โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

ผมเก็บตัวร้ายได้ที่ข้างทาง

นิยาย Dek-D

อัพเดต 10 พ.ค. 2567 เวลา 10.21 น. • เผยแพร่ 10 พ.ค. 2567 เวลา 10.21 น. • นปภา
ใช่ครับ ผมเก็บตัวร้ายในนิยายได้ ท่านหลิวคนนี้หล่ออย่างร้ายกาจแต่อำมหิตกว่าหนังหน้าหลายพันเท่า และเขาก็จะเป็นคนฆ่าผมตอนที่ 2,175

ข้อมูลเบื้องต้น

หลังจากขึ้นชั้นม.6 ได้ไม่นาน ถังชุนก็เริ่มฝันประหลาด เขาฝันถึงนิยายที่มีตัวเอกชื่อ ‘ถังคุน’ เหมือนพี่ชายตัวเองไม่มีผิด ส่วนถังชุนนั้นกลายเป็นตัวประกอบดีเด่น รับบทน้องชายผู้แสนจะอ่อนแอบอบบางของคุณพี่

ถังชุนไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าเป็นเพียงความฝัน แต่แล้วเหตุการณ์ในนิยายเรื่องนั้นก็เริ่มเกิดขึ้นในชีวิตจริง ทั้งรายละเอียดและช่วงเวลาล้วนตรงกันจนน่าขนลุก ถ้าปล่อยไว้ชะตากรรมของถังชุนคงไม่แคล้ว ‘ถูกตัวร้ายฆ่าตายในตอนที่ 2,175’

เพื่อหนีจากความตายถังชุนจึงรับเมล็ดพันธุ์แห่งโชคชะตาเข้ามาในร่าง เมล็ดพันธุ์นี้เชื่อมต่อกับระบบเจ้าพิภพ ในนิยายมันทำให้ถังคุนแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทว่าถังชุนกลับเจอของแรร์เข้าให้ แทนที่จะได้อาวุธกับทักษะต่อสู้ เขากลับได้สบู่กับทักษะเย็บผ้า

ไม่เพียงแต่จะปั้นหนุ่มม.ปลายให้กลายเป็นสาวโรงงาน ระบบยังมอบภารกิจให้ถังชุนเก็บคนแปลกๆ กลับบ้านอีก พอฟื้นขึ้นมาหนุ่มหล่อที่มีออร่าความอันตรายแผ่พุ่งก็หันมาคุกคามทันที

“นี่เจ้าแกะน้อย รู้ไหมว่าตอนนี้ฉันกำลังหิวมาก เลือกเอาว่าจะหาอะไรมาให้กินหรือถูกจับกินเอง”

เอาแล้วโว้ย! งานเข้าครั้งใหญ่ นี่เพิ่งจะต้นเรื่องเองนะ ทำไมมีฉากพลีกาย เอ๊ย! เสี่ยงตายแล้วล่ะ

พบกับเล่ม 1 ในรูปแบบ Ebook ได้แล้ววันนี้ (บทที่1-22)

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDYyOTcxIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTQxNTgwIjt9

Ebook เล่ม 2 (บทที่ 23-43)

http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDYyOTcxIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO2k6MTQ0MjYwO30

Ebook เล่ม 3 (บทที่ 44-63)

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDYyOTcxIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTQ3NjcwIjt9

Ebook เล่ม 4 (บทที่ 64-83)

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDYyOTcxIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTUyOTk4Ijt9

Ebook เล่ม 5 (บทที่ 84-103)

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDYyOTcxIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTU4NTAzIjt9

หมายเหตุ 1 ลงจบนะคะ เปิดให้อ่านเล่ม 1 ฟรีตลอดกาลครึ่งเล่ม หลังจากนั้นพอลงแล้วจะทยอยติดเหรียญค่ะ (เปิดฟรี 1-3 วัน) กดติดตามไว้จะได้ไม่พลาดนะคะคนดี

หมายเหตุ 2 รูปเล่มไม่มีนะคะ มีแต่ Ebook ค่ะ

หมายเหตุ 3 จากที่เคยแจ้งไว้ว่ามีประมาณ 10-12 เล่มจบ อาจมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนเล่มตามความเหมาะสมของเนื้อหานะคะ ต้องขออภัยที่ตอนนี้ยังไม่สามารถกำหนดจำนวนเล่มที่แน่นอนได้ ถ้าต้นฉบับเสร็จเรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบทันทีค่ะ

หมายเหตุ 4เนื้อหาเล่ม 1 บทที่ 1 - 22
เนื้อหาเล่ม 2 บทที่ 23 - 43
เนื้อหาเล่ม 3 บทที่ 44 - 63
เนื้อหาเล่ม 4 บทที่ 64 - 83
เนื้อหาเล่ม 5 บทที่ 84 - 103
เนื้อหาเล่ม 6 บทที่ 104 - 123
เนื้อหาเล่ม 7 บทที่ 124 - 141
เนื้อหาเล่ม 8 บทที่ 142 - 159
เนื้อหาเล่ม 9 บทที่ 160 - 176 เนื้อหาเล่ม 10 บทที่ 177 - 193เนื้อหาเล่ม 11 บทที่ 194 - 211เนื้อหาเล่ม 12 บทที่ 212 - 229เนื้อหาเล่ม 13 บทที่ 230 - 247เนื้อหาเล่ม 14 บทที่ 249 - 265
เนื้อหาเล่ม 15 บทที่ 266 - 283

** 20 เล่มจบ โดยประมาณ (อาจมีการปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมหากจำนวนเนื้อหาไม่สอดคล้องกับจำนวนเล่ม)
ถ้าชอบหรือถูกใจฝากกดไลค์แฟนเพจให้ด้วยค่ะ

