ชื่อของ "เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน" อาจเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของมหาเศรษฐีชาวอเมริกันหลักพันล้าน เป็นนักการเงินและนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จ หรือในฐานะของผู้ทรงอิทธิพลที่แวดล้อมไปด้วยเพื่อนฝูงระดับผู้นำประเทศ รวมไปถึงดาราเซเลบริตี้เบอร์ใหญ่ ๆ แต่ข่าวช็อกโลกก็เกิดขึ้นในปี 2008 เมื่อศาลในรัฐฟลอริดาตัดสินจำคุกเอ็พสตีนในข้อหาล่วงกันและบังคับขู่เข็ญเด็กสาวที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีให้มีเพศสัมพันธ์กับตน และที่รุนแรงไปกว่านั้นคือเขาถูกเปิดโปงว่าเป็นต้นสายของเครือข่ายค้าประเวณีเด็กสาวที่ตำรวจกำลังสืบสาวกันอยู่ด้วย โลกจึงได้รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังในมุมมืดของมหาเศรษฐีคนนี้ ในฐานะชายผู้มีรสนิยมทางเพศสุดวิตถารและนักค้ากามข้ามชาติ
ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับคดีสะเทือนโลกของ "เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน" กัน
ความรวยที่สร้างขึ้นเอง
หากเล่าย้อนไปถึงประวัติของเจฟฟรีย์แล้ว เขาเกิดในครอบครัวชาวยิวที่มีฐานะธรรมดา แม่ทำงานในโรงเรียน เป็นผู้ช่วยในการเรียนสำหรับเด็ก ๆ พิเศษ ส่วนพ่อเป็นคนสวน แต่เจฟฟรีย์เชื่อว่าชะตาของเขาไม่ได้ถูกลิขิตโดยพื้นฐานครอบครัว เขาพยายามถีบตัวเองเรียนด้าน Mathematical Science (วิทยาศาสตร์แห่งคณิตศาสตร์) และดันตัวเองสู่อาชีพสายการเงิน
ถึงแม้เจฟฟรีย์จะเรียนไม่จบ และไม่มีวุฒิการศึกษาที่ทำให้เขาสามารถเติบโตในสายงานนี้อย่างสบาย เขาก็แก้ปัญหาโดยการปลอมแปลงเอกสารบางอย่างและเข้าหาผู้มีอำนาจโดยใช้เสน่ห์และความเฉลียวฉลาดของเขาเป็นตัวล่อ ลูกค้าของเขามีตั้งแต่เจ้าของบริษัทการเงิน ดารานักแสดง ไปจนถึงเศรษฐีชาวซาอุฯ ที่ค้าอาวุธระหว่างประเทศ หรือแม้กระทั่ง เลสลีย์ เว็กซ์เนอร์ เจ้าของแบรนด์ชุดชั้นในสตรี Victoria's Secret ความสำเร็จของเจฟฟรีย์ทำให้เขาก่อตั้งบริษัทของตัวเองได้ รู้จักกับคนรวยและผู้ทรงอิทธิพลจำนวนมาก และทำให้ค่าตัวของเขาพุ่งสูงขึ้นไปแตะหลักพันล้านในวัย 30 ปลาย ๆ เท่านั้น ถึงแม้จะต้องแลกด้วยการฉ้อโกงในหลาย ๆ เคส แต่เจฟฟรีย์ก็ดิ้นหลุดจากความผิดไปได้อย่างสบาย ๆ ทุกครั้ง
การเปิดโปงคดีครั้งแรก
ในเดือนมีนาคม 2005 ตำรวจเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา รับแจ้งความจากหญิงคนหนึ่งว่าลูกสาววัย 14 ปีของเธอถูกหลอกไปยังคฤหาสน์ของ เจฟฟรี เอ็พสตีน โดยสาวรุ่นพี่ เธอได้รับเงิน 300 ดออลาร์ (ประมาณ 8,900 บาท) จากเขา แลกกับการให้บริการนวดแบบเปลือยกาย โชคดีสองอย่างคือ หนึ่ง เด็กหญิงคนนั้นหนีออกจากคฤหาสน์ก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อของเจฟฟรีย์ก่อนได้ และ สอง การแจ้งความในครั้งนี้ทำให้เรื่องคาวของเขาเริ่มโชยกลิ่นออกมา
