โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เพื่อคนไทย! “ปตท.” จับ “ธุรกิจยา” มูลค่าแสนล้าน! เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน!

Another View

เผยแพร่ 30 พ.ย. 2561 เวลา 05.00 น.

เพื่อคนไทย! “ปตท.” จับธุรกิจยามูลค่าแสนล้าน! เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน!

BY : TEERAPAT LOHANAN

ปตท. เป็นธุรกิจที่นับได้ว่าประสบความสำเร็จทางด้านการทำกำไรได้อย่างสูง โดยกำไรสุทธิของปตท. นั้นได้เพิ่มมากขึ้นทุกปี เมื่อมองย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันที่มีกำไรทะลุหลักแสนล้านบาทไปแล้ว ซึ่งรายได้ของปตท.นั้น เมื่อจำแนกออกมาก็จะพบว่า 31.68% มาจากน้ำมัน 21.17% มาจากก๊าซ ส่วนรายได้ปั๊มน้ำมัน และผลการดำเนินงานของร้านกาแฟอเมซอนอยู่ที่ 0.30%

[ผลประกอบการ บมจ.ปตท. กําไรสุทธิ]

2014 : 55,794.93 ล้านบาท

2015 : 19,936.42 ล้านบาท

2016 :  94,609,08 ล้านบาท

2017 :  135.179.60 ล้านบาท

2018* : 100.145.70 ล้านบาท

*หมายเหตุ 9 เดือน

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ธุรกิจการค้าน้ำมันนั้นก็ไม่อาจจะเป็นหนทางที่ยั่งยืนได้อยู่ดี เพราะผู้คนได้หันมาใช้พลังงานทางเลือกกันมากขึ้นแล้ว ทางเลือกของปตท.จึงอยู่ที่การเพิ่มรายได้จากธุรกิจ นอนออยล์ ให้มีสัดส่วนเป็น 30-35% จากที่มีสัดส่วน 28-20% ในปีที่ผ่านมา

ปตท.จึงขยายการลงทุน ไปถึงธุรกิจตลาดยาในประเทศไทย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่ามากกว่า 1.44 แสนล้านบาท ปตท.ก็กระโดดเข้ามาร่วมวงเซ็น MOU องค์การเภสัชกรรม ประเดิมพันล้านเป็นทุนวิจัยยากลุ่มมะเร็ง เพื่อปูทางก่อนจะเริ่มสร้างโรงงาน “เขตอีอีซี” เพิ่ม โดยการกระทำดังกล่าวก็จะช่วยเปิดทางให้คนไทยได้เข้าถึงยาที่มีคุณภาพได้มากขึ้นกว่าเดิมและมีราคาที่ถูกลง

โดยทาง “นางศรีวรรณ เอี่ยมรุ่งโรจน์” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บมจ.ปตท. ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ ปตท. สนใจร่วมศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโรงงานผลิตยาร่วมกับองค์การเภสัชฯ ไว้ว่า “สาเหตุที่ ปตท.สนใจร่วมศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโรงงานผลิตยาร่วมกับองค์การเภสัชฯ เพราะเห็นโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ เป็นเมกะเทรนด์ ตามกลยุทธ์ Design Now ของ ปตท. ซึ่งปัจจุบันพบว่า ความต้องการใช้ยาในประเทศเพิ่มขึ้น ผู้สูงอายุมากขึ้น แต่ยาบางชนิดยังไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ ต้องนำเข้า ซึ่ง ปตท. จึงร่วมกับทางองค์การเภสัช เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานผลิตยาในประเทศ ซึ่ง ปตท.มีการผลิตปิโตรเคมี ต่อยอดเป็นอุตสาหกรรมยาในอนาคต”

และทางปตท.เองก็ได้คาดการณ์ไว้ว่า เมื่อโรงงานใหม่ได้ถูกสร้างจนเสร็จแล้ว นอกจากยาจะขายภายในประเทศแล้ว ยังมีแผนที่จะส่งยาออกไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่างประเทศเป็น 10% จากปัจจุบันมีสัดส่วน 2% ปัจจุบันมียอดขายยา 2,778 ล้านบาท (นั่นก็คือเราอาจจะได้เห็นตัวเลขหลักหมื่นล้านจากผลประกอบการทางด้านนี้)

นอกจากนี้เอง ทางปตท.ก็ได้ เตรียมขยายการลงทุนในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นคอมมิวนิตีมอลล์ ร้านอาหาร สถาบันการเงิน ฟิตเนส ธุรกิจกาแฟอเมซอนในปี 2561 มีแผนขยายสาขาในประเทศอีก 300 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 2,000 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 2,900 แห่ง ภายใน 5 ปี รวมถึงการกำลังหาพันธมิตรลงทุนโรงแรมราคาประหยัด บัดเจ็ตโฮเต็ล ตามปั๊มนํ้ามันด้วย

อ้างอิง :

http://www.thansettakij.com/content/252139

https://www.tobepharmacist.com/ข้อมูลข่าวแวดวงเภสัช/ปตท-แย่งตลาดยา/

https://today.line.me/th/pc/article/เราควรดีใจหรือเสียใจกับกำไรแสนล้าน+ของบริษัท+น้ำมัน-xVk0K

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0