บทที่ 1 ความฝันประหลาด (1)

“ถังชุน…นี่ถังชุน ตื่นได้แล้ว!” จางอวี่เอ่ยกับลูกศิษย์ที่กำลังฟุบหลับ

เสียงหัวเราะดังขึ้นเมื่อถังชุนยังนอนนิ่งไม่ไหวติง ขนาดเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ มีน้ำใจช่วยเขย่าแขนปลุกก็ยังไม่รู้สึกตัว

ปกติถังชุนไม่ใช่เด็กเหลวไหล เขามักเลือกที่นั่งด้านหน้าและตั้งใจเรียนเสมอ ความผิดปกตินี้ทำให้จางอวี่ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำชั้นต้องเดินเข้าไปดูใกล้ๆ

“ถังชุน…ไม่สบายหรือเปล่า” อาจารย์สาวถามด้วยความห่วงใย

ขณะที่กำลังเอื้อมมือไปแตะหน้าผาก อยู่ๆ คนที่ฟุบหลับก็ลุกพรวดขึ้นมาจากโต๊ะ แล้วพ่นประโยคภาษาอังกฤษออกมายาวเหยียด

“สำเนียงดี แต่ช่วยมีสติหน่อย ลืมแล้วหรือไงว่าครูสอนฟิสิกส์” จางอวี่ส่ายหน้า

ถังชุนได้แต่ยืนเอ๋อทำหน้าเหลอหลา พอเห็นอาจารย์จางอยู่ตรงหน้า เขาก็รีบเช็ดคราบน้ำลายแล้วยิ้มแห้งสร้างเสียงหัวเราะให้ดังขึ้นอีกครั้ง

“ขอโทษครับ” ถังชุนก้มศีรษะลงด้วยความอาย ไม่คิดฝันว่านักเรียนดีเด่นอย่างเขาจะต้องมาเสียประวัติเพราะเผลอหลับในห้อง

ถ้าเป็นเด็กคนอื่นจางอวี่คงอดบ่นไม่ได้ว่าให้เริ่มจริงจังได้แล้ว ตอนนี้ทุกคนเป็นนักเรียนชั้นม.6 เหลือเวลาเตรียมสอบอีกไม่มาก เก้าเดือนนั้นเหมือนอึดใจ ถึงเวลามานั่งเสียใจก็สายไปแล้ว แต่เนื่องจากถังชุนตั้งใจเรียนเสมอมา อาจารย์สาวจึงตำหนิเพียงสองสามคำ แล้วเรียกให้มาทำโจทย์หน้าห้อง

ถังชุนกวาดตามองกระดานดำ อึดใจก็หยิบชอล์กขึ้นมาเขียนสูตรฟิสิกส์และแสดงวิธีทำอย่างคล่องแคล่ว เขาเรียนด้วยตัวเองจนจบหลักสูตรไปนานแล้ว ต่อให้เผลอหลับตอนต้นคาบก็ไม่เป็นปัญหา

“ถูกต้อง” จางอวี่บอกให้ถังชุนกลับไปนั่งที่ แล้วเริ่มสอนต่อ

ถังชุนถอนใจอย่างโล่งอกที่รอดมาได้ แม้ตอนหมดคาบจะถูกเรียกให้ไปคุย แต่ก็เป็นการตักเตือนด้วยความปรารถนาดี

“ถึงวิชาภาษาอังกฤษของเธอจะไม่ดีเท่าวิชาอื่น แต่ก็ไม่ได้แย่เลย อย่าฝืนตัวเองจนละเลยสุขภาพล่ะ เกิดล้มหมอนนอนเสื่อขึ้นมา ที่พยายามมาตลอดก็ไร้ความหมาย”

ถังชุนรับคำอย่างว่าง่าย อาจารย์จางคงคิดว่าเขาอดตาหลับขับตานอนพยายามเรียนอย่างหนัก ทั้งที่ความจริงช่วงนี้เขาแทบไม่ได้อ่านหนังสือเลย หัวถึงหมอนก็หลับทันที สาเหตุที่คะแนนภาษาอังกฤษดีขึ้นเพราะความฝันในระยะนี้

ความฝันประหลาดเริ่มต้นเมื่อสัปดาห์ก่อนตอนที่ถังชุนแกล้งป่วย แม้จะเรียนดีแต่เนื้อแท้ถังชุนไม่ใช่คนขยัน ที่ตั้งใจเรียนอย่างเอาเป็นเอาตายก็เพื่อกรุยทางไปสู่อนาคตที่สุขสบายเท่านั้น เขาใฝ่ฝันว่าจะได้เกษียณอายุในวัยสี่สิบ แล้วนอนกลิ้งเกลือกทั้งวัน โดยไม่ต้องห่วงเรื่องการกินอยู่ แต่การมุ่งสู่จุดหมายโดยไม่หยุดพักเลยไม่ใช่วิถีของถังชุน เขาจึงหาเรื่องอู้พอให้ชุ่มชื่นหัวใจ โดยใช้สถานะนักเรียนดีเด่นยึดครองเตียงในห้องพยาบาลแบบเนียนๆ วันไหนขี้เกียจก็แกล้งป่วย เพื่อจะได้นอนอย่างสบายอุรา แถมตื่นมายังได้กินขนมอร่อยๆ

วันนั้นถังชุนจำได้แม่นว่าไม่ได้ทำอะไรผิดแผกไปจากเดิม พอทิ้งตัวลงนอนเขาก็เริ่มหลับฝัน ในฝันถังชุนได้พบกับเด็กชายตัวเล็กๆ ที่มีชื่อว่า ‘เหยียนเล่อ’ เด็กคนนี้เกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง มีพ่อแม่เป็นอาจารย์ทั้งคู่ ความที่แม่ของเหยียนเล่อสอนวิชาภาษาอังกฤษ เด็กน้อยจึงมีใจรักในภาษา ตรงกันข้ามกับถังชุน ที่ชีวิตเหมือนมีภาษาอังกฤษเป็นยาขม