การทำงานของตำรวจที่ปาล์มบีชเริ่มต้นขึ้นและพวกเขาใช้เวลามากถึง 13 เดือนในการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมแต่ก็ไม่ได้ทำให้คดีคืบหน้า เพราะมีคนข้างในที่น่าจะได้รับเงินจากเจฟฟรีย์และคอยขัดขวางการสืบสวน พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือจาก FBI ในการทำคดี
"เหยื่อที่มีอายุน้อยที่สุดคือ 14 ส่วนมาก อายุ 16"
จากการเข้าค้นคฤหาสน์หลังดังกล่าว ตำรวจพบกล้องตัวจิ๋วที่ถูกซ่อนเอาไว้ตามมุมต่าง ๆ ในบ้าน มีภาพโป๊ของเด็กสาวอยู่อีกมากมาย รวมไปถึงหนังสือที่เจฟฟรีย์สั่งซื้อจาก Amazon เกี่ยวกับการค้าแรงงานทางเพศด้วย
ณ ตอนนั้นมีเด็กสาวทั้งหมด 5 คนที่เข้าให้การกับตำรวจ อายุน้อยที่สุดคือ 14 อายุเฉลี่ยคือ 16 และพยานหลักฐานอีกกว่า 17 ชีวิต ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าเหยื่อทุกคนจะถูกแนะนำมาที่คฤหาสน์โดยเด็กสาว ถูกล่อด้วยเงิน และเมื่อมาถึงเจฟฟรีย์จะให้เงินก้อนใหญ่กับพวกเธอเพื่อแลกกับการเปลื้องผ้าแล้วนวด พยานคนหนึ่งบอกว่าเขาทำแบบนี้ถึง 3 ครั้งต่อวัน และคนที่สมรู้ร่วมคิดในแผนการทั้งหมดก็คือ 'กีแลง แม็กซ์เวลล์' คนรู้ใจของเจฟฟรีย์
เงินและอำนาจ ให้อิสระและอภิสิทธิ์ขั้นสูงสุดกับเจฟฟรีย์
ถึงแม้จะมีหลักฐานมัดตัวอย่างแน่นหนา แต่ด้วยความรวยและอิทธิพลของเขา เจฟฟรีย์ได้รับการช่วยเหลือจากคนในกระบวนการยุติธรรมเสมอ หน่ึงในนั้นคือ 'อเล็กแซนเดอร์ อะคอสตา' เลขานุการกระทรวงแรงงานในรัฐบาลของทรัมป์ที่ช่วยให้เขาออกร่างสัญญา Non-Prosecution Agreement ทำให้เจฟฟรีย์ปลอดภัยจากการโดนฟ้องทุกกรณี และถึงแม้ในปี 2008 เขาจะถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกนาน 18 เดือน เจฟฟรีย์ก็ได้รับการยกเว้น เปลี่ยนโทษจากการขังเรือนจำเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของเขาแทน และได้รับ Work Release อนุโลมให้เขาเดินทางไปไหนมาไหนเพื่อทำงานได้วันละ 12 ชั่วโมง 6 วันต่ออาทิตย์
เขาได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่ 'รับโทษ' เพียงแค่ 13 เดือน ด้วยเหตุผลที่ว่าเจฟฟรีย์ไม่ใช่บุคคลอันตรายที่สร้างภัยต่อสังคมอีกต่อไป เงินและอำนาจซื้ออิสรภาพให้เขาได้จริง ๆ
จำนวนเหยื่อที่ค่อย ๆ ปรากฏตัวเพิ่มขึ้น สู่การจองจำ เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน
ระหว่างปี 2008 ถึง 2019 ตำรวจได้รับแจ้งความจากผู้หญิงจำนวนมากที่บอกว่าเธอเคยตกเป็นเหยื่อของเจฟฟรีย์ เอ็พสตีน ทุกคนใช้นามแฝงว่า "เจน โด" ซึ่งข้อหาที่พวกเธอฟ้องร้องเหมือน ๆ กันก็คือคดีอาชญากรรมทางเพศที่เจฟฟรีย์เคยกระทำเอาไว้เมื่อครั้งที่หญิงสาวเหล่านี้ยังเป็นเด็กสาว บางคนบอกว่าเธอถูกหลอกให้ไปนวดที่บ้านเขา แต่ที่เป็นเรื่องใหม่และทำให้ตำรวจเริ่มทำงานสืบสาวคดีนี้อีกครั้งก็คือ "พวกเธอถูกขายไปยังประเทศอื่น ๆ ด้วย"
ตำรวจค้นเจอภาพโป๊ของเด็กสาวจำนวนมากพร้อมใบประวัติคร่าว ๆ ของพวกเธอที่บ้านในแมนแฮตตันของเจฟฟรีย์ เหยื่อที่มาปรากฏตัวเพื่อฟ้องร้องยืนยันว่ามีรูปของพวกเธออยู่ในกรุนี้ และจากคำให้การทั้งหมดก็สรุปได้ว่าแหล่งรายได้ของเจฟฟรีย์มาจากการส่งเด็กพวกนี้ไป 'ทำงาน' ให้กับเพื่อน ๆ ผู้มีรสนิยมหลงใหลในความอ่อนเยาว์เหมือนกับเขา รายชื่อลูกค้าของเจฟฟรีย์มีตั้งแต่เพื่อนนักแสดง เศรษฐีในซาอุดิอารเบีย ฝรั่งเศส เม็กซิโก ไปจนถึง บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีของอเมริกา และ เจ้าชายแอนดรูว์ แห่งราชวงศ์อังกฤษ
เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน ถูกตัดสินจำคุกในข้อหาค้ามนุษย์และค้าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีในวันที่ 8 กรกฎาคม 2019 เขาพยายามยื่นข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อแลกกับการประกันตัวแต่ศาลไม่ยอมรับข้อเสนอเหล่านั้น แต่ภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือนในเรือนจำ เขาก็เลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง โดยเจ้าหน้าที่พบร่างไร้สติของเจฟฟรีย์กองอยู่บนพื้นห้องขัง เขาพยายามที่จะผูกคอตายและหมอก็ช่วยชีวิตเขาไว้ไม่ทัน..
ปิดตำนาน "เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน" ในวัย 66 ปี กับคดีความที่ยังคงดำเนินต่อไปหลังการเสียชีวิตของเขา..
อ้างอิง
ความเห็น 42
ชัย
BEST
ในประเทศอย่างเมกาก็มี มีเงินก็อาจรอดหรือลดโทษจากความผิดได้เหมือนกัน #เงินมีอำนาจในเกือบทุกที่
10 ก.พ. 2564 เวลา 05.25 น.
Aris
BEST
คนที่เป็นผู้ร่วมกระทำ ก็มีแต่ขาใหญ่ๆ มีอิทธิพลทั้งนั้น กฎหมายแข็งแค่ไหน ก็แพ้อำนาจเงินอยู่ดี คนตายก็เลยต้องรับผิดไปคนเดียว
10 ก.พ. 2564 เวลา 04.35 น.
jaanjaa
BEST
ตายปลอมรึเปล่า..
10 ก.พ. 2564 เวลา 05.28 น.
สรรค์บางชัน
อเมริกาก็ไม่ต่างจากประเทศอื่น คนอเมริกามองแต่ประเทศอื่นไม่ดี ไม่มีเสรีภาพ แต่ประเทศตนเองก็เน่าเหมือนกันเพียงแต่ทำเป็นมองไม่เห็น คำว่าคนมันไม่ต่างกัน ไม่ว่าจนหรือรวย มันต้องเข้าข้างตัวเอง
10 ก.พ. 2564 เวลา 08.06 น.
เอKTB
สังคมเสื่อมขึ้นทุกวันเพราะเงิน
10 ก.พ. 2564 เวลา 06.14 น.
ดูทั้งหมด