โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

SET จับมือ "KBTG" พัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล คาดเริ่มใช้ปี 64

Wealthy Thai

อัพเดต 08 ส.ค. 2566 เวลา 23.16 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. 2564 เวลา 15.34 น.

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดโลกการเงินสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ จับมือกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทย คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในปี 2564

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าสู่การเป็นตลาดทุนดิจิทัลเต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้งบริษัท ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จำกัด ภายใต้กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ขับเคลื่อนการพัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การเชื่อมต่อกับระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในตลาดแรก (Initial Coin Offering Portal หรือ ICO Portal) ทุกรายที่มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนและผู้ระดมทุน การซื้อขายเปลี่ยนมือในตลาดรอง คือ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) รวมไปถึงการให้บริการกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Wallet) เก็บรักษาโทเคนดิจิทัล เพิ่มช่องทางใหม่สำหรับผู้ต้องการระดมทุน อีกทั้งยังสร้างโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก หลังจากพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต. มีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2561

ภากร ปีตธวัชชัย

“ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ KBTG ออกแบบแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นสถาปัตยกรรมแบบเปิด (Open Architecture) โดยผู้ประกอบการทุกรายสามารถเข้าใช้งานร่วมกันได้อย่างเป็นธรรม โปร่งใส และมีกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับและปฏิบัติตาม นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนจับมือกับพันธมิตรรายอื่นเพิ่มเติม เพื่อร่วมมือกันเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนการพัฒนา ecosystem ของสินทรัพย์ดิจิทัลร่วมกัน ทั้งนี้ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทยจะเป็นผู้ให้บริการ ICO Portal รายแรกที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพัฒนาขึ้นนี้ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการประเมินความเป็นไปได้และวิเคราะห์ประโยชน์ที่จะได้รับ เพื่อเตรียมความพร้อมในการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยตั้งเป้าหมายให้เกิดการระดมทุนโทเคนดิจิทัลบนแพลตฟอร์มนี้ในปี พ.ศ. 2564 การสร้างแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลนี้เป็นหนึ่งในโครงการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ตอบสนองนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบดิจิทัลของภาคทางการ ตลอดจนความต้องการของผู้ระดมทุนและผู้ลงทุน ในอนาคตแพลตฟอร์มนี้จะเชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนดิจิทัลตอบสนองวิสัยทัศน์และนโยบายของสำนักงาน ก.ล.ต.” นายภากรกล่าว

นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่าความร่วมมือ KBTG กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการพัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรด้วยเทคโนโลยี DLTครั้งนี้ เกิดจากวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันในการเพิ่มช่องทางการลงทุนในผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มใหม่ ที่เพิ่มโอกาสให้แก่ธุรกิจในการระดมทุน และเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนที่มองหาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่แตกต่าง มีรูปแบบผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่หลากหลาย เพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินในปัจจุบัน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารกสิกรไทยที่มุ่งเน้นการให้บริการที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและบริหารจัดการความมั่งคั่งของตนเองได้อย่างเท่าเทียม (Democratized Savings and Investment)

เรืองโรจน์ พูนผล

“KBTG มีประสบการณ์เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทผู้ริเริ่มพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบหนังสือค้ำประกันบนเทคโนโลยี Blockchain (E-LG on Blockchain) ร่วมกับบริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งนับว่าเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการใช้งานจริงเป็นลำดับแรกๆ ของประเทศ ดังนั้น ในการพัฒนาครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์และ KBTG จึงตั้งเป้าหมายที่จะทำให้กลายเป็นแพลตฟอร์มกลางที่จะช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ภาคธุรกิจไทย ช่วยให้ธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ และคาดว่าแพลตฟอร์มจะเป็นตลาดที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าตลาดเพื่อการลงทุนในปัจจุบัน ด้วยการออกแบบหน่วยลงทุนที่มีการผสมผสานระหว่างหุ้น หุ้นกู้ และกองทุน ที่สามารถให้สิทธิประโยชน์อื่นแก่ผู้ลงทุน ที่นอกเหนือจากผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินได้ ทำให้การลงทุนในโทเคนที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน (Asset-Backed Token) กับ ICO Portal มีความน่าสนใจอย่างมาก และเชื่อว่าการร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของโลกการระดมทุนและการลงทุนในประเทศของเราภายใน 2-3 ปีข้างหน้า”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...