คนขับแท็กซี่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เคยไปส่งผู้โดยสารสตรีที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เมื่อส่งแล้วออกมาถึงป้อมยาม ถูกกักไว้ไม่ให้ไป เพราะลูกค้าลืมโทรศัพท์มือถือของเธอในรถ ลูกค้าสาวมาที่รถแท็กซี่ เธอพยายามค้นในรถก็ไม่เจอ และบอกว่าคนขับขโมยไป
เขาปฏิเสธ เธอบอกว่า *“รู้มั้ยว่าโทรศัพท์มีจีพีเอส ขโมยมันไปที่ไหน ฉันก็ตามเจอ” *
เธอขู่จะเรียกตำรวจ คนขับแท็กซี่ก็ยืนยันว่าไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป เขาท้าให้เธอค้นดู เมื่อเธอค้นก็ไม่พบ แต่ก็บอกว่าเขาเอาไป
ในที่สุดเธอขอโทรศัพท์จากยาม โทร.เข้าเครื่องเธอ เธอพูดสายครู่หนึ่ง ก็ยอมปล่อยคนขับแท็กซี่ไป ความจริงปรากฏว่าเธอไม่ได้พกโทรศัพท์มือมาด้วย เธอลืมมันไว้ที่ออฟฟิศ
เธออาจเห็นตัวอย่างคนขับแท็กซี่นิสัยแย่จำนวนมาก และเกิดภาพสรุปในใจว่า คนขับคนนี้ก็ต้องแย่ด้วย
ครั้งหนึ่งมีข่าวว่าคนดังคนหนึ่งชื่อ นาย ก. ทำให้นางสาว ข. ตั้งท้อง และไม่รับผิดชอบเป็นพ่อ ทันใดนั้นทุกคนในสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่านาย ก. เป็นผู้ชายเลว ไม่รับผิดชอบ หน้าตัวเมีย ฯลฯ สรุปเสร็จสรรพว่าเขาเป็นคนเลว ด่าเสร็จก็จบ
ผ่านไปหลายวัน ความเผยออกมาว่า นาย ก. ไม่ใช่พ่อของเด็ก นาย ก. ไม่ได้ทำผิด ผู้คนทึกทักเอาเองด้วยข้อมูลไม่ครบ
นี่แสดงว่าตลอดหลายวันนั้นคนวิพากษ์นาย ก. ด้วยข้อมูลไม่ครบ ด้วยความคิดปรุงแต่งและอารมณ์ล้วนๆ
ความคิดด่วนสรุปแบบนี้เรียกว่า preconceived idea เป็นความคิดที่เกิดจากการทึกทักเอาก่อนที่จะได้คิดจริงๆ
เห็นอะไรแวบๆ ก็สรุปเลยว่าเป็นอย่างนี้อย่างนั้น
ในการใช้ชีวิต preconceived idea อาจทำให้เราขาดสุข เพราะใจไม่นิ่งหรือไม่สะอาด
ในวงการที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง preconceived idea เป็นภูเขาลูกใหญ่ที่ขวางทาง
เป็นภูเขาที่เราสร้างขึ้นมาเอง
…………..