ในความฝันเหยียนเล่อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แม้ภาพเหตุการณ์จะไหลไปค่อนข้างเร็ว ถังชุนก็ยังได้เพลิดเพลินไปกับเรื่องราว หลายฉากเรียบง่ายแต่ก็ทำให้อบอุ่นหัวใจ อย่างตอนที่เหยียนเล่อสอบได้คะแนนไม่ดี พ่อแม่ก็ไม่ได้ตำหนิเขา เพียงแต่พูดว่า

“พ่อไม่สนใจตัวเลขพวกนี้หรอก ถ้าลูกพอใจและคิดว่าทำดีแล้วพ่อก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าลูกรู้สึกไม่ดีหรือต้องการความช่วยเหลือ ก็บอกพ่อกับแม่ได้นะ เราสองคนจะอยู่ตรงนี้คอยรับฟังลูก”

ต่อจากนั้นก็ไม่มีคำปลอบใจใดๆ อีก มีแต่น้ำตาของเด็กชายที่ไหลเอ่อ

‘เจ้าหนูนี่โชคดีจริงๆ’ถังชุนอดคิดไม่ได้

พูดกันตามตรงชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ค่อยดีนักแม้จะเกิดในครอบครัวร่ำรวย แต่กลับเต็มไปด้วยความกดดัน ต่อให้สอบได้คะแนนสูงก็ยังถูกต่อว่าว่าทำไมไม่ได้คะแนนเต็ม บ้านตระกูลถังปลูกฝังแต่คำว่า ‘ต้องเป็นที่หนึ่ง’ด้อยกว่านั้นถือว่าเป็นไอ้ขี้แพ้บ่อยครั้งที่เขาถูกหยิกตีด้วยเรื่องผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อย่างเขียนหนังสือไม่สวยหรือมีกิริยาไม่สำรวม

ตอนยังเด็กและไร้เดียงสาถังชุนเชื่อว่าทั้งหมดที่แม่ทำไปเกิดจากความรักและปรารถนาดี ทั้งที่ความจริงไม่มีอะไรมากไปกว่าความเห็นแก่ตัว

เรื่องเริ่มต้นจากการที่พ่อมีภรรยาหลายคน พ่อรักภรรยาคนแรกที่สุดแต่ต้องแอบอยู่กินกันเพราะผู้ใหญ่ไม่เห็นชอบ ส่วนภรรยาคนที่สองมาจากตระกูลที่มั่งคั่ง พ่อแต่งงานกับเธอเพื่อผลประโยชน์ จึงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้ไม่นาน หลังจากที่ให้กำเนิดลูกสาวเธอก็ขอหย่าขาด แล้วพาลูกไปอยู่ต่างประเทศ ถังชุนจึงไม่เคยพบหน้าพี่สาวต่างแม่เลย แม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้

ส่วนแม่ของถังชุนเป็นภรรยาคนที่สาม ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นบ้านเล็กมาก่อน แม่มีหน้ามีตาขึ้นมาได้เพราะให้กำเนิดเขา ทว่าความสุขของแม่กลับคงอยู่ได้ไม่นาน พ่อพาลูกซึ่งเกิดจากภรรยาคนแรกมาอยู่ในบ้าน เพราะแม่เด็กเสียชีวิต

‘ถังคุน’ หรือพี่ใหญ่อายุมากกว่าถังชุนสี่ปี ตามหลักทรัพย์สินของตระกูลต้องส่งต่อให้ลูกชายคนโต ทว่าแม่กลับอยากให้ถังชุนได้เป็นผู้สืบทอด จึงบังคับให้เรียนอย่างหนัก ไม่ว่าเรื่องไหนก็ห้ามแพ้พี่ใหญ่เด็ดขาด ส่วนพ่อแม้จะรักแม่ของพี่ใหญ่มาก แต่ก็ให้ค่าคนที่ความสามารถ เมื่อพบว่าลูกชายคนโตไม่มีอะไรโดดเด่น ก็เริ่มไม่ใส่ใจ ไม่นานพี่ใหญ่ก็ถูกทอดทิ้ง ในขณะที่เขาถูกเคี่ยวกรำสารพัด

ถังชุนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลูกโป่งที่ถูกอัดลมจนเต็ม เขาเฝ้าคิดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าอยากให้พ่อกับแม่หายไป แล้ววันหนึ่งความคิดของเขาก็กลายเป็นความจริง ในปีที่ถังชุนขึ้นชั้นม.3 พ่อกับแม่ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พวกท่านจากไปโดยไม่มีคำร่ำลาหรือข้อความสั่งเสียใดๆ

‘โล่งใจ เสียใจ เคว้งคว้าง รู้สึกผิด’

อารมณ์เหล่านี้วนเวียนมาเยี่ยมเยียนถังชุนตลอดเวลาจนเขาแทบบ้า เหตุการณ์ช่วงนั้นเหมือนเป็นภาพเบลอ ไม่ทันหายเศร้าบ้านที่เคยอยู่ ทรัพย์สินที่เคยมีก็ถูกขายเพื่อใช้หนี้ที่พ่อกู้มาลงทุน ญาติมิตรที่เคยมีอย่างอุ่นหนาฝาคั่งกลับหนีหาย พวกเขาสองพี่น้องเหลือเพียงของดูต่างหน้าไม่กี่ชิ้นกับเงินประกันชีวิตของพ่อกับแม่ พี่ใหญ่เลยตัดสินใจพาเขาย้ายจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ แล้วมาเริ่มต้นใหม่ที่เมืองนี้

