"เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 2012 เป็นช่วงที่โรงแรมชื่อดังแห่งนี้ในย่านสาทรเพิ่งเปิดตัว และลูกพี่ลูกน้องที่เราสนิทก็ตัดสินใจไปจองโรงแรมนี้เพื่อจัดงานแต่งงาน
ตอนแรกเราก็รู้กันคร่าว ๆ ว่าพื้นที่ที่โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่มันเป็นพื้นที่เก่า แต่ด้วยความที่โรงแรมก็เพิ่งสร้างเสร็จ ทุกอย่างใหม่เอี่ยมเราก็ไม่ได้คิดอะไร
เจ้าสาวที่เป็นญาติคนสนิทของเราก็ชวนให้ไปนอนค้างที่โรงแรม เพราะกว่างานแต่งงานเสร็จก็ดึกละ แล้วเขาก็ไม่อยากให้เราขับรถกลับบ้านมืด ๆ เราก็โอเค ตกลงว่าจะไปนอนกันซึ่งห้องที่เจ้าสาวเปิดให้เป็นห้องแบบสวีท เลย์เอาต์ของมันคือเปิดประตูหลักเข้าไปจะเจอกับอีก 2 ประตู ประตูทางซ้ายไปห้องนอน และทางขวาไปห้องรับแขก เจ้าบ่าวเจ้าสาวนอนให้ห้องนอนใหญ่ ส่วนเรากับเจ้ ๆ อีก 2 คนก็นอนเตียงเสริมในห้องรับแขกกัน
พิธีก็เริ่มไป พอจบช่วงที่เป็นทางการก็มีปาร์ตี้เล็ก ๆ กว่าเราจะเสร็จงานทุกอย่างแล้วกลับขึ้นมาที่ห้องพักก็เกือบ ๆ เที่ยงคืนได้ แต่ตอนนั้นห้องรับแขกที่ควรจะเป็นห้องนอนของเรายังไม่พร้อม ตัวเราก็ต้องโทรไปเรียกพนักงานโรงแรมให้มาช่วยเซตเตียงเสริมให้ กว่าจะเรียบร้อยก็ตี 1 แล้ว คือดึกมาก ๆ
ด้วยความเหนื่อยเราก็หลับกันไปเรียงกัน 3 คนโดยที่ตัวเราเป็นคนที่นอนอยู่ฝั่งที่ใกล้ประตูห้องมากที่สุด ทั้งคืนก็หลับสนิทมาก ๆ นะ ปิดไฟ ปิดทีวีแล้วสลบไป ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรประหลาดเลยจนประมาณช่วงกลางดึก เราสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงคนกดกริ่งที่หน้าห้อง
“ติ๊งหน่องๆ” กริ่งดังแค่รอบเดียว ตอนนั้นเราก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา ตอนนั้นอารมณ์คือประมาณว่าอะไรวะ ไม่แน่ใจว่ามันคือเสียงโทรศัพท์หรือเสียงนาฬิกาปลุกหรือเสียงกริ่งจริง ๆ ก็มองไปหาญาติอีก 2 คนที่นอนห้องเดียวกัน ตอนนั้นทุกคนหลับปุ๋ยมาก ไม่มีใครโดนปลุกขึ้นมาด้วยเสียงกริ่งเลย เราก็เลยเดินไปที่ประตูของห้องรับแขกเพื่อที่จะเช็กว่าคนที่กดกริ่งคือใคร
สิ่งที่เราเห็นผ่านตาแมวตรงประตูก็คือผู้ชายใส่สูทสีขาว อาจจะเป็นเพราะเราตัวเตี้ยด้วยมั้ง มุมที่เห็นเลยเป็นภาพของผู้ชายใส่สูทยืนรออยู่หน้าตาประตูห้องรับแขก แต่เห็นตั้งแต่ช่วงคอลงไป
เราก็ตัดสินใจอยู่สักพักว่าจะเปิดหรือไม่เปิดดีเพราะตอนนั้นก็แอบดึกแล้วและก็มั่นใจด้วยว่าไม่ได้มีใครโทรเรียกพนักงานหรือรีเควสต์ขออะไร เพราะทั้งห้องก็หลับกันไปหมดแล้ว สุดท้ายเลยเดินไปเรียกเจ้ที่นอนข้าง ๆ เพราะไม่แน่ใจว่ามีอะไรฉุกเฉินหรือเปล่า เจ้ก็หันมาบอกเราให้นอนต่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยโทรลงไปถามรีเซปชั่นว่าเขามีอะไร
เราก็เลยโอเค ล้มตัวลงไปนอนต่อแต่พอหลับตาไปได้สักพัก มันก็คิดขึ้นมาได้ว่า…
“เชี่ยยยย เขาจะเข้ามาได้ยังไง… !!!”
