รีวิว วิมานหนาม ภาพยนตร์ไทยดราม่า กลิ่นอายหนังรางวัลนานาชาติ จาก เจฟ ซาเตอร์ และ อิงฟ้า วราหะ

เมื่อช่วงสงกรานต์ค่ายหนังไทยคุณภาพอย่าง GDH ได้ปล่อยผลงานดราม่าพรีเมี่ยมเรียกน้ำตาอย่าง “หลานม่า” ออกมาสู่สายตาชาวโลก ให้ได้ซึ้งกับความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่ตอนนี้ผ่านมากว่า 4 เดือนก็ยังมีรอบฉายอยู่ในบางโรง แถมได้รับกระแสดีจากต่างประเทศและล่าสุดกับการเข้าฉายบุกเมืองจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่รอช้ากับผลงานล่าสุด “วิมานหนาม (The Paradise of Thorn)” หนึ่งในภาพยตร์ที่ได้รับเลือกฉายใน International Premiere ณ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต 2567 (Toronto International Film Festival 2024 : TIFF) ครั้งที่ 49 จะดราม่าเข้มข้นแค่ไหน ตามไปอ่าน รีวิว วิมานหนาม จาก LSA กันได้เลย

Spoiler Alert!!! บทความนี้อาจมีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญบางส่วนจากในภาพยนตร์

คำเตือน: ห้ามจิกเบาะ หวีดร้อง หยุมหัว เพื่อนข้างๆ และนำทุเรียนฟาดใส่หน้าจอ ขณะรับชม ! ใครที่รับประทานทุเรียนอยู่ ได้โปรดเก็บเปลือกให้ห่างจากมือของลูกหลาน

Lifestyle Asia rating: 4.5/5

ประเภทหนัง: ดราม่า ทริลเลอร์ ศึกชิงแย่งมรดกสมบัติ ระหว่างผู้ที่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย กับ คนที่ต้องการเรียกร้องเพื่อให้ได้รับสิทธิ์นั้น ท่ามกลางความไม่เท่าเทียมของสังคม

นักแสดง:

• เจฟ-วรกมล ชาเตอร์ รับบท ทองคำ ครรลองสุข
• เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์ รับบท เสกสรร บุญคำลือ
• อิงฟ้า วราหะ รับบท โหม๋ จองย้อย
• สีดา พัวพิมล รับบท แม่แสง บุญคำลือ (แม่ของเสก)
• หฤษฎ์ บัวย้อย รับบท จิ่งนะ จองย้อย

ผู้กำกับ: บอส-นฤเบศ กูโน จาก ซีรีส์วายสุดละเมียดละไม แปลรักฉันด้วยใจเธอ

เวลา: 2 ชั่วโมง 5 นาที

ดูได้ที่ไหน: โรงภาพยนตร์

ดูได้เมื่อไหร่: 22 สิงหาคม 2024

เนื้อเรื่องย่อ

โศกนาฏกรรมความรักและความสัมพันธ์ ณ อาณาจักรสวนทุเรียน ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทุกอย่างเริ่มต้นจากความรักของคู่ชายชาย ของ เสก (รับบทโดยเต้ย–พงศกร เมตตาริกานนท์) และ ทองคำ (รับบทโดยเจฟ ซาเตอร์) ในวันที่กฎหมายสมรสเท่าเทียวในไทยยังไม่เกิด ทั้งคู่รักกัน ทุ่มเท ทำงานอย่างหนักเกือบ 5 ปี จนเกือบจะได้เก็บทุเรียนขาย แต่แล้วอุบัติเหตุก็พรากชีวิตของ เสก ไปอย่างกระทันหัน สวรรค์วิมานก็เค้าทั้งสองร่วมกันบรรจงสร้าง ก็กลับกลายเป็นขุมนรกในทันตา

