โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ซีพี-เทสโก้โลตัส ผงาดเบอร์ 1 ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว หวั่นเสียเปรียบอำนาจต่อรอง

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 07 พ.ย. 2563 เวลา 06.23 น. • เผยแพร่ 07 พ.ย. 2563 เวลา 05.00 น.

บอร์ดแข่งขันการค้าไฟเขียว ซี.พี.ซื้อเทสโก้ โลตัส 3.38 แสนล้าน ระบุไม่ผูกขาด เพิ่ม 7 เงื่อนไข ห้ามควบรวมกิจการค้าปลีกเพิ่มภายใน 3 ปี เปิดช่องสยายปีกลงทุนอีคอมเมิร์ช ดันอาณาจักร ซี.พี.ของเจ้าสัว “ธนินท์” มีโมเดลค้าปลีกครบวงจร คาดส่ง “นริศ ธรรมเกื้อกูล” นั่งคุม ซัพพลายเออร์-ยี่ปั๊วซาปั๊วรับมืออุตลุด หวั่นเสียเปรียบอำนาจต่อรอง

การซื้อหุ้น บจ.เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) ที่ถือหุ้นใหญ่ใน บจ.เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม ผู้บริหารห้าง “เทสโก้ โลตัส” โดย บจ.ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) ซึ่งถือเป็นดีลยักษ์แห่งปี โดยกลุ่ม ซี.พี.ยอมทุ่มเงิน 3.38 แสนล้านบาท ลุยธุรกิจค้าปลีกครบวงจร ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 ได้รับไฟเขียวเป็นทางการแล้ว

ล่าสุดวันที่ 6 พ.ย. 2563 คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) อนุมัติให้กลุ่ม ซี.พี.ซื้อกิจการเทสโก้ โลตัส โดยกำหนดเงื่อนไขให้ต้องปฏิบัติ 7 ข้อ

ชี้ไม่ผูกขาด-ไม่เสียหายต่อเศรษฐกิจ

นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้พิจารณาการขออนุญาตรวมธุรกิจระหว่าง บจ.ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ และ บจ.เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย)

โดยกรรมการเสียงข้างมากเห็นว่า การรวมธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ขออนุญาตรวมธุรกิจมีอำนาจเหนือตลาดในตลาดร้านค้าปลีกสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภคประเภทร้านค้าปลีกขนาดเล็ก มีอำนาจตลาดเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่เป็นการผูกขาด และการรวมธุรกิจดังกล่าวจำเป็นตามควรทางธุรกิจ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการส่งเสริมการประกอบธุรกิจเพิ่มมากขึ้น

และอาจส่งผลให้การแข่งขันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อประโยชน์สำคัญอันควรมีควรได้ของผู้บริโภคส่วนรวม ทั้งนี้ มีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อลดหรือเยียวยาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการแข่งขันในตลาดหลังการรวมธุรกิจ

เปิด 7 เงื่อนไขให้ควบรวม

จึงมีมติอนุญาตให้รวมธุรกิจระหว่าง บจ.ซี.พี. รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ และ บจ.เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) โดยกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขให้ปฏิบัติ ดังนี้

(1) ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจและผู้ประกอบธุรกิจที่มีสถานะเสมือนเป็น หน่วยธุรกิจเดียวกัน กระทำการรวมธุรกิจกับผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภค 3 ปี ไม่รวมตลาดอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce)

(2) ให้ บมจ.ซีพี ออลล์ และ บจ.เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม เพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้า SMEs ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าเกษตร ชุมชน วิสาหกิจชุมชน หรือโอท็อป 10% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี

(3) ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจและผู้ประกอบธุรกิจที่มีสถานะเสมือนเป็นหน่วยธุรกิจเดียวกัน ใช้ข้อมูลร่วมกันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาด ฯลฯ โดยให้ถือว่าเป็นความลับทางการค้า

(4) ให้ บจ.เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม คงเงื่อนไขสัญญาและข้อตกลงระหว่างผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบรายเดิม ไว้เป็นระยะเวลา 2 ปี เว้นแต่เปลี่ยนแปลงสัญญาเป็นคุณต่อผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์

(5) ให้ บมจ.ซีพี ออลล์ บจ.เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม กำหนดเวลาให้สินเชื่อการค้า (credit term) 30-45 วันทกับซัพพลายเออร์ เป็นระยะเวลา 3 ปี อาทิ สินค้าเกษตร 30 วัน สินค้าอื่น ๆ ไม่เกิน 45 วัน

(6) ให้ 2 บริษัทรายงานผลประกอบการรายไตรมาสกับ กขค.เป็นเวลา 3 ปี

(7) ให้กำหนดมาตรฐานในการปฏิบัติทางการค้าที่ดี (code of conduct) เผยแพร่ต่อสาธารณชน และถือปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าว ตลอดจนประกาศของ กขค.

