ความเหงาไม่ได้หมายถึงความโดดเดี่ยวเดียวดายเพียงอย่างเดียว แต่มันคือความเศร้าสร้อยจากความแตกต่างระหว่างความสัมพันธ์ ทางสังคม ที่ต้องการกับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่จริง
นี่เป็นนิยามความเหงาซึ่งทางนศ.ปริญญาโท ของวิทยาลัยการจัดการ ม.มหิดล เป็นคนทำวิจัยและจัดเสวนา
ได้ไปฟังและร่วมเสวนาจึงเก็บความรู้ติดมือมาฝาก
ความเหงาอาจเป็นสาเหตุนำไปสู่ โรคหัวใจ โรคซึมเศร้าและการใช้ยาเสพติด
หากแยะแยะระดับของความเหงา อาจจะมีอัตราส่วนแตกต่างกัน
แบบพวกแอบเหงา เหงาจนชิน และเหงาจับใจ
ปล่อยไปอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้
โอกาสเหงาก็อย่างเช่น วัยรุ่นที่เพื่อนสนิทเกิดมีแฟนขึ้นมา จึงรู้สึกเหมือนโดนเท
คนโสดที่ปรารถนาคู่ครอง หรือไม่โสดแต่ดันเหงา เพราะคู่ของเรามัวแต่เล่นมือถือ
วัยสูงอายุที่เกษียณแล้ว เป็นส.ว.แบบไม่มีประโยชน์
คนที่หย่าร้าง รู้สึกว่าชีวิตกำลังไปได้สวย จู่ๆทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ไม่เหลืออะไรเลย
รู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง หดหู่ตกตำ่ถึงขีดสุด ทำให้ยอมรับความเจ็บปวดไม่ได้
วิธีแก้เหงาที่นิยมกัน จากงานวิจัย
คือ ไปชอปปิง แม้ไม่ได้ซื้อก็คลายเหงา
ออกไปกินอาหาร หรือนั่งตามร้านกาแฟ ฟินทั้งอาหารปากและอาหารตา ย้ายที่อ่านหนังสือ แทนที่จะอ่านอยู่บ้าน ไปอ่านตามร้าน เหมือนมีคนอยู่ด้วยรอบข้าง เพลินๆอ่านหนังสือบ้าง ส่องผู้ชาย ไปด้วย
และที่มาแรงคือ การใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อหาดูอะไรแปลกๆ มีประเด็นไว้พูดคุยกับเพื่อน สามารถแบ่งย่อยๆ ได้อีกว่า
เป็นสายโพสต์ สายเมาท์ หรือ สายส่อง
ในมุมมองของนักการตลาด
ความเหงาก็เท่ากับโอกาสในการทำการค้า
เนื่องจากรู้ว่า คนเหงาต้องการอะไรบางอย่าง
ซึ่งก็คือคนที่เข้าใจ คนพูดคุยปรึกษาหารือได้
และต้องการทำลายความรู้สึกว่าไม่อยากอยู่คนเดียว
จึงเกิดโอกาสทางธุรกิจ
ตัวอย่างเช่นมีคุณลุงไว้ให้เช่า เพื่อพูดคุยสนทนา ระบายความในใจ
มีเด็กวัยรุ่นไว้ให้จ้างมาดูแล ผู้สูงวัย ในการสอนใช้เครื่องไม้เครื่องมืออันเป็นวิทยาการทันสมัย
เริ่มมีการผลิตหุ่นยนต์แมว ออกแบบมาเพื่อคนอยู่คนเดียว โดยแมวตัวนี้จะมีโปรแกรมคอยช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุฉุกเฉินได้ด้วย