เมื่อในโลกแห่งความเป็นจริง ทรัพย์สมบัติ ที่ดิน บ้าน ต้องตกไปอยู่กับแม่แสง ตามหลักกฎหมายที่สังคมว่าไว้ โดยที่สัญญาใจไม่อาจมีน้ำหนักมากพอ สงครามการแย่งชิง การทวงถามความยุติธรรม ศักดิ์และสิทธิ์ที่ควรได้รับจึงเกิดขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายต่างก็มองว่า ตนเองไม่ได้รับความเท่าเทียม สงครามประสาททวีความรุนแรงขึ้น จากความต้องการล้างแค้นของ โหม๋ หญิงสาวที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ด้วยเป้าหมายสูงสุดคือการได้ครอบครองทุกอย่างใน วิมาน ที่คอยทิ่มแทงใจทุกคนให้พังทลาย

เราชอบอะไรในหนังเรื่องนี้

การจั่วหัวมาด้วยโลโก้ GDH ก็เป็นเครดิตให้เราซื้อตั๋วเข้าไปดูได้ไม่ยาก ประกอบกับตัวอย่างที่ปล่อยออกมางาน บท ภาพ มุมกล้อง พลังการแสดง คอนเซปต์ ที่มีกลิ่นอายเหมือนหนังรางวัลต่างประเทศ จนเราแอบคิดเล่นๆ ว่าต้องเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ได้ฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ หรือ ลุยไปสู่การเป็นตัวแทนประเทศไทย เสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศ ได้แบบภาคภูมิใจ นอกจากงานสร้างโปรดักชั่นที่ละเอียดละออ ใส่ใจทุกจุด ไม่ว่าจะฉากที่เนรมิตสร้างบ้านมาได้ใหม่ทั้งหลัง ความสมจริง ศักยภาพของนักแสดง แก่นของเรื่องจริงๆ คงจะเป็นประเด็นเรื่องราวดราม่าที่ตีแตกและดูเป็นสากลมากๆ

โดยที่ ความเท่าเทียม น่าจะเป็น Message ใหญ่ที่ผู้กำกับต้องการสื่อสาร แต่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องเพศ LGBTQ+ เท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงเรื่อง สภาพสังคม คนชายขอบ สัญชาติ พื้นที่ห่างไกลอีกด้วย การเข้าไปดูแบบไม่มีชุดข้อมูล Input อะไรเลย สมองโล่งๆ ปล่อยจอยกับเรื่องราวตรงหน้าจะดีที่สุด เนื้อหาไม่ได้หนักอึ้งจนเสียน้ำตาขนาดนั้น ย่อยง่าย เข้าถึงคนดูได้ตรงๆ แถมแอบจบแบบหักมุม นี้จึงเป็นคำอวยจาก LSA ว่าคือหนังไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี ไม่ใช่เฉพาะปี 2024 เท่านั้น ตอกย้ำว่าคอนเทนส์แบบไทยๆ ก็กลายเป็นพรีเมี่ยมดราม่าที่ดีได้เหมือนกัน พล็อตแย่งสมบัติอาจจะดูไม่ใหม่ แต่ที่ทำให้พิเศษ ใส่ไข่ เติมพริกน้ำปลา คือชั้นเชิงการเล่าเรื่อง รูปแบบการนำเสนอต่างหาก ดังตัวอย่างความสำเร็จอย่าง “หลานม่า” และ “สืบสันดาน”

เราไม่ชอบตรงไหน

จุดหักคะแนนก็คงเป็นเพียงเล็กน้อยในช่วงท้าย ที่เหตุการณ์กำลังไล่ระดับไปสู่จุดพีคของเรื่อง หลังจากที่ แม่แสงตาย ทุกอย่างอาจจะดูเร่งรีบไปหน่อย คล้ายรีบเล่า รีบลง รีบจบ แต่ก็ขอย้ำว่าเป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมทั้งหมดแต่อย่างใด ความไม่ชอบอีกอย่างที่เชิงหยอกแซว คือการไม่มีภาค 2 ด้วยนี้แหล่ะ จบแบบปลายปิด แต่เข้าใจการกระทำของตัวละคร แบบไม่ค้างคาใจ

ความเท่าเทียม คือ?

