค้ำประกัน
เสียเพื่อนเสียครอบครัวกันมานับไม่ถ้วนเพราะลายเซ็นเดียว รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องการค้ำประกันทรัพย์สินเป็นเรื่องเสี่ยง ต่อให้รักหรือไว้ใจกันมากแค่ไหนก็ไม่ควรยื่นมือไปเกี่ยวข้องเลยค่ะ เพราะเราไม่มีทางรู้เรื่องราวของใครได้ทั้งหมด 100% ยอมค้ำประกันให้ แรก ๆ เขาอาจจะเป็นลูกหนี้ที่ดี ใช้จ่ายตรงเวลา แต่เมื่อถึงคราวขัดสน คนซวยจะกลายเป็นเราทันที เพราะฉะนั้น จงตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีกว่า ปฏิเสธไปเสีย อย่ามัวแต่เกรงใจกัน มันไม่คุ้มหรอกค่ะ
กู้ยืม
อีกเรื่องก็คงไม่พ้นเรื่องการกู้หนี้ยืมสินกัน วันนี้ยืม พรุ่งนี้คืน ลูกหนี้ที่ดีก็มี แต่ลูกหนี้แย่ ๆ ก็เยอะ ไม่ใช่หรือ อย่าลืมว่า หากให้ยืมครั้งหนึ่งแล้ว ย่อมมีครั้งสองครั้งสามตามมาแน่ ๆ หากไม่อยากสูญเสียทั้งเงินทั้งความสัมพันธ์ล่ะก็ อย่าให้ยืมจะดีกว่าจ้ะ
2. เรื่องผัว ๆ เมีย ๆ
ความสัมพันธ์ต่อกันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากกก (ก.ไก่กี่ตัวก็ไม่พอ) แม้แต่คู่เราเองยังทะเลาะกันไม่เว้น ยังขัดใจกันได้เรื่อย ๆ นับประสาอะไรกับเรื่องคู่ผัวตัวเมียของคนอื่น หลายคนหวังดี ทำตัวเป็นศิราณีปลอบใจให้คำปรึกษาคนอื่น แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ กัลยาณมิตรย่อมกระทำต่อกัน แต่! ทุกอย่างต้องมีขอบเขต เราให้คำแนะนำได้ตามสมควร แต่อย่าถึงขั้นตามติดชีวิตเขา หรือไปพัวพันเป็นบุคคลที่สามเลยค่ะ ยังไงก็ปล่อยให้เขาดีไซน์ชีวิตตัวเองดีกว่า
3. ความลับของคนอื่น
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ‘ความลับ’ มิหนำซ้ำยังเป็นของ ‘คนอื่น’ อีกด้วย สองต่อเลยค่ะ ไม่ว่ามองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นความเหมาะสมที่จะเข้าไปยุ่งเลยสักนิด เพราะเมื่อไหร่ที่ได้ล่วงรู้มาแล้ว หากมันรั่วไหลไป เราเองก็อาจจะซวยไปด้วย แม้ว่าเราจะไม่ใช่คนปริปากก็ตาม แต่ก็เหมือนยื่นมือข้างหนึ่งเข้าไปช่วยแล้วค่ะ ลองคิดว่าถ้าเป็นความลับที่เกี่ยวกับเรื่องไม่ดี เรื่องผิด ก็ยิ่งแล้วใหญ่ ทางที่ดีอย่ารู้เรื่องคนอื่นเลยจะดีกว่า เซฟทั้งเราเซฟทั้งเขาค่ะ
4. รสนิยมชมชอบ
เรื่องความชอบเป็นเรื่องปัจเจกมาก ๆ ค่ะ และมันเรื่องความแตกต่างที่สวยงาม เพราะงั้นแล้วการไปมีส่วนร่วม หรือเสนอแนะความชอบความหลงใหลของคนอื่นก็ดูไม่ใช่เรื่องที่สมควรเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่อง
อุดมการณ์
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากเรื่องหนึ่งไม่แพ้ศาสนาและความศรัทธาต่าง ๆ การที่คนหนึ่งคนจะมีความลุ่มหลงในเรื่องใดก็ตามแปลว่าเขาศึกษามาอย่างดีแล้ว อุดมการณ์ที่แตกต่างกันไม่ใช่เรื่องผิดแปลก แต่การพยายามบังคับให้คนอื่นต้องศรัทธาตามเรานั่นจะทำให้เกิดความแตกแยก การอยู่ร่วมกันอย่างต่างแต่เข้าใจคือสิ่งที่ดีที่สุด รู้จักประนีประนอมกันจะดีกว่านะคะ
ความหลงใหล
ความหลงใหลเป็นเรื่องที่เราไม่ควรไปบงการหรือบังคับให้ใครต้องชอบหรือไม่ชอบอะไร มันเป็นเรื่องส่วนบุคคลมาก ๆ ค่ะ เขาชอบ เราไม่ชอบ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่จำเป็นต้องรักอะไรเหมือนกันก็ได้นี่นา
สไตล์
แฟชันหรือสไตล์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความเฉพาะตัวสุด ๆ อย่างที่เราได้เห็นว่ารอบตัวเรามีคนหลากหลาย สดใสแตกต่างกันไป การไปป้วนเปี้ยนกับแฟชันที่คนอื่นชอบก็จะดูไม่น่ารักไปหน่อย
5. เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเราเลยสักนิด
ชัดเจนที่สุด! เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเราเลยก็อย่าเข้าไปยุ่งค่ะ อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนจะดีมาก เรื่องของเขาก็ให้เขาจัดการไป บางครั้งความหวังดีของเราก็ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อใครเสมอไปนะคะ ลองคิดไตร่ตรองดูก่อนก็ได้ว่าหากเราต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนั้น ๆ จะมีข้อดีข้อเสียคุ้มค่ากันไหม
แต่ทั้งหมดนี้ หากเขาต้องการความช่วยเหลือก็ขอให้พิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไปว่าคุ้มไหมที่จะยื่นมือไปช่วย แต่อย่าลืมข้ออื่นที่กล่าวมาแล้วด้วยนะคะบางทีอาจจะเสี่ยงเกินไปหากต้องเข้าไปพัวพัน เดี๋ยวจะกลายเป็นเสียความสัมพันธ์ เสียเงิน เสียความรู้สึกไม่จบไม่สิ้นค่ะ
.