ดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกทะลุ 35,000 จุด แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันนี้ (24 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนี นิกเกอิ ปิดตลาดที่ระดับ 35,039.15 จุด เพิ่มขึ้น 170.52 จุด หรือ +0.49% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นนำตลาด ได้แก่ กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก, กลุ่มประกันภัย และกลุ่มขนส่งทางทะเล
นิกเกอิปรับตัวตามการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นตลาดวอลล์สตรีทเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาลดภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีน
"แม้ความกังวลจะเบาบางลง แต่ตลาดยังคงมีความไม่แน่นอน เนื่องจากแรงซื้อที่เข้ามาเป็นเพียงการตอบสนองต่อรายงานข่าวเท่านั้น ยังไม่ใช่การประกาศอย่างเป็นทางการจากการเจรจา" มากิ ซาวาดะ นักกลยุทธ์ในแผนกเนื้อหาการลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในสหรัฐฯ ขณะที่หุ้นกลุ่มยานยนต์และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เน้นการส่งออกปรับตัวสูงขึ้นจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าผลกำไรจากต่างประเทศเมื่อผู้ประกอบการแปลงกลับเป็นสกุลเงินเยน
ขณะเดียวกัน การปรับขึ้นของหุ้นถูกจำกัด เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิทะลุระดับ 35,000 จุด และนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงรอดูผลการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีคลังของทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตันในวันนี้
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันนี้ (24 เม.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 3,297.29 จุด ขยับขึ้น 0.93 จุด หรือ +0.03%
แม้ว่านักลงทุนมีมุมมองบวกหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณผ่อนปรนอัตราภาษีศุลกากรให้กับจีน แต่แรงบวกในตลาดอ่อนตัวลงหลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ไม่มีแผนที่จะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนในการลดภาษีศุลกากร พร้อมกับกล่าวว่า สหรัฐฯ และจีนยังไม่ได้เริ่มต้นการเจรจาการค้าอย่างเป็นทางการร่วมกัน
หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้ ได้แก่ หุ้น BYD Company ลดลง 1.8%, หุ้น Lakala Payment ดิ่งลง 11.9%, หุ้น Eoptolink Technology ปรับตัวลง 1.1%, หุ้น CNPC Capital ร่วงลง 5.2% และหุ้น Luxshare Precision ลดลง 2.4%
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ (24 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 21,909.76 จุด ลดลง 162.86 จุด หรือ -0.74%
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณผ่อนปรนอัตราภาษีศุลกากรให้กับจีน แต่ในขณะเดียวกัน สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ไม่มีแผนที่จะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนในการลดภาษีศุลกากร พร้อมกับกล่าวว่า สหรัฐฯ และจีนยังไม่ได้เริ่มต้นการเจรจาการค้าอย่างเป็นทางการร่วมกัน
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดลบเล็กน้อยในวันนี้ (24 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการเจรจาภาษีระหว่างคณะผู้แทนเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้น ณ กรุงวอชิงตันในช่วงค่ำวันนี้ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดที่ 2,522.33 จุด ลดลง 3.23 จุด หรือ -0.13% ปริมาณการซื้อขายเบาบางที่ 323.69 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 7.22 ล้านล้านวอน (5.03 พันล้านดอลลาร์)
อัน ด็อกกึน รัฐมนตรีการค้าและผู้นำคณะเจรจาของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะมุ่งหาทางออกอย่างเร่งด่วนในประเด็นภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐฯ และเตรียมหารือในประเด็นอื่น ๆ อาทิ การค้า อุตสาหกรรมต่อเรือ และความร่วมมือด้านพลังงาน โดยจะดำเนินการด้วยความสุขุมและรอบคอบ
ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้รับผลกระทบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้หดตัวลงอย่างไม่คาดคิด 0.2% ในไตรมาสแรก เมื่อเทียบรายไตรมาส ท่ามกลางวิกฤตการณ์การเมืองภายในประเทศ และความไม่แน่นอนที่เกิดจากนโยบายภาษีทรัมป์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นกลุ่มหลักที่ฉุดดัชนีให้ลดลง โดยหุ้น Samsung Electronics ปิดทรงตัว ขณะที่หุ้น SK Hynix ร่วงลง 1.49% ขณะที่หุ้นกลุ่มยานยนต์ Hyundai Motor ลดลง 0.58% และ Kia ร่วง 1.33%
หุ้น LG Energy Solution ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ ลดลง 2.15% ส่วนหุ้น POSCO Holdings ผู้นำอุตสาหกรรมเหล็ก ลดลง 1.15%