ยันไม่ผูกขาด

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังการควบรวมกิจการ ทำให้จำนวนผู้ค้า (เพลเยอร์) ในตลาดค้าปลีกลดลงก็จริง หากแยกเฉพาะในส่วนของคอนวีเนี่ยนสโตร์ จริงอยู่ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมีสาขามากที่สุด แต่ร้านประเภทนี้มีผู้ประกอบการหลายรายมาก ทั้งแฟมิลี่มาร์ท ลอว์สัน ซีเจมาร์ท ทั้งยังมีร้านค้าท้องถิ่นอีก 5-7 แสนร้านค้า ส่วนร้านซีพีเฟรชมาร์ท มีสาขาแค่ 300 สาขา ถือว่าน้อยมาก

“ถ้าถามเราจะได้เปรียบคนอื่นเพราะกลุ่ม ซี.พี. จะมีทั้งห้างแม็คโคร โลตัส เซเว่นฯ ซีพีเฟรชมาร์ท หรือไม่ ผมว่า ถ้าคนจะมองอย่างนั้นก็ย่อมได้ แต่ต้องมองด้วยว่าค้าปลีกแต่ละประเภทก็มีหน้าที่ของตัวเอง แต่ละประเภทมีกลุ่มลูกค้าแตกต่างกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่”

อย่างไรก็ตาม จะทำให้มีโอกาสขายสินค้าผ่านสาขาเทสโก้ในไทย และมาเลเซีย (ในไทย ร้านสะดวกซื้อ 1.3 หมื่นสาขา ค้าส่ง 94 สาขา ไฮเปอร์มาร์เก็ต 431 สาขา และในต่างประเทศ 76 สาขา) ส่วนการขายสินค้าเข้าสาขาที่อังกฤษนั้นสามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว ดีลนี้เปรียบเสมือนการลงทุนเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว ซึ่งหวังว่าจะมีสินค้าบางอย่างจากเมืองไทยไปขายที่มาเลเซียได้มากขึ้น

ไม่แกล้งซัพพลายเออร์แน่

สำหรับประเด็นที่ว่าสินค้าปศุสัตว์ที่ซีพีเอฟผลิตจะมีโอกาสได้เปรียบผู้ผลิตปศุสัตว์รายอื่นนั้น ขอยกตัวอย่างกรณีที่ ซี.พี.ซื้อแม็คโครก่อนหน้านี้ สินค้าของผู้ผลิตรายอื่นก็ยังมีวางขายในแม็คโคร แถมสินค้าบางรายการของผู้ผลิตอื่นมียอดขายมากกว่าซีพีเอฟ ที่เป็นอย่างนั้นเพราะเป้าหมายของค้าปลีกต้องสร้างความหลากหลายให้ผู้บริโภคสามารถเลือกได้

“ดีลนี้เราขายได้มากขึ้นหรือไม่ ขอบอกว่าเราขายได้เยอะอยู่แล้วในเทสโก้ เช่น สินค้าไส้กรอง มีส่วนแบ่งตลาดถึง 70% ทั้งที่ยังไม่ได้ควบรวม แต่แน่นอนว่าหลังควบรวมน่าจะเอื้อให้บริษัทในกลุ่มเดียวกันมากขึ้น การประชุมร่วมกันคงสะดวกขึ้น”

แยกรายได้ชัดเจน เห็นผลปี’64

นายประสิทธิ์กล่าวว่า หากการควบรวมสำเร็จในไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่าจะเห็นภาพการดำเนินงานชัดเจนต้นปีหน้า แต่รายได้ที่จะเกิดขึ้นหลังควบรวมจะไม่ถูกนำมารวมกับรายได้ของซีพีเอฟ เพราะถือหุ้นสัดส่วน 20% ตามกฎหมาย ถ้าไม่เกิน 25% จะไม่นับมารวม

ทั้งนี้ เม็ดเงินลงทุน 3.38 แสนล้านบาท เพื่อลงทุนใน บจ.เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) และ บจ.เทสโก้ สโตร์ส (มาเลเซีย) โดยผ่าน บจ.ซี.พี. รีเทลโฮลดิ้ง ทุนจดทะเบียน 2.4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการถือหุ้นโดย ซีพี ออลล์ 40% เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง 40% และ ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง หรือซีพีเอฟ ถืออีก 20%

หนุนค้าปลีก ซี.พี.สุดแกร่ง

แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีกขนาดกลางรายหนึ่งเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังการควบรวมที่กำลังจะเกิดขึ้น จะทำให้กลุ่มธุรกิจค้าปลีกของ ซี.พี. ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น มีร้านค้าหลากหลายโมเดลมากขึ้น จากเดิมที่มีเฉพาะร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจค้าส่ง cash&carry (แม็คโคร) จากนี้ไปก็จะมีไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ที่เป็นร้านสะดวกซื้ออีกจำนวนหนึ่งด้วย ขณะเดียวกันจะทำให้เซเว่นอีเลฟเว่น มีธุรกิจให้เช่าพื้นที่พ่วงเข้ามาอีกทางหนึ่ง