ในขณะที่ถังชุนกำลังเปรียบเทียบครอบครัวตัวเองกับเหยียนเล่อ ข่าวร้ายก็มาเยี่ยมเยือนตระกูลเหยียน พ่อของเหยียนเล่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง มันลุกลามอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงครึ่งปีชายผู้แสนดีก็จากไป ตอนนี้ทั้งถังชุนและเหยียนเล่อต่างก็เป็นกำพร้า จะต่างก็ตรงเหยียนเล่อยังเหลือแม่เป็นที่พึ่งพิง

เหตุการณ์ถูกตัดจบเมื่อถังชุนตื่น เขาหลับไปสามชั่วโมงเต็มแต่กลับไม่รู้สึกสดชื่นเลย เนื่องจากถังชุนกับตัวละครในฝันเสียพ่อไปในวัยเดียวกัน เขาเลยคิดว่ามันเกิดจากจิตใต้สำนึกเลยไม่สนใจอีก ทว่าคืนนั้นถังชุนกลับฝันถึงเรื่องราวของเหยียนเล่อต่อ เขาฝันแบบนี้ทุกคืนและมักสะดุ้งตื่นกลางดึกเสมอ

ในฝันเหยียนเล่อเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพียงหนึ่งสัปดาห์คนในฝันก็กลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย สิ่งที่เหยียนเล่อเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางด้านวิชาการหรือทักษะต่างๆ ถังชุนได้รับมากว่าครึ่ง ที่เห็นได้ชัดคือทักษะภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะฟัง พูด อ่าน เขียน ล้วนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด บางครั้งก็มีความสามารถใหม่โผล่มา เช่นอยู่ๆ ก็ซ่อมหม้อหุงข้าวได้ ทั้งที่เมื่อก่อนแค่ซื้อหลอดไฟมาเปลี่ยนยังซื้อผิด

เนื่องจากไม่อยากถูกหาว่าบ้าและเห็นว่าเจ้าฝันนี่ส่งผลดีมากกว่าผลเสีย ถังชุนจึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ โชคดีอีกอย่างคือความฝันประหลาดไม่ได้รบกวนเขาบ่อยนัก มันมาแค่วันละครั้ง และมักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน นอกจากนี้ระยะหลังก็เหมือนจะฝันสั้นลงด้วย ถังชุนเลยรีบกินอาหารเที่ยงแล้วงีบหลับ เพื่อชดเชยเวลานอนที่หายไป

สาเหตุที่วันนี้ง่วงนอนตอนบ่าย เป็นเพราะถูกเว่ยเหวินเป่าลากออกไปกินข้าวนอกโรงเรียน เจ้าเพื่อนบ้าเลือกร้านที่อยู่ไกลลิบ ขากลับเลยต้องวิ่งกันตาเหลือก ไม่เพียงไม่ได้นอนพัก พลังงานของทั้งวันยังถูกใช้ไปเกินครึ่งหลอด คิดถึงไม่ทันไรตัวการทำให้ประวัตินักเรียนดีเด่นด่างพร้อย ก็มาตะโกนโหวกเหวกที่ประตูห้อง

“ชุนโดดเรียนช่วงค่ำกันเถอะ” เว่ยเหวินเป่าพูดเสียงดังแบบไม่เกรงใจใคร

โรงเรียนของเขาวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดีมีคาบเรียนตอนเย็นถึงสามทุ่ม โดยจะให้พักช่วงห้าโมงถึงหกโมงครึ่ง นักเรียนส่วนใหญ่เลยใช้เวลาช่วงนี้ไปกินอาหารเย็นไม่ก็เล่นกีฬา แต่สำหรับพวกเด็กสายวิทย์ห้องพิเศษอย่างถังชุน จะมีเวลาพักแค่สิบนาที ต้องเรียนอีกคาบหนึ่งก่อนถึงจะได้พักกินข้าว นักเรียนส่วนใหญ่จึงยังอยู่กันครบ

“ชุนโว้ย!…ได้ยินไหม” เว่ยเหวินเป่าเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นอีก

หนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้มีภาพลักษณ์ของเด็กเกเรคนนี้ไม่แคร์ใครอยู่แล้วขนาดพวกที่นั่งอยู่ตรงประตูพากันกลัวจนถอยห่างก็ยังไม่สังเกต

“อย่าเสียงดังรบกวนคนอื่น”ถังชุนดุ

เพื่อนในห้องเห็นถังชุนกล้าเผชิญหน้าก็ชื่นชมผสมกริ่งเกรง ปกติถังชุนจะเป็นคนเงียบๆ ดูไม่มีพิษภัย หากไม่รู้จักก็จะเข้าใจว่าเป็นแค่เด็กเรียนคนหนึ่ง แต่ความจริงแล้วเขาเป็นเสือซ่อนเล็บ ไม่อย่างนั้นคงพูดกับเจ้าพ่อคุมโรงเรียนอย่างเป็นกันเองไม่ได้

หากถังชุนได้ยินความคิดของเพื่อนร่วมชั้นคงกรีดร้องในใจเสียงดัง เสือซ่อนเล็บอะไรกัน เสือไม่มีเล็บต่างหาก ตัวเขาน่ะกีฬาห่วย ต่อยตีก็ไม่เป็น นอกจากวิถีชีวิตประหยัดพลังงานกับเป้าหมายเกษียณสุขสันต์ ก็ไม่เคยนึกถึงสิ่งอื่น ที่ดูสนิทกับเว่ยเหวินเป่าเพราะเรียนม.ต้นที่เดียวกัน อีกทั้งฝ่ายนั้นยังเป็นคนเข้าหาก่อน