เรื่องตลกร้ายในเมืองไทย ที่กำลังไรวัลของหนังเรื่องนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจของทีมสร้างในการเลือกโลเคชั่นถ่ายทำหรือไม่? นั่นคือ จังหวัด ‘แม่ฮ่องสอน‘ เป็นจังหวัดที่ประชากรมีรายได้น้อยที่สุดในประเทศ รวมถึง ‘ตราด’ ที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก ทั้ง 2 ที่นี้ ไม่มีโรงหนัง! ประเด็นคำว่า ‘ไม่เท่าเทียม’ จึงโชยกลิ่นออกมาแต่ไกล แต่กระทั่งดีเทลสถานที่เลยทีเดียว

หากเรามาพิจารณากันดูหน่อยในคำว่าไม่เท่าเทียม คืออะไร ? ภาษาชาวบ้านอาจเรียกว่ามันไม่แฟร์ ไม่ยุติธรรม ความเป็นจริงแล้ว ใครที่ต้องเท่าเทียม หมายถึง คนทุกคนเท่ากันหรือไม่ ? ในทัศนะของผู้เขียนที่มีต่อเรื่องนี้เอง คงไม่ใช่เรื่องของการรวยเท่ากัน สวยหล่อเหมือนกัน มีหน้าที่การงานดีเหมือนกัน แต่คือการได้รับ โอกาส ที่เสมอภาคกัน โดยไม่แบ่งชนชั้นเรื่องของฐานะต่างหากคือคำตอบ

ในเรื่องที่ชัดเจนเลยคือการสื่อสารเรื่องของความไม่เท่าเทียมทางเพศผ่านทางคู่รักเกย์ ของ เสกและทองคำ แถมเรื่องนี้ยังได้ อิงฟ้า นางงามที่เปิดตัวชัดเจนในเรื่องการเป็น LGBTQ+ ผู้มารับบท โหม๋ ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นความตั้งใจของผู้กำกับก็เป็นได้ แต่ก็ทำภาพรวมใน Message นี้ชัดขึ้นไปอีก ความเจ็บแสบอีกอย่างของเรื่องคือ ถึงแม้ปัจจุบันประเทศไทย กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะผ่านไปแล้ว อย่างที่ทุกคน Pride ภาคภูมิใจในการเป็นประเทศแรกในอาเซียน ประเทศที่ 3 ของเอเชีย แต่ความตลกร้ายนั่นคือ กฎหมายไม่ได้มีผลย้อนหลัง! หากอ้างอิงไปที่ตัวหนัง จึงทำให้เมื่อเสกประสบอุบัติเหตุตกต้นทุเรียนตาย คู่รักอย่าง ทองคำ จึงไม่มีสิทธิ์ครอบครองมรดกแม้แต่บาทเดียว

คนแบบเรา จะโง่ยกทุกอย่างให้ผู้ชายหมดไม่ได้นะ!

คำพูดของเจ้าหน้าที่รัฐคนนึงที่เตือนสติ ทองคำ เมื่อศึกแย่งชิงมรดกนี้ดูเหมือนปลายทาง เค้าอาจจะไม่ใช่คนที่จะมีโอกาสชนะ คำถามคือเพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ? คำตอบก็คงจะเป็นเพราะ ความรัก แบบที่ไม่ลืมหูลืมตา รักแบบไม่มีสติ รักแบบไม่ระมัดระวังตัวเอง หลงเชื่อเพียงคำหวาน ที่เปรียบดั่งน้ำผึ้งอาบยาพิษ กลายเป็นหนามทิ่มแทงให้เลือดสาดเมื่อรู้ตัวก็สายไปแล้ว ดังนั้นที่ทองคำบอกว่า “พวกมึงสันดานโจร ปล้นบ้านกู” คำกล่าวนี้ อาจจะใช้ไม่ได้จริงหรือไม่! เพราะแน่ใจแล้วหรือว่าบ้านที่อยู่ คือบ้านของเค้าจริงๆ มาตั้งแต่แรก หรือความจริงอาจะเป็นเพียงวิมานอากาศที่ เสก สร้างเพื่อหลอกตาเค้าเท่านั้น

ใครเลวที่สุด? ใครน่าสงสารสุด?

