“ปณท”อัดโซลูชั่นโครงข่ายโลจิสติกส์ รับ “พีคซีซัน”ปลายปีคนส่งของมากขึ้น
นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ตลอดปี 68 ที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องในทุกมิติเมื่อเปรียบเทียบกับปี 67 และคาดว่า คาดว่า ปริมาณชิ้นงานในช่วงพีคซีซันปลายปีและช่วงปีใหม่จะยังคงมีอัตราการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากหลายปัจจัยสำคัญ อาทิ จำนวนลูกค้าในภาคธุรกิจ การขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่เพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในหลาย ๆ เทศกาลจึงทำให้มีความต้องการใช้บริการขนส่งที่สูงขึ้น
โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจที่มั่นใจเลือกใช้บริการส่งด่วนพิเศษ อีเอ็มเอส ประกอบกับบริการเก็บเงินปลายทาง หรือซีโอดี ของไปรษณีย์ไทย ซึ่งล่าสุดได้ขยายไปสู่การส่งพัสดุไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมถึงบริการการส่งเฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นบริการทราเวลไลท์ และทราเวลไลท์ เวิลด์ ที่มีให้บริการเพื่อรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวครอบคลุมทุกภูมิภาค บริการขนส่งสินค้าขนาดจัมโบ้ ที่ช่วยลดข้อจำกัดการจัดส่งสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก หรือพัสดุที่มีรูปร่างพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาคุณภาพบริการที่มีมาตรฐานเดียวกันในทุกพื้นที่ ระบบเทคโนโลยีที่พร้อมรองรับตั้งแต่เริ่มรับฝาก – สิ้นสุดการนำจ่าย รวมทั้งโซลูชันความสะดวก เช่น การติดตามสถานะ บริการเรียกรับสิ่งของถึงหน้าบ้าน และเครือข่ายเพื่อนพี่ไปรฯ ที่เข้าถึงง่ายทั่วประเทศ สะดวก ใกล้บ้านทั่วทุกพื้นที่”
นายดนันท์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้เตรียมความพร้อมการดำเนินการเชิงรุก ทั้งการใช้ศักยภาพการปฏิบัติการของศูนย์ไปรษณีย์ที่มีอยู่ 19 แห่งทั่วทุกภูมิภาค เครื่องคัดแยกพัสดุ ที่มีประสิทธิภาพในการคัดแยกพัสดุได้ถึง 240,000 ชิ้นต่อวัน ทำให้การเตรียมนำจ่ายพัสดุในทุกพื้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็วตลอด 365 วัน การบริการรับฝากและนำจ่ายด้วยเครือข่ายพี่ไปรฯ กว่า 25,000 คนทั่วประเทศโดยไม่มีวันหยุด ขณะที่ยังมุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืน ผ่านการใช้ระบบดิจิทัล เช่น การให้บริการติดตามพัสดุ, บริการส่วนบุคคล, บริการกล่องจดหมายดิจิทัล, บริการ พรอมต์โพสต์ ล และ บริการ ดิจิทัลโพสต์ ไอดี ช่วยลดการกรอกข้อมูลซ้ำและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเสริมแกร่งการให้บริการในช่วงพีคซีซันที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วในปลายปีนี้
นอกจากนี้ในปีนี้ได้รับความเชื่อมั่นสูงถึง 97.92% เพิ่มขึ้นกว่า 6% จากปีก่อน ขณะที่ได้รับคะแนนความไว้วางใจ 98.26% เพิ่มจากเดิม 2.15% และคะแนนภาพลักษณ์ 95.76% สูงขึ้น 4.25% ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนบทบาทความเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ ที่ผู้ใช้บริการหลากหลายกลุ่มยังคงให้ความเชื่อมั่นอันดับหนึ่งต่อศักยภาพด้านคุณภาพการบริการ ระบบงาน ธุรกิจบริการดิจิทัล และการขับเคลื่อนกลยุทธ์ Parcel Defined Logistics ที่ออกแบบระบบขนส่งให้สอดคล้องกับพัสดุทุกประเภท รวมถึงยกระดับการสื่อสารและสร้างการรับรู้ ความเข้าใจที่มีต่อไปรษณีย์ไทย ผ่านกลยุทธ์ต่าง ๆ อาทิ การเดินหน้าส่งต่อ “พัสดุใจ” ซึ่งเป็นตัวแทนความห่วงใย เชื่อมโยงความรู้สึก ความหมายที่ดี และคุณค่าที่มอบถึงมือคนสำคัญ