Maleficent – แม่มด ที่เต็มไปด้วยความเป็นมนุษย์
.
.
.
กี่ปี ๆ เราก็ยังปลื้มปริ่มและอบอุ่นหัวใจกับหนังดิสนีย์ได้อยู่เสมอ
มาลิฟิเซ้นต์ภาคนี้ เป็นภาคต่อของภาคแรก แต่หัวใจหลักของเรื่องยังเหมือนเดิม
คือโชว์ให้เห็นว่า ไม่ว่าใครที่จะดูเป็นตัวร้ายในสายตาคนนอกขนาดไหน
มันมักจะมีอีกมุมหนึ่ง แม้เป็นมุมเล็ก ๆ
ที่ไม่มีใครเคยเห็นเรื่องราวหนัก ๆ ที่เขาคนนั้นผ่านมาก่อน
หลอมรวมทำให้เขาคนนั้น เป็นตัว ‘ร้าย’ ในสายตาของทุกคน
เหมือนกับโจ๊กเกอร์ที่โหดเหี้ยมจิตป่วง
แต่เขาเคยเปราะบางจากความรู้สีกว่าโลกทั้งโลกกำลังทรยศเขา
ส่วนในความเย็นชาเพราะผ่านการสูญเสียความรักของมาลิฟิเซนต์
ก็ยังมีด้านอ่อนโยน นุ่มนวลแสดงให้เห็น
.
.
.
เมื่อได้ยินคำว่า มนุษย์ เราก็ได้แต่นึกถึงความ รัก-โลภ-โกรธ-หลง
เต็มไปด้วย กิเลสและตัณหา วนเวียนสับเปลี่ยนสุดขั้วของอารมณ์ไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่
ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานบอกไว้ว่า
‘มนุษย์’ นั้น หมายถึง สัตว์ที่รู้จักใช้เหตุผล, สัตว์ที่มีจิตใจสูง
คำว่า ‘จิตใจสูง’ ก็ทำให้เราคิดถึงความมีเหตุมีผล ยับยั้งชั่งใจอารมณ์ที่แปรปรวน
กลั่นกรองผ่านตรรกะที่ตัวเองมีอยู่ในสมองได้
มีความสามารถที่จะเป็น ‘คนดี’ ได้
.
.
.
สิ่งที่ชโลมใจเราจากหนังเรื่องนี้
คือหลายฉากที่เห็นมาลิฟิเซนต์ใจเย็นลง
ยับยั้งการกระทำฉุนเฉียวได้ทัน
ละมุนขึ้น
ก็เป็นเพราะ ‘ความรักอันบริสุทธิ์’ ที่ออโรร่ามอบให้แก่เธอนั่นเอง
‘สิ่งที่เยียวยาจิตใจมนุษย์ได้ดีที่สุด
บางครั้ง แรกเริ่มอาจไม่ได้มาจากตัวเอง
แต่เป็นความรักจากคนอื่นที่ได้รับมาต่างหาก’
.
.
.
‘คนเรา ให้ความหมายชีวิตของตัวเอง จากการตีความผ่านความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้อื่น’
อาจารย์ที่ปรึกษาเราเคยพูดไว้แบบนั้น
สายใยที่เราสร้างต่อคนรอบตัว
ในที่สุดล้วนจะค่อย ๆ สะท้อนการเป็นตัวตนของเราให้ชัดขึ้นเรื่อย ๆ
‘เพราะมนุษย์ เกิดมาเป็นสัตว์สังคม’
มีการศึกษาพบว่า
ในสมองของมนุษย์นั้น มีเซลล์ประสาทที่ชื่อว่า "นีโอคอร์เท็กซ์" ที่กินพื้นที่เยอะที่สุดในสมองของเรา และรับผิดชอบต่อหน้าที่สำคัญหลายอย่างในชีวิตเรา เน้นที่การใช้งานระดับสูงอย่างพวกภาษา, ระบบสั่งงานต่าง ๆ ในชีวิต, ประสาทสัมผัสทั้ง 5, การให้เหตุผล การเข้าใจปัญหา และระบบสามัญสำนึกและสติ
ที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น มันยังทำให้เรามีความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ และความสามารถที่จะรู้สึกตามได้ว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกยังไง จะเห็นได้ว่า ทั้งหมดนั้นคือทักษะการเข้าสังคมล้วน ๆ
เจ้านีโอคอร์เท็กซ์ของมนุษย์นี้ ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า มีขนาดใหญ่บิ้กบึ้มกว่ามาก เมื่อเทียบกับสัตว์อื่น ๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกันกับมนุษย์
นั่นก็หมายความว่า ในทางกายภาพนั้น มนุษย์ถูกลิขิตมาให้มีมนุษยสัมพันธ์ต่อคนรอบข้าง
‘มนุษย์ ต้องผูกสัมพันธ์กับคนอื่นนะ เพื่อความอยู่รอด’
อาจารย์กล่าว
.
.
.
พลังแห่งการอยู่เพื่อคนอื่นนี่มหัศจรรย์นะ
หลายครั้ง ที่คนไข้อาการดีขึ้นได้
เพราะมีแรงสู้จากนักบำบัด ที่เชื่อมั่นในตัวเขา
เด็กกำพร้าที่เคยถูกทำร้ายกลายเป็นเด็กก้าวร้าว
อ่อนโยนขึ้นมาได้ เพราะมีพ่อแม่ใหม่ที่คอยเลี้ยงดูและทะนุถนอมเขา
ป้าคนหนึ่งที่กำลังจะกระโดดสะพาน
ล้มเลิกความคิดนั้นได้ เพราะมีคนแปลกหน้าหนึ่งคน ให้เวลา-รับฟัง-อยู่เป็นเพื่อนเขา
หรือแม้กระทั่งใครสักคนที่หมดหวังแล้วจากความรัก
ก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาใหม่ได้ เมื่อเจอใครสักคนที่ห่วงใย-มอบความจริงใจให้
.
.
.
เมื่อไรที่ ‘ความรัก’ ของเราถูกส่งออกไป
เมื่อนั้นอะไรที่ ‘ยิ่งใหญ่’ มักเกิดขึ้นได้เสมอ
ติดตามบทความจากเพจ Beautiful Madness by Mafuang ได้บน LINE TODAY ทุกวันอังคาร
ความเห็น 2
เห็นด้วยกับในบทความนี้ครับ เพราะว่าในการที่มีสติก็ย่อมสามารถที่จะช่วยทำให้เกิดความคิด และพิจรณาได้ถึงในสิ่งที่ถูกต้องเสมอครับ.
05 พ.ย. 2562 เวลา 10.28 น.
ดูทั้งหมด