ในวงการออกแบบ ไม่ว่าสถาปัตยกรรม โลโก้ ออกแบบผลิตภัณฑ์ ฯลฯ preconceived idea คือไอเดียที่นักออกแบบปรุงแต่งขึ้นก่อนได้รับข้อมูลครบถ้วน หรือก่อนที่จะเริ่มกระบวนการคิดจริงๆ
ลูกค้าบรีฟสถาปนิกว่าอยากได้บ้านสำหรับสมาชิกในครอบครัวสี่คน สถาปนิกนึกภาพบ้านไม้ผสมกระจกสองชั้นขึ้นมาในหัว และเชื่อว่ามันดีที่สุดแล้ว ภาพนั้นกลายเป็น preconceived idea ที่ทำให้ไม่ว่าเขาจะออกแบบอย่างไร ก็จะได้บ้านไม้ผสมกระจกสองชั้นเสมอ ลบไม่ออกจากหัว
หากสถาปนิกไม่รีบด่วนสรุป ทำงานตามขั้นตอน และคิดหาทางเลือกให้ครบทุกด้าน บางทีบ้านที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวนี้อาจเป็นบ้านใต้ดินชั้นเดียว หรือบ้านสามชั้นทึบหมด
ไอเดียที่ดีที่สุดมาจากการขบคิดอย่างถ้วนถี่รอบด้าน และพิจารณาทุกทางเลือกแล้ว ไม่ใช่มาจากการด่วนสรุป
preconceived idea มักทำให้เสียโอกาสได้รับไอเดียที่ดีกว่าไอเดียแรกจากการปรุงแต่งล่วงหน้า ทั้งการออกแบบ ชีวิต การเลือกคู่ครอง
ออกแบบโลโก้แบบรีบด่วนหรือสร้างบ้านแบบไม่ใช่แบบที่ดีที่สุดก็คงไม่เสียหายนัก แต่บางเรื่องด่วนสรุปอาจไม่ดี
ไปซื้อบ้าน เห็นหลังหนึ่งชอบทันที และตกลงซื้อเลย ไม่ได้ศึกษาทำเลให้ถ่องแท้ เพื่อนบ้านเป็นใคร น้ำท่วมไหม รถในซอยติดมากไหม พอย้ายไปอยู่ไม่นาน ก็อยากขายบ้าน
บางคนเจอหน้ากันก็แต่งงาน มั่นใจมาก สัญชาตญาณบอกว่าใช่คนนี้แน่ๆ แต่งงานได้สามวันก็อยากเลิก
สรุปเร็วไปทั้งนั้น!
เป็นเรื่องปกติที่เมื่อเราได้เห็นได้ยินได้ฟังบางเรื่อง แล้วเกิดความคิดสรุปหรือเกิดไอเดียบางอย่างทันที
ความคิดนั้นมักทำให้ใจท่วมท้นด้วยความรู้สึกว่า มันเป็นไอเดียดีเหลือเกิน แล้วยึดกุมมันไว้แนบแน่น
ความเชื่อบางอย่างล้างออกยาก preconceived idea ก็ล้างยาก ดังนั้นเมื่ออยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็ควรเปิดสมอง เปิดใจ ไม่รีบร้อน มองทุกด้านก่อน จะได้ไม่กลายเป็นความมั่นใจจนเกินไป
ในโลกของการลงทุน การทำธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องมองกว้าง เลี่ยง preconceived idea
ทิ้งพื้นที่ว่างเอาไว้บ้าง
สมองคนเราจะคิดไปได้ไกลกว่าเมื่อมันมีพื้นที่ว่าง
preconceived idea ก็คือน้ำเต็มแก้ว บ่อยครั้งเป็นน้ำขุ่น
ในทางเซนมีคำเปรียบกับถ้วยน้ำ ก่อนสามารถบรรจุความคิดใหม่เข้าไปได้ ต้องเทน้ำเดิมออกก่อน
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำงาน ก่อนที่จะสรุปอะไร ควรพิจารณาข้อมูลให้ครบด้าน และเปิดประตูบานหนึ่งไว้ เผื่อรับความเป็นไปได้อื่นๆ ที่เรามองไม่เห็นทีแรก
ประตูบานนี้สำคัญอย่างยิ่ง
…………..
ในภาพยนตร์เรื่อง World War Z (2013) เรื่องสงครามโลกระหว่างมนุษย์กับซอมบี กองทัพซอมบีรุกยึดเมืองต่างๆ เมืองแล้วเมืองเล่า ยึดเมืองไหนได้ ก็กัดคนให้กลายเป็นซอมบีไปด้วย
ในที่สุดกองทัพซอมบีก็ไปถึงกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล ซึ่งปลอดภัยจากการรุกของซอมบี เหตุผลเพราะอิสราเอลเตรียมพร้อมกว่าประเทศอื่นๆ พวกเขาสร้างกำแพงสูงกั้นไว้ทันเวลา
หัวหน้าสายลับองค์กรมอสสาด (หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล) อธิบายว่า สิบวันก่อนนั้น พวกเขาดักฟังข่าวทางทหารของอินเดีย ข่าวบอกว่ากองทัพอินเดียกำลังต่อสู้กับพวก rakshasa แปลว่า วิญญาณที่ตายแล้ว หมายถึงซอมบี
ทีแรกพวกเขาเชื่อว่าคำว่า rakshasa จะเป็นรหัสอย่างอื่นมากกว่า แต่มีคนคิดว่าสมมุติว่าพวกอินเดียหมายความตรงคำล่ะ
ทำไมพวกอิสราเอลคิดอย่างนั้น?