การเกิดขึ้นของ ร้านบอร์ดเกม ซึ่งเป็นแหล่งรวมคนชอบเล่นเกม เกิดวงดนตรีอย่างBNK48 ซึ่งทำให้ไอดอลเป็นหญิงสาวที่เข้าใกล้ชิดได้ จับมือได้ ถ้ายอมเสียสตังค์
การทำที่พักอาศัย ในแบบซึ่งมีพื้นที่ช่วยลดทอนความเหงา จัดให้มีพื้นที่ซึ่งใช้ร่วมกันเช่นซักผ้า หรือเอาครัวมารวมกัน แทนที่จะแยกห้องใครห้องมัน
ในวงเสวนาได้เจอกับเจ้าของคาเฟ่หมา และคุณหมอที่ทำแอปเพื่อให้คนได้พบกับนักจิตวิทยา แทนที่จะต้องไปเข้าคิวรอที่โรงพยาบาล
จากข้อมูลที่ได้มา เมื่อนำมาต่อยอด
หากคิดจะทำโรงเรียนกวดวิชา ก็ควรจะออกแบบพื้นที่ ไว้รองรับ ความต้องการ ที่ได้มาพบปะเพื่อนต่างสถาบัน เพราะน่าจะมีนักเรียนซึ่งอาจจะเอาการกวดวิชาเป็นเรื่องรอง แต่มาเพื่อมองสาวเป็นเรื่องหลัก หรือพื้นที่ผ่อนคลายลดทอนความเหงาของวัยรุ่น
อาจส่งผลให้โรงเรียนนั้นได้รับความนิยมขึ้น หรือจัดให้มีห้องสำหรับบอร์ดเกม เพื่อให้ผู้มาเรียนได้แลกเปลี่ยนสติปัญญาและอารมณ์กันด้วย
นึกต่อถึงร้านอาหาร ที่อาจจะมีบางวัน เช่นวันศุกร์อาจจะเป็นวันสุข คือรับเฉพาะคนที่มีคู่ ส่วนวันเสาร์อาจจะเป็นวันเหงา คือเปิดรับเฉพาะคนที่มาลำพัง และอาจจะต่อยอดไปเป็น วันอาทิตย์รับเฉพาะเด็กๆที่อายุไม่เกินกี่ขวบ โดยให้พ่อแม่นำมาทิ้งไว้ สักสองชั่วโมง เพื่อทำอาหารทาน และล้างจานเอง เป็นต้น
คิดไปคิดมาก็อดจะวกไปลงตรง เรื่องหมอนข้าง ซึ่งทางโรงแรมน่าจะมีให้กอดแก้เหงา ห้องละใบจะยากอะไรนักหนา
คิดอยากเปลี่ยนร้านกาแฟให้เป็นลานกาแฟ คือไม่ต้องมีโต๊ะแยก จัดโต๊ะรวมกันไปเลย อยู่ตรงกลางห้างสรรพสินค้า เห็นที่ญี่ปุ่นทำ แล้วน่าสนใจ น่าจะเอามาทำที่เมืองไทยดูบ้าง
คิดไปคิดมา ก็นึกขึ้นมาได้ว่า จริงๆแล้วแอบมีนักการตลาดที่แฝงฝังตัวอยู่ในสังคมไทยตั้งนานแล้ว แต่เราอาจจะลืมคิดไปว่า
แหล่งที่เข้าใจจิตวิทยา หาหนทางคลายเหงาซึ่งพยายามผลักดันและนำคนไปรวมกันได้มากมาย คือวัดนั่นเอง
วัดซึ่งคนจำนวนไม่น้อย เข้าไปเพื่อเสาะแสวงหาอะไรบางอย่าง
หนึ่งในนั้นคือการลดทอนความเหงา ด้วยการทำบุญ การเสียสละทรัพย์สิน ทำให้เกิดความสบายใจ
หรือแม้แต่การไปปฏิบัติธรรม ได้ละวางตัวตน ได้เห็นอารมณ์ความรู้สึกของตน
หลายคนได้เปลี่ยนความเหงาเป็นความสงบ และพบธรรม
ความเห็น 1
ริน🅡🅘🅝🌈
ถ้ามีหมอนข้างในโรงแรมจริงๆ ก็คงไม่กล้ากอด เพราะไม่รู้ว่าคนนอนก่อนหน้านอนน้ำลายยืดใส่หมอนหรือเปล่า
22 พ.ค. 2562 เวลา 12.55 น.
ดูทั้งหมด