เนื้อแท้เว่ยเหวินเป่านิสัยไม่แย่เลย เขาแค่เกิดมาตัวโตไปหน่อย หน้าตากวนส้นไปนิด เลยถูกหาเรื่องเป็นประจำ ความที่เจ้าตัวมีนิสัยต่อยมาต่อยกลับไม่โกง ขาใหญ่ในโรงเรียนที่มาท้าไฟต์เลยโดนเก็บเรียบ ขาใหญ่นอกโรงเรียนก็ล้วนมีชะตาไม่ต่างกัน รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็น ‘ลูกพี่เว่ย’ที่มีสมุนนับร้อยไปแล้ว

“ก็นายห้ามฉันเข้าไปนี่”

เว่ยเหวินเป่าอยู่คนละห้องแต่ชอบมาป่วนประจำ ก็เลยถูกยื่นคำขาดห้ามไม่ให้เข้ามากวนในห้องเรียน ถังชุนถอนใจเฮือกหนึ่ง ก่อนดึงแขนเพื่อนออกไปคุยกันที่ชานพักบันได

“พูดมาว่าชวนกลับก่อนนี่ต้องการอะไร”

“ได้ข่าวว่าวูบตอนเรียนก็เลยเป็นห่วง นี่ลงทุนเรียกให้รถมารับเชียวนะ”

ถังชุนฟังแล้วอยากแก้ต่างว่าเขาแค่เผลอหลับไม่ใช่วูบ แต่ถ้าอธิบายเรื่องจะออกนอกประเด็นไปใหญ่ ถังชุนจึงเอ่ยเสียงเข้ม

“อยากได้อะไรก็ว่ามา”

เว่ยเหวินเป่าฉีกยิ้มประจบเมื่อถูกจับไต๋ได้

“ไปล่าผีกัน”

“หา!”

บทที่ 1 ความฝันประหลาด (2)

“คืองี้…” เว่ยเหวินเป่ารีบพูดก่อนจะโดนด่า “ที่เขากู่ซานน่ะ มีคนพบแสงไฟแปลกๆ ตอนกลางคืน สกู๊ปเด็ดแบบนี้ก็ต้องให้ชิงชิงไปไลฟ์สดสักหน่อยใช่ไหมล่ะ แต่ผู้หญิงคนเดียวไปกลางค่ำกลางคืนคนเดียวมันก็อันตราย ฉันเลยว่าจะ…”

“พูดให้เข้าประเด็น อย่าเวิ่นเว้อ” ถังชุนดุ

“ฉันอยากให้นายไปออกไลฟ์สดของชิงชิง” เว่ยเหวินเป่าสารภาพ

ชิงชิงหรือหวังชิงคือแฟนสาวของเว่ยเหวินเป่า เธอมีงานอดิเรกคือไลฟ์สดชีวิตประจำวันของตัวเอง ซึ่งก็ได้รับความนิยมจนได้ค่าขนมมาพอควร ทว่าช่วงหลังความนิยมของเธอเหมือนจะตกลง เพราะเว่ยเหวินเป่าดันเอาหน้าโหดๆ ไปโผล่ในไลฟ์สดของเธอ พอมีคนไปปล่อยข่าวว่าเขาเป็นลูกคนรวยนิสัยเลว หวังชิงจึงเจอกระแสโจมตีว่าคบผู้ชายเพราะเงิน บางคนก็เข้ามาด่าด้วยถ้อยคำแรงๆ หวังชิงไม่โทษแฟนหนุ่ม แต่ก็เลิกไลฟ์สดไปพักใหญ่ แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ถังชุนรู้อยู่แล้ว เพราะเว่ยเหวินเป่าเอาแต่พร่ำพูดว่าเป็นห่วงตลอดมื้อกลางวัน

“ถ้าขาดคนก็ให้พวกลูกน้องนายไปสิ” ถังชุนบอกปัด

“เอาไอ้พวกนั้นไปมีหวังคนดูได้หายหมด ใช้หน้าตานายกู้ภาพลักษณ์ให้หน่อยสิ พวกแฟนคลับจะได้คิดว่าที่รักของชิงชิงก็มีเพื่อนดีๆ เหมือนกัน”

บรรดาเพื่อนฝูงไม่มีใครแผ่ออร่าคนดีได้เท่าถังชุนอีกแล้ว ต่อให้ไม่มีแว่นตาเป็นพร็อพประกอบก็ยังให้ความรู้สึกว่าเป็นเด็กเรียน

“ฉันไม่ว่าง” ถังชุนปฏิเสธอย่างหนักแน่น

“ไม่เอาน่า ช่วยหน่อยเถอะนะ ให้คุกเข่าก็ยอม”

เว่ยเหวินเป่าตรงเข้ามาเกาะแข้งเกาะขา แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรถังชุนก็ไม่ใจอ่อน คนที่สิ้นไร้หนทางจึงใช้เงินแก้ปัญหา

“หนึ่งพันจ่ายสด ถ้าไลฟ์ประสบความสำเร็จโบนัสอีกเท่าตัว”

“อย่าคิดจะซื้อฉัน” ถังชุนชักสีหน้าใส่

เว่ยเหวินเป่ามองหน้าเพื่อนแล้วก็เสียใจที่ปากไว ถังชุนมักพูดเสมอว่ามิตรภาพไม่ควรมีเงินทองมาข้องเกี่ยว เลยมักโกรธเวลาที่เขาออกค่าอาหาร หรือจ่ายเงินซื้อของแพงๆ ให้โดยไม่มีเหตุผล

“ฉันขอโทษ นี่แน่ะๆ ไอ้คนปากพล่อย” เว่ยเหวินเป่าตบปากตัวเองรัวๆ

“พอๆ เดี๋ยวคนก็เข้าใจผิดแล้วเอาไปลืออีก”