ขณะที่ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ ที่มีสินค้าและผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซีพี หลากหลายทั้งอาหารสด ไม่ว่าจะเป็น หมู เป็ด ไก่ ไข่ กุ้ง ฯลฯ อาหารแปรรูป อาหารพร้อมรับประทาน ได้ประโยชน์จากการวางสินค้าอาหารผ่านเครือข่ายเทสโก้ฯมากขึ้น นอกเหนือจากช่องทางที่มีอยู่เดิม

นอกจากนี้ มองระยะยาว ดีลนี้จะได้ส่งผลดีกับการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกของกลุ่ม ซี.พี. ทั้งในแง่ของการลดต้นทุน และการทำงาน หรือการประสานประโยชน์ร่วมกัน (synergy) และจะทำให้ธุรกิจค้าปลีกของกลุ่ม ซี.พี.ให้มีความแข็งแกร่ง ทั้งในแง่การมีรูปแบบห้างค้าปลีกที่ครบวงจร มีส่วนแบ่งตลาดทุกรูปแบบ เป็นอันดับ 1 ของประเทศ

ด้วยจำนวนสาขาที่มีมากกว่า 14,000 สาขา และมีส่วนแบ่งตลาดห้างโมเดิร์นเทรดรวมมากกว่า 40% จากเดิมที่มีประมาณ 30% รวมทั้งมีสาขาในต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 75-76 สาขา จากเดิม 7 สาขา โดยเฉพาะในมาเลเซีย จากเดิมที่มีสาขาในกัมพูชา, เมียนมา, จีน และอินเดีย ซึ่งหลัก ๆ จะเป็นแม็คโคร ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองกับซัพพลายเออร์ที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนสาขาของร้านที่เป็นโมเดลร้านสะดวกซื้อของเซเว่นอีเลฟเว่น และเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส ที่มีการเปิดสาขาในพื้นที่ทับซ้อนกันเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นกลุ่ม ซี.พี.อาจพิจารณายุบหรือควบรวมสาขาลงจำนวนหนึ่้ง เพื่อลดความซ้ำซ้อนและลดต้นทุน” แหล่งข่าวกล่าว

ซัพพลายเออร์-ยี่ปั๊วซาปั๊วฝุ่นตลบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คนในวงการค้าปลีกโดยเฉพาะซัพพลายเออร์ และผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ในต่างจังหวัด ต่างให้ความสนใจและติดตามความเคลื่อนไหวการควบรวมกิจการระหว่างกลุ่ม ซี.พี. และเทสโก้ โลตัส อย่างใกล้ชิด

แหล่งข่าวจากบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าขนาดกลางรายหนึ่งเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้แวดวงซัพพลายเออร์ค่อนข้างตื่นตัวกับเรื่องนี้มาก เนื่องจากมองว่าการควบรวมดังกล่าวจะทำให้กลุ่มค้าปลีก ซี.พี.มีอำนาจการต่อรองทางการค้ามากขึ้น

ขณะนี้หลายรายได้เตรียมตัวและหาแนวทางเพื่้อรับมือไว้ในระดับหนึ่ง โดยแนวทางหนึ่งที่ซัพพลายเออร์มองคล้าย ๆ กัน คือ การบาลานซ์พอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง ด้วยการหันมาให้ความสำคัญกับช่องทางที่เป็นเทรดิชั่นนอลเทรด ค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ที่เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบั

ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ในภาคอีสานกล่าวว่า จากอำนาจการต่อรองของกลุ่มค้าปลีก ซี.พี.ที่มีมากขึ้น รวมทั้งจำนวนสาขาที่มีครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ มากขึ้น จะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการยี่ปั๊วซาปั๊ว และผู้ประกอบการค้าปลีกที่เป็นโลคอลต้องเร่งปรับตัวเช่นกัน รายเล็กคงไม่สามารถแข่งขันเรื่องราคาได้ เนื่องจากปริมาณการสั่งซื้อที่แตกต่างกัน รายใหญ่ที่มีอำนาจต่อรองสูงยิ่งสั่งมากเท่าไหร่ก็จะได้ราคาที่ถูกลงมากขึ้นเท่านั้น และนำมาทำราคาได้

ซี.พี.จัดทัพพร้อมลุย

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทในเครือ ซี.พี.เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้เตรียมการเพื่อเข้าซื้อกิจการของเทสโก้ โลตัส มาเป็นระยะ ๆ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทั้งในเรื่องการหากู้เงินจากสถาบันการเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเตรียมในเรื่องของบุคลากร การวางตัวคนที่จะเข้ามาดูแลบริหารเทสโก้ โลตัส

โดยในส่วนของผู้บริหารที่ถูกวางตัวไว้ คาดว่าจะเป็น ดร.นริศ ธรรมเกื้อกูล ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานผู้บริหาร ทรัพยากรบุคคลเครือเจริญโภคภัณฑ์ และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รีเทลลิงค์ (ไทยแลนด์) จำกัด นอกจากนี้ ในอดีตที่ผ่านมายังเคยเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...