เพราะห้องมันมีประตู 2 ชั้น กว่าจะมาถึงประตูหน้าห้องรับแขกจะต้องมีคีย์การ์ดเพื่อเข้าประตูหลักก่อน
ตอนนั้นเรากับเจ้คนที่ตื่นขึ้นมาก็เริ่มกระตุกละว่ามันแปลก ๆ มองหน้ากันเลิ่กลั่กแต่เราก็พยายามไม่คิดอะไรมาก กลับไปนอนต่อ
วันรุ่งขึ้นเราก็ไปคุยกับห้องฝั่งญาติเจ้าบ่าวว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาก็เล่าให้ฟังว่าห้องเขาหนักกว่าเราอีก ในห้องมีเสียงลมพัดฟิ้ว ๆ อยู่รอบห้องตลอดทั้งคืน เหมือนเวลาที่เราอยู่ข้างนอกแล้วลมเป่าวี้ด ๆๆ แต่ไม่มีใครเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้นะ
ทุกคนก็ไม่ได้อะไร เก็บของและเช็กเอาต์ออกจากโรงแรม คำถามอย่างเดียวที่คาใจเราก็คือผู้ชายสูทสีขาวคือใคร และทุกอย่างก็ถูกเฉลยตอนที่เรากำลังวนรถออกจากโรงแรม
เราขับรถขึ้นมาจากที่จอดรถโรงแรมแล้วผ่านต้นไทรใหญ่ ๆ ที่มีศาลเจ้าตั้งอยู่ ซึ่งตรงนั้นก็มีชุดที่มีคนเอามาถวายแขวนเอาไว้
มีทั้งชุดผู้หญิงกับผู้ชาย ซึ่งชุดผู้ชายอะ….ก็คือสูทสีขาวแบบที่เราเห็นเป๊ะ ชุดนั้นเลย
พอเราโทรไปเล่าให้ญาติ ๆ ฟังทุกคนก็บอกตรงกันว่าน่าจะเป็นเจ้าที่ของที่โรงแรมนั่นแหละที่มาแสดงความยินดีกับบ่าวสาวแต่ดันเข้าห้องผิด
อาจจะเป็นเพราะว่าลูกพี่ลูกน้องของเราเป็นคู่แรกที่มาจัดงานที่นี่ด้วยแหละ เขาเลยมาต้อนรับเป็นพิเศษ
เพียงแค่เรานี่ล่ะที่เป็นคนได้เจอ…"
ติดตามอ่านเรื่องชวนขนหัวลุกตอนใหม่ได้ในคอลัมน์ "พุธนี้ผีดุ" ทุกวันพุธ บน LINE TODAY
ความเห็น 9
OPP
แต่งไม่เนียน แล้วในห้องย่อยข้างในก็ไม่น่ามีตาแมวแล้ว แหม่ ส่วนใหญ่ก็มีตาแมวแค่ห้องข้างนอกสุด
09 ก.ย 2563 เวลา 13.21 น.
ไม่เกี่ยวกับความสูง เตี้ยหรือสูงถ้ามองจากตาแมวก็เห็นเหมือนกันหมด
09 ก.ย 2563 เวลา 06.07 น.
prasart
ผีเข้าห้องผิด55
11 ก.ย 2563 เวลา 01.41 น.
น้านพ น้านพ
มาเว้ยยย เม้นต์แรกเว้ยวันนี้
09 ก.ย 2563 เวลา 04.11 น.
a✅วีร์ ธนู🏹ตุลย์๓๖๕๙
อุปทานไม่ก็ละเมอ
10 ก.ย 2563 เวลา 00.45 น.
ดูทั้งหมด