ปีใหม่นี้ เลิกได้เลิก! 13 พฤติกรรมที่เลิกทำแล้วชีวิตจะดีขึ้น

คนเราก็ต้องมีพฤติกรรมที่เรารู้สึกว่า ไม่ดีเอาเสียเลย แต่ก็ยากที่จะเลิก บ้างอาจจะรู้ตัว บ้างอาจจะไม่รู้ตัว วันนี้เรามาลองเช็กลิสต์กันดีกว่าว่าเรามี “พฤติกรรมไม่ดี” เหล่านี้ที่เราเผลอทำ หรือตั้งใจทำอยู่บ้างหรือเปล่า ถ้ามีแล้วเลิกหรือลดได้ ก็ควรทำเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

1. กินเมื่อเครียด

หลาย ๆ คนอาจจะทำพฤติกรรมนี้อยู่ไม่รู้ตัว ก็คือ “กินเมื่อเครียด” เมื่อรู้สึกไม่มีความสุข เครียด ผิดหวัง วิตกกังวล รวมไปถึงมีความสุข ก็กิน กิน กิน และกิน และการกินนั้นไม่ได้เกิดจากความหิว แต่การกินจะช่วยเติมเต็มความว่างเปล่าทางอารมณ์ แม้ว่าเวลาเครียดแล้วกินจะทำให้รู้สึกดี แต่ว่าพอกินเสร็จแล้ว ความรู้สึกเหล่านั้นมันก็หายไป ลองคิดเล่น ๆ ว่า วัน ๆ นึง คนเราต้องการพลังงานจากอาหาร 2000 แคลเลอรี แต่หากเรากินทุกครั้งที่รู้สึกเครียด รับรองว่าแคลเกินแน่นอน เมื่อหลังจากกินเข้าไปแล้วเรารู้สึกว่ากินมากเกินก็จะรู้สึกไม่มีความสุข และกลับมาเครียดวนไป หากทำได้เลิกดีกว่า กลับมากินแบบถูกวิธี เพื่อความสัมพันธ์ที่สุขภาพดีกับอาหาร อย่าลืมว่าการกินเมื่อเครียด ไม่ได้เป็นหนทางที่จะช่วยให้หลุดพ้นได้

2. กัดเล็บ

การกัดเล็บไม่ได้เพียงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกสุขลักษณะ แต่ยังเป็นสาเหตุของสุขภาพทางช่องปากด้วย รวมไปถึงสุขภาพของช่องท้อง และยังทำให้นิ้วมือและเล็บไม่สวย คนที่ชอบกัดเล็บนั้น มักจะมีเล็บที่สั้นกว่าคนปกติ เล็บมักจะมีรอยแกะอยู่เสมอ ควรหาให้ได้ว่าสาเหตุที่กัดเล็บคืออะไร และก็ควรทดแทนพฤติกรรมนี้ด้วยการทำอย่างอื่นที่ดีกว่า เช่น ถ้าเรารู้ว่าเราชอบกัดเล็บเมื่อเครียด เวลาที่เครียดก็ควรจะไปทำอย่างอื่น เช่น ออกไปเดินเล่น ฟังเพลง เป็นต้น

3. คบกับคนที่มีทัศนคติแง่ลบ

เรามักจะได้เห็นคนกลุ่มนี้อยู่บ่อย ๆ - คนที่มักจะขัดทุกไอเดียที่คุณมี หรือดูถูกทุกเป้าหมายที่คุณต้องการ - ส่วนใหญ่แล้วคนเราก็มักจะวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองเก่งอยู่แล้ว นั่นไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องมีคนที่คอยบั่นทอนตัวเราอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นไปได้ ควรที่จะอยู่ห่างคนเหล่านี้ และไปอยู่ในกลุ่มที่มีแต่พลังบวก พร้อมจะสนับสนุนเราดีกว่า คุณจะมีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอน

4. อยู่กับคนที่ไม่ได้เห็นคุณค่าของเรา

เราคงเคยอยู่ในสถานการณ์นี้ พยายามที่จะเอาใจคนที่ไม่ชอบเรา พยายามอยู่กับคนที่เขาไม่ต้องการเรา ในขณะที่เราให้ เราก็คาดหวังว่าจะได้กลับคืนมา เราควรที่จะขีดเส้นกันคนเหล่านั้นที่ไม่เห็นคุณค่าของคุณ เพราะพวกเขาอาจจะมาทำลายจิตวิญญาณของคุณก็ได้ หยุดเสียเวลากับคนที่ไม่ได้เห็นคุณค่าของคุณ ใช้เวลามากขึ้นกับคนที่เห็นค่าคุณ

5. สูบบุหรี่

การสูบบุหรี่เป็นหนึ่งในสาเหตุการตายไปทั่วโลก แค่ในสหรัฐ ก็มีประมาณ 5 แสนเคสที่เสียชีวิตโดยมีความเชื่อโยงกับการสูบบุหรี่เป็นประจำทุกปี ล่าสุดมีผลวิจัยว่า กว่า 1 ใน 3 ขแงประชากรผู้ชายในประเทศจีน มีอายุสั้นลงเพราะการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ไม่เพียงทำให้หน้าแก่ ฟันเหลือง ลมหายใจมีกลิ่นแล้ว แต่ยังเป็นพิษต่อคนรอบ ๆ ตัว รวมไปถึงคนที่คุณรักด้วย มีการศึกษาพบว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองนั้นมีอัตราเสี่ยงต่อปัญหาเรื่องหัวใจเป็นจำนวนมากกว่าคนที่สูบโดยตรง

6. ดื่มหนัก

ใคร ๆ ก็รู้ว่าการดื่มแอลกอฮอลเยอะไม่ดีต่อสุขภาพ แต่รู้หรือไม่ว่าไม่ดีแค่ไหน ตามที่สถาบันแห่งหนึ่งได้ศึกษาเกี่ยวกับการดื่มหนัก ไปจนถึงดื่มเฉพาะโอกาส/เทศกาล ก็สามารถทำลายสุขภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาสมอง โรคหัวใจ ไวรัสตับ ปัญหาตับอ่อน มะเร็ง ถ้าคุณดื่มหนักมาก ก็ลกจำนวนลง ค่อย ๆ ลดจนเหลือน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้าไม่สามารถเลิกได้คนเดียวก็ลองหาปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยการติดแอลกอฮอล

7. กินอาหารขยะ

อาหารขยะ ทุกวันนี้มีอยู่ทุกที่ ตลอด 24 ชั่วโมง อาหารขยะโดยเฉพาะของทอด เบอร์เกอร์ โซดา เป็นสิ่งที่นิยมในสังคมทุกวันนี้ ถ้าคุณคิดว่า อาหารขยะนั้นอร่อยนะ โปรดคิดอีกครั้ง มีการศึกษาพบว่าการบริโภคอาหารขยะ เปลี่ยนแปลงกิจกรรมในสมองเหมือนกับที่ยาเสพติดอย่าง โคเคน หรือเฮโรอีนทำ หลังจากการบริโภคอาหารขยะเป็นเวลาหลายสัปดาห์ สมองจะสั่งว่าเราต้องการอาหารเพิ่มขึ้น และคุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมเราอยากจะกินมันอีกทั้ง ๆ ที่เราเพิ่งกินไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ขณะที่เราไม่สามารถเอาอาหารขยะออกไปได้จากชีวิตตอนนี้ แต่เราสามารถลดจำนวนการบริโภคโดยเริ่มต้นจากวันนี้ได้ รวมไปถึงโซดา ผลไม้แปรรูป หรือน้ำแร่ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนจากของทอด เป็นมันบด สลัด หรือ ข้าว หรือการเปลี่ยนจากทอดเป็นย่าง อย่าทำเช่นนั้นเลย เปลี่ยนเป็นอาหารเพื่อสุขภาพดีกว่า ค่อย ๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ

8. กินเนื้อแดงมากเกินไป

มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้พบว่าการกินเนื้อแดงมาก ๆ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง เราควรจะควบคุมปริมาณในการกินเนื้อของเรา ค่อย ๆ ลดดีกว่าตัดทิ้งไปเลย โดยคำแนะนำจากสถาบันวิจัยมะเร็งคือให้กินเนื้อแดงน้อยกว่า 300 กรัมต่อสัปดาห์ (น้ำหนักเมื่อถูกปรุงแล้ว) ง่าย ๆ แต่เราสามารถทำได้