เพื่อให้การ รีวิว วิมานหนาม สนุกเข้มข้นขึ้นอีกนิด เราท้าให้คุณทายกันดีกว่าว่าในเรื่องนี้ ตัวละครไหน ใครเลวที่สุด ? จะเป็นเสก ทองคำ โหม๋ หรือ แม่แสง กันนะ ?

ชั้นเชิงการเล่าเรื่องของผู้กำกับบอสก็ยังเซียนเสมอ ต้มตุ๋นเราตั้งแต่ในตัวอย่าง ที่หลอกคนดูจนอยู่หมัดกับการสร้าง คาแรคเตอร์ของ โหม๋ ผู้หญิงที่ร้ายกาจและต้องการมาแย่งทุกสิ่งไปจาก แม่แสง และ ทองคำ แต่ความจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ? เราลองไปสำรวจตัวละครแต่ละคนดูกัน

เสก ภาพลักษณ์คือชายหนุ่มผู้แสนดี ตั้งใจทำมาหากิน ทำไร่ ปลูกสวนทุเรียนกับคนรักเพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน แต่ดันมาด่วนสิ้นไปกระทันหัน แต่ถ้าคุณรู้เบื้องหลังของผู้ชายคนนี้ แทนที่น่าสงสาiคุณอาจจะสมน้ำหน้าจนอยากให้ตายเร็วๆ ก็ได้! ต่อไปนี้แจ้งเตือนไว้ก่อนว่าสปอยล์ล้วนๆ หากจะให้นิยามเพศสภาพของเค้าอาจจะใกล้เคียงกับ Bisexual คนที่รักได้ทั้งชายและหญิง หรือ ในโลกสมัยใหม่นี้อาจจะไม่จำเป็นต้องนิยามตัวตนอะไรเลยก็ได้ หากพิจารณาในแง่ของความหลื่นไหลทางเพศ

ทำดีให้ตาย เขาก็ไม่ยกที่ดินให้มึงหรอก!

เสก คือ ตัวร้ายในคราบนักบุญโดยแท้ เค้าคนนี้คือต้นตอของปัญหาทุกอย่างอันเนื่องด้วย เสก เคยคบหากับ โหม๋ สาวไทใหญ่ที่เป็นแฟนผู้หญิงมาก่อน แต่ด้วยการที่เค้าต้องการเงินลงทุนก้อนโต เพื่อมาปลูกสวนทุเรียนของตัวเองและไถ่ถอนโฉนดหลุดจากจำนอง จึงได้ไปคบหากับ ทองคำ หากจะเรียกว่าชู้ คนมาทีหลัง หรือ โลกใบที่สองของเสก ก็คงไม่ผิด รักกันจนขนาดที่ ทองคำ ยอมขายทรัพย์สินบ้านที่เชียงใหม่เพื่อจะเอามาเป็นเงินลงทุนและย้ายมาอยู่กับ เสก ที่แม่ฮ่องสอน

ความร้ายกาจของเสกคือการที่เค้าเคยคบกับโหม๋นั้น เรื่องนี้ ทองคำ ไม่รู้เรื่องเลย เรื่องนี้จึงเป็นปมเฉลยในฉากการปะทะหยุมหัวฟาดทุเรียนกันอย่างเมามันส์ ยิ่งกว่าแม่ค้าตลาดไทฟาดใส่นางร้ายในละครหลังข่าวเสียอีก (ปล. LSA ไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกประการ) ขนาดที่ว่าตอนแรกทองคำกะจะข่มขืนโหม๋ ให้ตั้งท้องมีทายาท และจะแต่งงานกับทายาทเพื่อที่จะได้ครอบครองผืนดิน อาณาจักรสวนทุเรียนแห่งนี้ด้วยซ้ำ ถ้าเป็นเช่นนั้นหนังคงจะดาร์กมากๆ แต่โชคดีที่โหม๋เฉลยความจริงทุกอย่างก่อน ทองคำ จึงไม่ได้ลงมือทำ