ก็เพราะพวกเขาปฏิบัติตามกฎคนที่สิบ (The 10th Man Rule)
หลังจากสงครามยม คิปปูร์ (The Yom Kippur War) เมื่ออียิปต์และซีเรียร่วมกันจู่โจมอิสราเอลอย่างคาดไม่ถึงในวันยม คิปปูร์ เมื่อปี 1973 พวกเขาก็ตั้งกฎใหม่กฎหนึ่งขึ้นมา เพื่อป้องกันความผิดพลาดลักษณะนี้ คำถามคือ ทำอย่างไรให้พวกเขาคิดรอบด้านจริงๆ เพื่อไม่ให้มีอะไรหลุดหรือเหนือคาด
เป็นที่มาของ ‘คนที่สิบ’
ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอลมีที่ปรึกษาสิบคน หน้าที่ของคนที่สิบคือคิดแย้ง คิดออกนอกกรอบ
ถ้าหากเก้าคนในคณะเห็นพ้องต้องกันในเรื่องหนึ่งๆ คนที่สิบต้องคิดต่าง และมองนอกกรอบให้ได้ แย้งให้หมด คิดทุกทางเลือก ไม่ว่าจะตลกหรือไร้สาระ และไม่ว่าความคิดนั้นจะบ้าอย่างไร
ในกรณีซอมบี คนที่สิบตีความรหัสจากอินเดียว่าหมายถึงปิศาจร้ายจริงๆ แล้วค้นหาข้อมูลเพิ่ม จนทำให้พวกเขาสร้างกำแพงป้องกันซอมบีทันท่วงที
ไม่ว่าอิสราเอลจะใช้หลักการ ‘คนที่สิบ’ จริงหรือไม่ มันก็เป็นหลักการที่ใช้ได้ในชีวิตจริง
ทิ้งพื้นที่ว่างในหัวเอาไว้บ้าง
เทน้ำเดิมออกก่อน
เปิดประตูหนีซอมบีไว้หนึ่งบานเสมอ
…………..
วินทร์ เลียววาริณ
เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/
มกราคม 2562
ความเห็น 8
เหรียญมีสองด้านคิดว่าน่าจะเป็นสูตรเดียวกัน แต่ก็ดีครับคิดแย้งไว้ก่อน เวลาเกิดอะไรขึ้นมาก็จะได้ไม่ผิดทั้งหมด
19 มี.ค. 2562 เวลา 10.56 น.
ชอบบทความนี้จังค่ะ ความคิดของคนที่ 10 จะจำไว้ฝึกคิดให้รอบด้าน ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ
19 มี.ค. 2562 เวลา 10.41 น.
เห็นมาเยอะละพวกรีบตัดสินใจ ละก็มานั่งช้ำใจเมื่อเจออีกสิ่งที่ดีกว่า
15 ม.ค. 2562 เวลา 09.17 น.
🦋🦋🌚🌚KAI🌝🌝🕊🕊
�ด่วน!!! เปิดรับเจ้าหน้าที่เช็ค
และยืนยันการสั่งซื้อ รายได้ 590-1000 บาท/วัน
ไลน์@:@qug2594y ##บริษัทถูกต้องตามกฎหมาย##
14 ม.ค. 2562 เวลา 12.02 น.
Jirawat.C
ไอ้พวกสมองฝ่อแต่งเรื่องไม่เนียนเลยเสียเวลา
14 ม.ค. 2562 เวลา 11.55 น.
ดูทั้งหมด