เพราะมาคบไอ้เจ้าบ้านี่แหละ คนอื่นเลยพลอยหลีกเลี่ยงเขาไปด้วย มีแม้กระทั่งข่าวลือว่าเขาอยู่เบื้องหลังกลุ่มอำนาจในโรงเรียน ดีว่าคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อ เรื่องเลยเงียบไป ถังชุนไม่รู้เลยสักนิดว่าที่เงียบไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่เป็นเพราะเชื่อสนิทใจต่างหาก ไม่อย่างนั้นคงไม่มอบฉายา ‘บอสลับ’ ให้

“นายหายโกรธแล้วใช่ไหม” เว่ยเหวินเป่ามองมาด้วยสายตาของลูกหมาน้อย

“อืม”

ถังชุนแกล้งโกรธไปอย่างนั้นเอง เพราะไม่อยากสิ้นเปลืองพลังงานไปกับเกมล่าท้าผีอะไรนั่น ที่จริงก็อยากได้เงินอยู่หรอก พันหยวนน่ะไม่น้อยเลยนะ ซื้อวัตถุดิบดีๆ ไว้ทำกับข้าวได้ตั้งครึ่งเดือน แต่ถ้ารับมาก็คงคบหากันอย่างสนิทใจไม่ได้อีกแม้ตอนนี้จะเป็นยาจกตกยาก ถังชุนก็ยังมีศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่

เมื่อได้รับการให้อภัยเจ้าหมาน้อยเหวินเป่าก็ยิ้มร่า ทำท่าเหมือนกำลังกระดิกหาง แต่สักพักก็หูลู่หางตกด้วยคิดได้ว่าปัญหาของคนรักยังไม่ได้รับการแก้ไข พอเห็นเพื่อนหน้าจ๋อยถังชุนก็อดใจอ่อนไม่ได้

“เรื่องล่าผีนี่เจ้าพวกนั้นเป็นคนคิดใช่ไหม” เจ้าพวกนั้นหมายถึงบรรดาลูกสมุนของเว่ยเหวินเป่า “คงบอกละสิว่าถ้ามีอะไรโผล่มา นายจะได้ปกป้องชิงชิงเพื่อเรียกเรตติ้ง”

“รู้ได้ไง” เว่ยเหวินเป่าทำท่าว่าเซอร์ไพรส์จัด

ถังชุนกลอกตามองบน ไอ้คอนเทนต์สั่วๆ แบบนี้มีแต่ไอ้บ้าพวกนั้นแหละที่คิดได้ บนเขากู่ซานไม่มีสัตว์ร้ายแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสัตว์มีพิษ ไหนจะความมืด ทางชัน แล้วยังเป็นสถานที่ร้างผู้คนอีก เผลอๆ ไม่ทันได้ล่าผี ได้กลายเป็นผีเอง

“หวังชิงยังไม่รู้ใช่ไหม” ถังชุนถาม

เว่ยเหวินเป่าพยักหน้ารับ พอเจ้าพวกนั้นช่วยออกความคิดเขาก็วิ่งมาหาถังชุนเลย

“เอาอย่างนี้ ฉันจะช่วยคิดคอนเทนต์ให้ ถ้านายจะโดดก็พาหวังชิงไปรอที่ห้องสมุดก่อน เลิกเรียนแล้วค่อยเจอกัน”

บอกไว้ก่อนเลยนะว่าเขาไม่ได้ใจดี แล้วก็ไม่ได้อยากทำไอ้เรื่องเปลืองพลังงานพรรค์นี้ด้วย ที่ยอมช่วยเพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลายจนวุ่นวายต่างหาก

“ได้ๆ ขอบใจนะชุน” ว่าแล้วก็โผเข้ามากอด

ถังชุนเบี่ยงตัวหลบตามความเคยชิน แถมเตะก้นด้วยความหมั่นไส้อีกหนึ่งที เว่ยเหวินเป่าไม่นึกโกรธ เขาส่งยิ้มโง่ๆ ที่ดูน่ากลัวในสายตาคนอื่นให้ แล้วเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี

ถังชุนกลับไปเรียนได้ทันก่อนที่อาจารย์จะเริ่มสอน พอถึงช่วงพักก็ฝืนยัดอาหารลงท้องไปมากหน่อย จะได้ไม่หิวตอนดึก ระหว่างกินก็คิดหัวข้อให้หวังชิงชิงไลฟ์สดไปด้วย ถังชุนไม่ชอบเล่นโซเชียล ตรงข้ามกับเหยียนเล่อที่ติดสังคมออนไลน์และเสพความบันเทิงหลากหลาย ถังชุนเลยได้ไอเดียจากคนในฝันว่าคอนเทนต์ยอดฮิตบางทีก็เรียบง่ายผิดคาด

บังเอิญหัวข้อที่คิดได้เหมาะกับห้องสมุดพอดี เขาเลยส่งข้อความไปบอกเว่ยเหวินเป่าให้จองที่ในส่วนที่ใช้เสียงได้ จากนั้นก็กลับไปเรียนโดยไม่นึกถึงเรื่องล่าท้าผีอีก ใครจะคิดว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน ถังชุนจะต้องเป็นฝ่ายชวนเว่ยเหวินเป่าขึ้นเขาไปด้วยกัน

บทที่ 2 ติวเตอร์ถัง (1)

พอเลิกเรียนถังชุนก็แวะซื้อกาแฟกระป๋อง แล้วเดินเนือยๆ ออกมา แค่คิดว่าต้องเดินไกลกว่าปกติก็เซ็งแล้ว ดีที่เว่ยเหวินเป่ารู้งาน สั่งให้ลูกน้องขี่รถสกู๊ตเตอร์มารับ ถังชุนเลยอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย

ห้องสมุดที่ถังชุนนัดเจอกับเว่ยเหวินเป่าอยู่ห่างจากโรงเรียนไปประมาณสามร้อยเมตร ความที่รอบบริเวณรายล้อมด้วยสถานศึกษาจึงเปิดให้บริการดึก พวกหนังสือดีๆ กับสื่อการเรียนการสอนก็มีเยอะ ช่วงปิดภาคเรียนถังชุนเลยมาขลุกอยู่ที่นี่สัปดาห์ละหลายวัน

ถังชุนไปถึงห้องสมุดตอนสามทุ่มสิบแปดนาที ตอนนี้ยังเพิ่งต้นเทอมจึงมีผู้คนอยู่ประปราย ข้อดีคือไม่แออัด ส่วนข้อเสียคือห้องประชุม ห้องคอมพิวเตอร์ ตลอดจนพื้นที่สันทนาการจะปิดให้บริการตั้งแต่หัวค่ำ ถังชุนเพิ่งนึกได้เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ยังไม่ทันโทรออกก็มีข้อความเด้งขึ้นมาก่อนว่าอยู่ที่ห้องอ่านนิทาน พื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องกระจก อยู่ติดกับโถงใหญ่ตรงทางเข้า มองตรงไปก็เห็นเลย

เว่ยเหวินเป่าโบกมือเรียกหย็อยๆ ส่วนหวังชิงส่งยิ้มหวานให้ เธอคนนี้เป็นสาววัยสิบแปดที่สวยสดใส เอกลักษณ์บนใบหน้าคือดวงตาสีน้ำตาลกลมโตกับแก้มป่องๆ น่าหยิก

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเสี่ยวชุน” หวังชิงทักทายอย่างร่าเริง

หวังชิงชอบทำตัวเป็นพี่สาวเพราะถือว่าอายุมากกว่า แม้จะเรียนอยู่ชั้นม.6 เหมือนกันแต่เกิดกันคนละปี ตามกฎกระทรวงใครที่เกิดหลัง 1 กันยายน จะต้องเข้าเรียนในปีถัดไป ถังชุนเกิดวันที่ 1 กันยายนพอดี เลยได้เลือกว่าจะเข้าเรียนเลยหรือรอปีหน้า ครอบครัวของเขาเลือกอย่างแรก ถังชุนเลยกลายเป็นน้องเล็กในชั้นตลอดกาล

“เธอสบายดีนะ”

“ก็อย่างที่เห็น ช่วงนี้นอนเต็มอิ่ม ผิวก็เลยใสเด้งสุดๆ ว่าแต่….” หวังชิงเอียงคอมองอย่างพิจารณา “ไปทำอะไรมาน่ะ ผิวใสกริ๊งเลย เนียนจนน่าอิจฉา” ว่าแล้วก็อดที่จะเอานิ้วจิ้มแก้มไม่ได้

หวังชิงโตที่ต่างประเทศทั้งยังเรียนในโรงเรียนนานาชาติเลยไม่ถือสาเรื่องหยอกล้อจับเนื้อต้องตัวเพื่อนต่างเพศ ช่วงแรกที่คบกันกับเว่ยเหวินเป่า ฝ่ายชายเลยได้หึงหน้ามืดทุกวัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะหวังชิงบอกชัดว่าเธอเป็นคนแบบนี้ ถ้าเขาไม่ไว้ใจก็เลิกกันไปซะ เว่ยเหวินเป่าเลยต้องปรับตัว หวังชิงเองก็ยอมลงให้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะสัญญาใจข้อสำคัญว่าจะไม่จับถังชุนมาฟัดเพราะความมันเขี้ยว

เว่ยเหวินเป่าไว้ใจทั้งแฟนสาวและถังชุน ที่ไม่ชอบให้จับเนื้อต้องตัวกันมากเกินไปเป็นเพราะรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม เขาน่ะเป็นเพื่อนซี้เพียงหนึ่งเดียวของถังชุนเชียวนะ แค่โอบบ่านิดหน่อยยังถูกบ่น ดังนั้นต่อให้เป็นสุดที่รักก็ห้ามฉวยโอกาส

ถังชุนได้รับความเอ็นดูอย่างล้นเหลือเพราะโตช้ากว่าคนอื่น ความที่เกิดมาผอมบางหน้าสวยแถมไม่ค่อยสูง ตอนม.ต้นเลยถูกเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงบ่อยๆ ดีหน่อยที่พออยู่ ม.5 ร่างกายก็เริ่มเปลี่ยนแปลง เขาสูงขึ้นเกือบหนึ่งฟุต ใบหน้าเริ่มมีไรหนวดขึ้นมาบางๆ ถึงจะบางมากจนแทบมองไม่เห็นก็ยังนับว่ามี เจ้าตัวเลยมั่นใจไร้สติว่าได้รับการปลดแอกแล้ว

“แน่ะ…ทำเงียบ สารภาพกับพี่สาวมาเดี๋ยวนี้ว่าใช้ครีมอะไร” หวังชิงยังสงสัยไม่เลิก

“ไม่ได้ทำอะไรนี่” ตอบพลางเอียงศีรษะหลบนิ้วมือ

“น่าอิจฉาเกินไปแล้ว” หวังชิงทำแก้มป่อง เธอดูแลตัวเองแทบตายสิวยังขึ้น โลกช่างไม่ยุติธรรมเลย

“โลกนี้ไม่เคยยุติธรรมหรอก” ถังชุนเอ่ยเสียงเรียบราวกับอ่านใจได้

“อย่ามาใช้พลังจิตกับฉันนะ” หวังชิงเล่นมุกด้วยการทำท่าขนลุก

เว่ยเหวินเป่าปล่อยให้ทั้งคู่คุยกันไป ส่วนตัวเองเดินไปหยิบเบาะรองนั่งที่มุมห้องมาให้ถังชุนอย่างเอาใจ พอนั่งลงแล้วถังชุนก็บอกหัวข้อที่จะไลฟ์สด

“ฉันจะสอนหนังสือเหวินเป่า”

“แล้วยังไงต่อ” เว่ยเหวินเป่าถาม

“แค่นี้แหละ”

“แค่นี้!”

