โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

ม.มหิดล วิจัยผลของดนตรีต่อคลื่นไฟฟ้าสมอง สู่การออกแบบกิจกรรมบำบัดตรงจุด

สวพ.FM91

อัพเดต 21 พ.ย. 2566 เวลา 05.23 น. • เผยแพร่ 21 พ.ย. 2566 เวลา 05.23 น.

งานวิจัยผลของดนตรีที่มีต่อคลื่นไฟฟ้าสมอง เป็นผลงานล่าสุดของมหาวิทยาลัยมหิดล โดย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ สถาบันดนตรี Top50 ของโลก ที่ผ่านการรับรองหลักสูตรจากสถาบันรับรองคุณภาพหลักสูตรดนตรีของยุโรป "MusiQuE" แห่งแรกของเอเชีย
อาจารย์ ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล คือผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญของงานวิจัยดังกล่าว โดยที่ผ่านมาได้ริเริ่มศึกษาครั้งแรกกับเยาวชนกลุ่มเป้าหมายในสถานพินิจเพื่อดูผลกระทบของการใช้ดนตรีบำบัดในการช่วยกล่อมเกลาพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง
โดยได้ร่วมกับทีมแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้ให้การสนับสนุน "การวัดคลื่นไฟฟ้าสมองด้วยเครื่องวิเคราะห์คลื่นสัญญาณไฟฟ้าสมอง" (EEG) พร้อมผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้ทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
จากการออกแบบกิจกรรมใน 2 ลักษณะ โดยกิจกรรมแรกเลือกเพลงที่มีอยู่แล้วและเกี่ยวข้องกับเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย สำหรับวงดนตรีขนาดเล็ก เล่นกระชับความสัมพันธ์ ส่วนอีกกิจกรรมเป็นการแต่งเพลงขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อวัดคลื่นไฟฟ้าสมองเปรียบเทียบกัน
ปัจจุบันโครงการฯ ยังอยู่ระหว่างการเก็บข้อมูล โดยหวังให้ผลการวิจัยสามารถช่วยลดความรุนแรง ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรงในเยาวชน จากการออกแบบดนตรีบำบัดได้อย่างเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมายังคงไม่มีในลักษณะเพื่อใช้ในรายบุคคลอย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังได้ศึกษาในรายละเอียดถึงผลของการฟังดนตรีในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน ทั้งในแบบใส่หูฟัง และเปิดจากลำโพง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นัทธี เชียงชะนา หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีบำบัด วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่เราฟัง ร้อง หรือเล่นดนตรี
สามารถการกระตุ้นการทำงานของสมองได้หลายส่วน อาทิ สมองส่วนควบคุมการมอง-ได้ยิน-เคลื่อนไหว ในขณะที่สมองเรามียีนส์คอยควบคุม "จังหวะ" และ "เวลา" ซึ่งมีความสอดคล้องกับ "จังหวะดนตรี" (Rhythm)
มีงานวิจัยหลายชิ้นค้นพบว่า "จังหวะดนตรี" มีผลต่อการทำงานของเซลล์สมอง นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อ "ทักษะการคิดเชิงบริหาร" (Executive Functions) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน "การควบคุมตัวเอง" (Inhibitory Control) ซึ่งมีผลต่อการลดปัญหาพฤติกรรม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นัทธี เชียงชะนา ได้แนะนำทิ้งท้ายถึงการออกแบบดนตรีบำบัดเพื่อใช้ในการฝึกทักษะ EF ด้านการควบคุมตัวเองว่า โดยทั่วไปสามารถฝึกได้ตั้งแต่วัยเยาว์ ด้วยกิจกรรม "ทำตามคำสั่งจากเนื้อเพลง" หรือกิจกรรมดนตรี "ผู้นำ - ผู้ตาม"
มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมเป็นกำลังใจให้เยาวชนคนไทยทุกคนได้พบกับโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต เพื่ออนาคตที่ดี และยั่งยืนของตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติต่อไป
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th
ภาพจาก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สัมภาษณ์ และเขียนข่าว โดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...