โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ม.มหิดลพร้อมมุ่งสู่เป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจริงจัง สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

สยามรัฐ

อัพเดต 09 ส.ค. 2566 เวลา 05.21 น. • เผยแพร่ 09 ส.ค. 2566 เวลา 05.21 น.

ผศ.ดร.ธนกฤต เนียมหอม ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและการพัฒนาที่ยั่งยืน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมคณะฯ ในการเป็นส่วนงานนำร่องสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Green and Carbon Neutral Faculty) ว่า หนึ่งในอุปสรรคสำคัญในการเดินหน้าภารกิจสีเขียว ที่สำคัญของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าเกิดจากข้อจำกัดในเชิงพื้นที่ จากสถานที่ตั้งซึ่งอยู่ในเขตเมืองหลวง ที่มีความแออัดและเต็มไปด้วยมลพิษ แตกต่างไปจากวิทยาเขตอื่นๆ ของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่อยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งยังคงแวดล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ แต่ยังคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเท่าใดนัก จึงจำเป็นต้องมีการดูดกลับด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น

โดยเมื่อปี พ.ศ. 2565 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการศึกษาปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนามแนวทางขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พบว่า มีการปล่อยระบายคาร์บอนจากทั้ง 3 scope จำนวน 1,474 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งพบว่า แหล่งกำเนิดที่ปล่อยมากที่สุด คือ การใช้ไฟฟ้าในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ สูงถึง 74% เพื่อลดอัตราการใช้ไฟฟ้า จึงมีแนวทางสอดคล้องกับการช่วยลดก๊าซเรือนกระจก ได้แก่ การติดตั้ง Solar Rooftop ร่วมกับการจัดการขยะ และลดการใช้ถุงพลาสติกที่ยังคงมีประสิทธิภาพในปัจจุบัน โดยจะทำให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้จากประมาณ 20% เหลือเพียงประมาณ 1,180 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระจำเป็นจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มาจากการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมากในอาคารเรียน - สำนักงาน พื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ให้บริการทางด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนของคณะฯ โดยดำเนินการตามกลยุทธ์เพื่อรักษาสมดุลระหว่างมลภาวะ (Pollution) สุขภาวะ (Health) และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

ผศ.ดร.ธนกฤต เนียมหอม กล่าวอีกว่า เรื่องของ SDGs หรือเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ เป็นเรื่องที่ทุกองค์กรจะต้องให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะบรรลุเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น หากสามารถนำทุกกิจกรรมมาคำนวณออกมาเป็นตัวเลข แล้วนำไปเทียบกับการใช้จริงในชีวิตประจำวัน โดยจะทำให้เห็นภาพที่ชัดเจน และเกิดความตระหนักร่วมกันมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การทำให้เห็นว่า หากสามารถประหยัดน้ำได้เพียงวันละ 5 ลิตร เมื่อรวมกัน 1 ปี จะเท่ากับปริมาณน้ำที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้เป็นจำนวนมากเพียงใด เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมองว่าปฏิบัติการ "ลดปล่อย" พร้อม "ดูดกลับ" ก๊าซเรือนกระจก เทียบไม่ได้กับการซื้อ-ขาย "คาร์บอนเครดิต" กันในปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นเพียงตัวเลขที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ถึงอย่างไรยังนับว่าดีต่อ "การสร้างแรงกระเพื่อม" ให้เกิดความตระหนักในอนาคตของ "โลกสีเขียว" ที่ถือเป็น "ความรับผิดชอบร่วมกัน" เช่นเดียวกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่พร้อมมุ่งสู่การเป็น "ส่วนงานนำร่องสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน" (Green and Carbon Neutral Faculty) และเพื่อเป็นต้นแบบของการใช้พลังงาน และอนุรักษ์ของพื้นที่พญาไท กรุงเทพฯ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...