ผมลืมไปแล้วนะเนี่ยว่า ‘แม่เก็บพี่มาเลี้ยง’

อีกหนึ่งตัวละครที่ขอยกให้เป็น MVP ของเรื่องเพราะขโมยซีนและมีเสน่ห์มากๆ ในทุกฉากที่ปรากฎตัว คือแม่แสง หนึ่งในคนที่อยากได้มรดกหนามทุเรียนเช่นกัน นักแสดงรุ่นใหญ่ที่เราคิดถึง ยังคงอวดฝีไม้ลายมือแบบชนิดที่ว่า เล่นให้เด็กมันดู ซะใจทุกซีนของแม่แสง ดูเรียลสมจริงกับบทบาทมากๆ หากจะถามว่ามีความร้ายหรือน่าสงสารไหม ถ้าดูจากแก่นแล้ว เธอก็คือแม่ที่เลี้ยงลูกชายคนหนึ่งจนโตด้วยความยากลำบาก จนเสียขาทั้งสองข้าง ฉะนั้นการลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ในฐานะการเป็นแม่โดยชอบธรรมก็ดูจะมีเหตุมีผลอยู่บ้าง แต่ที่ผิดคือ ทำไมแม่ไม่คิดจะแบ่งใครเลยล่ะ ?

ถึงแม้บทสรุป โหม๋ จะได้ทุกอย่างไป แต่หากคาดเดาจากสายตาของเธอแล้ว กลับไม่มีความสุขเลย ชัยชนะนี้กลับไม่ได้หอมหวานเหมือนทุเรียนหมอนทอง รสชาติที่แลกมาด้วยความเจ็บปวดของรอยหนาม ที่ฝากรอยแผลไว้กับทุกๆ คน หากจะถามชาวบ้าน 5 อย่าง LSA ว่าใครเลวที่สุด? ก็ขอยกตำแหน่งนี้ให้กับ คุณเสกสรร ส่วนใครน่าสงสารสุด? ก็ต้องบอกว่าทุกๆ คนเลย ขอจบการ รีวิว วิมานหนาม ไว้ด้วยสุภาษิตไทยที่ว่า “หนามยอกก็ต้องเอาหนามบ่ง” ไม่ว่าคุณจะได้รับความเจ็บปวดมาแบบไหน วิธีที่ดีที่สุดคือการต่อสู้ ตอบโต้กับปัญหาในแบบเดียวกัน ถึงจะรู้จักต้นตอของปัญหาที่แท้จริง เชื่อว่าหลังจากนี้เดิมที่ราคาแพงอยู่แล้ว ทุเรียนคงขายดีขึ้นไปอีกแน่ LSA อินจัดขอตัวไปซื้อทานให้หายอยากก่อนสักพู สัญญาว่าจะไม่เอาเปลือกไปตบกับใครแน่นอน! ขอสงบจิตด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ เหมือนวิวาห์ (Rain wedding) โดยหนุ่ม Jeff Satur พระเอกของเรื่องล่ะกัน

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟสไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia

Main, Hero and Featured images: GDH

รีวิว | Alien: Romulus กลับมารอบนี้จะมาปลุกจิตวิญญาณ ความสยองของตำนานเอเลี่ยนได้จริงหรือ ?
หนังอินเดีย กับ 7 โมเมนต์ สุดโต่งที่คุณคาดไม่ถึง
รวมเกร็ดหนัง และ Reference จาก Alien Romulus
ส่องความน่าสนใจ เราเห็นอะไรบ้าง ? จากตัวอย่างล่าสุดของภาพยนตร์ Mufasa: The Lion King
3 หนังจากเกมยอดแย่ รับกระแส Borderlands

The information in this article is accurate as of the date of publication.