ในบรรดาคดีฆาตกรรมและอาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งมวลในโลกใบนี้ นอกจากวิธีการก่อเหตุที่น่าสยดสยองในหลาย ๆ คดีแล้ว สิ่งที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าในเคสจำนวนไม่น้อยก็คือเจตนาในการฆ่าที่ในบางครั้งถูกจูงใจด้วยผลประโยชน์ ในบางครั้งอาจมีความเกลียดชังมาช่วยเติมเชื้อเพลิง หรือในบางคดีก็มีเพียงแค่ 'ศักดิ์ศรี' ที่เป็นต้นเหตุให้ใครสักคนลงมือ 'ฆ่า'
Honor Killing หรือการฆ่าเพื่อรักษาเกียรติยศ คือสิ่งที่ผู้เขียนอยากยกมาเล่าถึงใน 'พุธนี้คดีสยอง' ประจำสัปดาห์นี้ เหตุการณ์ประเภทนี้มักเกิดขึ้นในประเทศฝั่งตะวันออกกลางในที่ ๆ มีความเชื่อว่าลูกผู้หญิงคือสมบัติของครอบครัวและบทบาทผู้หญิงในสังคมยังอยู่ในตำแหน่งที่เป็นช้างเท้าหลัง เกียรติของครอบครัวจึงเป็นการที่ 'ลูกผู้หญิง' อยู่ในครรลองคลองธรรม ซึ่งนั่นหมายถึงการรักษาพรหมจรรย์เป็นหลัก หากลูกสาวบ้านไหนละเมิดกฎข้อนี้โดยการแสดงออกทางเพศอย่างเปิดเผย การชิงสุกก่อนห่าม หรือแม้แต่ขัดขืนการคลุมถุงชน ผู้ปกครองสามารถ 'ฆ่า' พวกเธอเพื่อนรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูลได้ และที่น่าหดหู่ใจยิ่งกว่าก็คือการฆ่าแบบ Honor Killing นี้มักถูกมองภายในวงสังคมเล็ก ๆ นั้นว่าเป็นสิ่งที่สมควรทำ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ในเมื่อเจตนาของฆาตกรคือการรักษาชื่อเสียงของครอบครัว นั่นคือการกระทำที่เสียสละและเป็นสิ่งที่คนในครอบครัวต้องรับผิดชอบ
เธอถูกฆ่าเพราะคบหากับคนที่ทางบ้านไม่เห็นด้วย
กรณีแบบนี้เกิดขึ้นอย่างนับครั้งไม่ถ้วน ยกตัวอย่างเช่น เคสของ "เนฮา ชารัด เชาดูรี" สาวชาวอินเดียที่เสียชีวิตลงในวันเกิดครบรอบอายุ 18 ปีของเธอ หลังจากที่เชาดูรีออกไปฉลองกับแฟนหนุ่ม ผู้ต้องหาคือพ่อ แม่ และญาติชายอีกคน โดยพวกเขาสังหารเธอในบ้านตัวเอง
อีกหนึ่งคดีที่ทำให้ชาวเนตโกรธแค้นมาก ๆ มาจากประเทศจอร์แดน มีวีดีโอลับที่หลุดออกมาและกระจายอยู่ในโซเชียลมีเดีย ในคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ตั้งแต่ช่วงคอของเธอมีเลือดไหลลงมาเป็นทางและตัวเธอก็กรีดร้องขอความช่วยเหลือจากแม่และคนในบ้าน คนที่เดินตามหลังคือพ่อบังเกิดเกล้าของหญิงสาว ในมือของเขาถือแท่งคอนกรีตท่อนใหญ่ พ่อเอาแท่งคอนกรีตนั้นทุบไปที่กะโหลกของเธอและหญิงสาวก็เสียชีวิตในทันที เขานั่งสูบบุหรี่และจิบน้ำชาด้วยมือเปื้อนเลือดข้างศพ รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับ
ภายหลังพ่อของอาห์ลัม เหยื่อในคดีนี้ ให้สารภาพว่าเหตุที่เขาต้องฆ่าลูกสาวของตัวเองเป็นเพราะเธอหย่ากับสามีแล้วกลับมาอยู่ที่บ้านซึ่งนำความอับอายมาให้กับครอบครัว แต่ความจริงแล้วเหตุผลที่อาห์ลัมต้องย้ายกลับมาเป็นเพราะว่าเธอถูกสามีทำร้ายทั้งกายและวาจาจนเจ้าตัวสุดจะทน และเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือไปจากการพึ่งครอบครัวที่เธอไว้ใจที่สุด
เด็กสาวชาวตุรกี ถูกฝังทั้งเป็นเพียงเพราะเธอคุยกับเด็กผู้ชาย
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม 2009 ในจังหวัดอาดิยามัน ประเทศตุรกี เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพของเด็กสาวอายุ 16 ปี ถูกฝังอยู่บริเวณใกล้ ๆ เล้าไก่ภายในรั้วบ้านของเธอ ที่น่าประหลาดคือเด็กสาวเสียชีวิตในท่านั่ง เธอถูกมัดมือ มัดขาเอาไว้ และหลุมที่ใช้ฝังเธอก็มีความลึกถึง 2 เมตร
จากการผ่าชันสูตร แพทย์พบว่าเธอเสียชีวิตจากอาการขาดอากาศหายใจ มีฝุ่นดินอยู่ในปอดและกระเพาะ ส่วนคนร้ายในคดีนี้ก็คือพ่อและปู่แท้ ๆ ของเธอเอง พวกเขาสารภาพว่าสาเหตุที่จูงใจให้ลงมือฆ่าเป็นเพราะว่าเด็กสาวไปคุยกับเพื่อนผู้ชายและมีท่าทีที่จะพัฒนาความสัมพันธ์เกินเพื่อน เธอเป็นหลานสาวและลูกสาวคนเดียวในบรรดา 9 พี่น้อง และการกระทำเช่นนี้หยามศักดิ์ศรีของครอบครัวมาก พวกเขาจึงเลือกตัดปัญหาด้วยการจบชีวิตของเธอซะ
ถึงแม้คดีต่าง ๆ จะกระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวทั่วโลกที่มุ่งหวังจะช่วยผู้หญิงผู้โชคร้ายเหล่านั้น แต่ตัวเลขของอาชญากรรมประเภท Honor Killing ก็ยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องในหลาย ๆ ประเทศ จากสถิติที่รวบรวมโดยสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เผยว่าในแต่ละปีจะมีผู้หญิงทั่วโลกที่ถูกสังหารโดยคู่ครองหรือบุคคลในครอบครัวมากถึง 50,000 ราย ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมคดีที่ไม่ถูกแจ้งความ
การแก้ปัญหานี้อาจจะต้องขุดไปถึงรากฐานทางความคิดและความเชื่อในแต่ละวัฒนธรรม แก้กรอบความคิดที่ยกให้ชายเป็นใหญ่ และยกเลิกความคิดที่กดขี่ขมเหงเพศหญิง ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากและใช้เวลานาน แต่หากทำสำเร็จ จะมีผู้หญิงอีกมากที่จะไม่ต้องสละชีวิตตัวเองเพื่อเกียรติยศของใครอีกต่อไป…
อ้างอิง