9. ดูทีวีมากเกินไป

จริง ๆ แล้วทีวีนั้นก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ ๆ มากนัก เหมือนกับได้ดูอะไรเดิม ๆ ซ้ำ ๆ วนไป ทีวีไม่ใช่ชีวิตของคุณ การใช้เวลา 3 ชั่วโมงในทุก ๆ คืนเพื่อดูทีวีไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น ใช้เวลานั้นทบทวนชีวิตของตัวเองดีกว่า เล่นหุ้น หรือทำอะไรก็ได้ที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ มันเป็นเรื่องยากในการที่จะตัดทีวีทิ้งไปจากชีวิตประจำวัน แต่ถ้าทำได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี

10. ชอบมาสาย

การมาสายไม่เพียงแค่เป็นนิสัยที่ไม่ดีต่อคนอื่น แต่มันยังหมายความว่าคุณต้องรีบที่จะไปอีกที่ถึงอีกที่หนึ่ง ต้องเร่งในการที่จะทำตามความตั้งใจ ต้องขอโทษทุกคนที่คุณพบ เลิกมาสายและต้องไม่ตรงต่อเวลา แต่ฝึกการมาถึงก่อน โดยมาถึงก่อน 15 นาทีของเวลานัด และหาอะไรมาทำใน 15 นาทีนั้น (อาจจะนานกว่านั้น ถ้าคนที่นัดมาสาย)

11. อยู่ในความสัมพันธ์ที่แย่

คุณเคยออกเดตกับคนผิดไหม? คุณจบลงด้วยสถานการณ์ประหลาด ๆ ตลอดเวลา? คุณอาจจะไม่สามารถที่จะหยุดตัวเองให้พบเจอคู่แย่ ๆ ได้ แต่คุณสามารถหยุดตัวเองในการติดต่อกับพวกเขาได้ ใช้เวลา และเข้าสู่ความสัมพันธ์กับพวกนั้น เราต่างเคยเสียเวลากับคนแย่ ๆ ดังนั้นเมื่อรู้ตัว ก็จงเดินออกมาซะ

12. ทำอะไรในนาทีสุดท้าย

ไฟไหม้ ทำงานในเวลาเที่ยงคืน มันไม่สนุก และเหนื่อย บางคนอาจจะผ่านชีวิตวัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยการเผาหัวทำงานในเวลาดึกดื่น และก็พบว่ามันเหนื่อยยาก มันไม่ได้ทำร้ายแค่ร่างกาย แต่ยังบั่นทอนจิตใจอีกด้วย จะเครียด วิตกกังวลว่าจะทำงานทันเวลาหรือไม่ วิธีแก้คือการเริ่มต้นวันด้วยการจดบันทึก ดูว่าเดธไลน์คือตอนไหน วางแผนว่าต้องทำอะไรให้เสร็จ โดยให้เสร็จก่อนสัก 1 สัปดาห์

13. มองโลกในแง่ลบ

ในทุก ๆ สถานการณ์ มี 2 ทางที่เราจะสามารถรับมือ คือ ขยายปัญหา และหาแต่สิ่งที่คุณไม่ต้องการ หรือยินดีกับสิ่งที่ดี และทำมันให้ดีขึ้นอีก ซึ่งการที่เราวิพากษ์วิจารณ์และสนใจในสิ่งที่ลบ มันง่าย แต่มันไม่ได้ช่วยสร้างพลังและแรงบันดาลใจให้เราดีขึ้น เปลี่ยนแปลง กับทุกสิ่งที่ไม่ดีที่เข้ามา ให้นิยามความดี 3 ข้อของสิ่งเหล่านั้น ฝึกอาทิตย์ละครั้ง ทำไปเรื่อย ๆ แล้วการคิดบวกจะกลายเป็นสัญชาตญาณของคุณมากกว่าความคิดลบ

ถ้าไม่สามารถตัด หรือเลิกได้ในชั่วพริบตา แต่ทำไปเรื่อย ๆ ก็จะเคยชิน และทำให้เรามีความสุขขึ้นได้อย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.lifehack.org