โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

'บีดีไอ' เปิดวิสัยทัศน์ปี 2569 ขับเคลื่อนประเทศสู่ยุค 'เอไอ–ข้อมูล'

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนการใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ของประเทศมีภารกิจสำคัญในการวางโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลระดับชาติ เพื่อสนับสนุนการทำงานของภาครัฐให้มีความทันสมัย เชื่อมโยง และตอบสนองความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัล

แผนงานปี 2569 มุ่งพัฒนาระบบกลางที่ช่วยให้ข้อมูลจากหลายหน่วยงานสามารถเชื่อมโยง แลกเปลี่ยน และนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการวางแผนนโยบาย ยกระดับบริการสาธารณะและสร้างนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและ AI ตลอดจนผลักดันนวัตกรรม AI และการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

ภายใต้แนวคิดนี้ได้ออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มการเชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (ดีทู) หรือ Data Integration and Intelligence Platform (D2) ซึ่งเป็นพื้นที่กลางสำหรับการเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตร

โดยข้อมูลที่เชื่อมโยงสามารถนำไปใช้ประโยชน์จริง ทั้งในการพัฒนานโยบายแบบมุ่งเป้า การบริหารจัดการ และการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยข้อมูลและ AI อันเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่ แพลตฟอร์มนี้ยังสนับสนุนให้เกิดการใช้ข้อมูลร่วมกันอย่างเป็นระบบมีมาตรฐาน

พร้อมยกระดับความสามารถด้านการวิเคราะห์และการตัดสินใจของภาครัฐ โดยมีแผนดำเนินงานตามลำดับ ได้แก่ การออกแบบมาตรฐานการเชื่อมโยงข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานในปี 2568 การเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2569 และการต่อขยายบริการด้านปัญญาประดิษฐ์ในปี 2570

ส่วนด้านการเสริมขีดความสามารถของประเทศในการรับมือกับสถานการณ์วิกฤติ ชูแนวคิด “Digital Wall of Resilience” ในการพัฒนากรอบสถาปัตยกรรมข้อมูลและระบบบูรณาการข้อมูลระดับชาติ เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ การเตรียมพร้อมรับมือ และการบริหารจัดการภาวะวิกฤตภายใต้หลักธรรมาภิบาลข้อมูลที่เคร่งครัด

ทั้งด้านความมั่นคงปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ถือเป็นการเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศสามารถเผชิญภัยคุกคามข้ามพรมแดนในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นภัยความมั่นคง ภัยธรรมชาติ ภัยเศรษฐกิจ หรือสงครามการค้า โดยใช้องค์ความรู้ด้านข้อมูลเป็นฐานสำคัญในการคาดการณ์ ติดตาม และตอบสนองต่แสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที

แนวคิด Digital Wall of Resilience ไม่ใช่เพียงเครื่องมือด้านข้อมูล แต่เป็นระบบนิเวศความร่วมมือที่จะช่วยให้ประเทศเผชิญความเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ความมั่นคง และสังคมได้อย่างมีทิศทาง

สำหรับความก้าวหน้าของโครงการ ThaiLLM ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์ภาษาไทยแบบ Open Source / Open License ล่าสุดได้เผยแพร่โมเดลพื้นฐานขนาด 8B พารามิเตอร์ และโมเดลขนาด 30B พารามิเตอร์ ที่อัปโหลดเพิ่มเติมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนโมเดลขนาดใหญ่ที่สุดจะเปิดให้สาธารณะเข้าถึงภายในเดือนม.ค. 2569 โมเดลเหล่านี้ได้รับการฝึกด้วยข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนการพัฒนา นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับระบบนิเวศ AI ภาษาไทย ให้สามารถนำไปต่อยอดใช้งานในหลากหลายสาขา ขณะนี้มีหลายทีมเริ่มทดลองใช้งาน และคาดว่าจะเห็นผลลัพธ์รูปธรรมในเร็วๆ นี้

โดยจุดเริ่มต้นแรกของพัฒนาที่สำคัญ คือ โมเดลเฉพาะทางด้านการแพทย์สำหรับงานคัดกรองอาการ (Medical Screening) ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2569 พัฒนาโดยทีม ThaiLLM ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและโรงพยาบาลภาครัฐ ขณะที่แชตบอตรุ่นต้นแบบที่ใช้โมเดลนี้คาดว่าจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ระหว่างเดือนเม.ย.-พ.ค.2569

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...