โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ครึ่งแรกปี 66 ไทยแลนด์เจ็บหนัก! ต่างชาติเทขายหุ้นมากสุดในภูมิภาค

Wealthy Thai

อัพเดต 14 ก.ย 2566 เวลา 15.56 น. • เผยแพร่ 07 ก.ค. 2566 เวลา 01.34 น. • ศุภมาศ ศรีขำ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ (Fund Flow)เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาปัจจัยกดดันจากภายนอกและภายใน ทั้งแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความไม่แน่นอนจากการจัดตั้งรัฐบาลของไทย ฯลฯ กดดันให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกจากตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
วันนี้ Wealthy Thai จึงมีสรุปข้อมูลตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2566 ว่า 9 ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น จะมีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าและไหลออกประเทศไหนมากที่สุด
โดยบทวิเคราะห์ของบริษัท หลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันตลาดหุ้นไทยโดนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไปแล้วกว่า 3,107ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากที่สุดในกลุ่มประเทศภูมิภาค รองลงมาคือ ตลาดหุ้นมาเลเซีย นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 887ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถัดมาคือ ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 467ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ ตลาดหุ้นเวียดนาม ที่โดนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 13ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นญี่ปุ่น มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติรวมทั้งสิ้น 45,533ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นตลาดหุ้นที่มีสถานะเป็นซื้อสุทธิมากที่สุด รองลงมาคือ ตลาดหุ้นไต้หวัน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 11,247ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถัดมาคือ ตลาดหุ้นอินเดีย นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 9,722ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อมาคือ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 7,944ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สุดท้าย ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,090ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การเมืองคลี่คลาย หนุนฟันด์โฟลว์ไหลเข้าหุ้นไทย

อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยจะถูกนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณที่ดูดี อีกทั้งล่าสุดสถานการณ์การเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังเสร็จสิ้นการคัดเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎ โดยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า ปัจจัยการเมืองที่ดูผ่อนคลายขึ้นตามลำดับสร้าง Sentiment เชิงบวก เห็นได้จากเม็ดเงินต่างชาติทยอยไหลเข้าประเทศไทย ทั้งในส่วนของตราสารหนี้และตลาดหุ้น
โดย 5 วันที่ผ่านมา ต่างชาติซื้อสุทธิทั้งหุ้น และตราสารหนี้ไปกว่า 1.1 พันล้านบาท และ 1.4 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ จนทำให้ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 34.87 บาทต่อเหรียญฯ (แข็งค่ากว่า 1% ในช่วงเวลาเดียวกัน) ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีต่างชาติยังคงขายสุทธิทั้งหุ้นและตราสารหนี้ไปกว่า 1.1 แสนล้านบาท และ 7หมื่นล้านบาท ตามลำดับ นั้นแสดงให้เห็นว่ายังมีช่องว่างอีกมาก ให้ต่างชาติสามารถซื้อสุทธิได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...