คนที่คาดหวังเอาไว้มากหน้าเจื่อน เขาคุยอวดกับหวังชิงเอาไว้เยอะว่าถังชุนมีไอเดียแปลกใหม่มานำเสนอ เมื่อทุกอย่างไม่เป็นดังหวัง ลูกผู้ชายอย่างเว่ยเหวินเป่าก็หันไปทางคนรักหมายจะกล่าวคำขอโทษ ทว่าดวงตาของหวังชิงกลับเป็นประกาย

“ก็ดีนะน่าสนุกออก ตั้งชื่อไลฟ์ว่า ‘ลูกพี่เว่ยกับติวเตอร์ถัง’ เป็นไง”

หลังจากมีข้อความร้ายๆ กระหน่ำเข้ามาในอินบ็อกซ์ หวังชิงก็ไม่สนุกกับการไลฟ์สดอีกต่อไป ลำพังต่อว่าเธอ หวังชิงไม่ถือสาอะไร แต่นี่พาดพิงถึงคนรักกับครอบครัวเธอด้วย หวังชิงย่อมทนไม่ไหว เธอไม่รู้ว่าจะทนยิ้มเวลาที่มีคอมเมนต์แย่ๆ เด้งขึ้นมาได้ไหม ทั้งยังไม่อยากให้คนที่ติดตามรับรู้ถึงอารมณ์ขุ่นมัว จึงตั้งใจหยุดพักเพื่อปรับสภาพจิตใจ แม้ว่าการไม่ได้ทำงานอดิเรกที่รักจะทำให้รู้สึกเหงาก็ตาม

วันนี้สภาพจิตใจของหวังชิงก็ใช่ว่าจะพร้อมนัก แต่คอนเทนต์ที่ต่างออกไปทำให้เธอไม่รู้สึกกดดัน ไลฟ์สดวันนี้หวังชิงเป็นเพียงพิธีกร ส่วนตัวหลักคือเว่ยเหวินเป่ากับถังชุน เธอก็แค่ถ่ายสองคนนี้แล้วบรรยายไป ไม่จำเป็นต้องออกกล้องมาก

“จะทำจริงเหรอ เห็นหน้าเค้าแล้วพวกแฟนๆ ตัวเองจะด่าอีกไหมอ่ะ” เว่ยเหวินเป่าหันไปพูดกับคนรัก

ครั้งแรกที่ได้ยินเว่ยเหวินเป่าพูดเสียงสองถังชุนถึงกับขนลุกเกรียว ผ่านไปหลายปีก็ยังไม่สามารถทำใจให้ชินได้

“ไม่เป็นไรหรอก ตัวเองน่ะเท่จะตาย จิตใจก็ดี คนด่ามีแต่คนขี้อิจฉาเท่านั้นแหละ”

หวังชิงเป็นผู้หญิงที่กล้าพูดความในใจออกมาได้อย่างเปิดเผย แม้ภาพลักษณ์เธอจะเป็นสาวน้อยที่ดูใสซื่อ แต่เนื้อแท้เป็นจำพวกสู้คน ถ้าโมโหขึ้นมาแม่ฟาดไม่เลี้ยง ตอนมีคนพูดเหน็บเว่ยเหวินเป่า เธอก็โต้กลับกลางไลฟ์สดทันทีว่าถึงแฟนเธอไม่หล่อแต่ก็มีข้อดีมากมาย ทั้งยังยืดอกยอมรับว่าความรวยก็เป็นหนึ่งในข้อดีเหล่านั้น ครอบครัวเธอเองก็มีฐานะ ทำไมต้องเลือกผู้ชายที่จนกว่าให้มาเกาะกินด้วย

“ชิงชิง…” เว่ยเหวินเป่ามองอย่างซาบซึ้ง

ถังชุนชักจะเหม็นกลิ่นความรัก เลยหันไปค้นกระเป๋านักเรียนของเว่ยเหวินเป่าแทน แล้วก็เป็นดังคาด สิ่งที่อยู่ข้างในกระเป๋าอันหนักอึ้งแทบไม่มีสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับการเรียนเลย ไม่มีดินสอปากกาสักด้าม แต่ดันมีไม้บรรทัดฟุตเหล็กขนาดยี่สิบสี่นิ้วนอนนิ่งอยู่ชัดเจนมากว่าไม่ได้มีเอาไว้ขีดเส้น

ถังชุนจำใจต้องหยิบเครื่องเขียนกับหนังสือเรียนของตัวเองขึ้นมาวางบนโต๊ะ เขากับเว่ยเหวินเป่าเรียนคนละแผนการเรียน แต่วิชาภาษากับคณิตศาสตร์ใช้ตำราเรียนเล่มเดียวกัน

เตรียมของเสร็จก็หันมานัดแนะคิวคร่าวๆ กับหวังชิง คุยรายละเอียดได้สิบนาทีก็พร้อมไลฟ์สด

“ที่รักไม่มีบทให้เค้าเหรอ”เว่ยเหวินเป่าถาม

“ไม่ต้องหรอก ที่รักทำตัวให้เป็นธรรมชาติก็พอ”หวังชิงว่า

“อย่าฝืนยิ้มโง่ๆ ล่ะ มันน่ากลัว” ถังชุนเสริม

เว่ยเหวินเป่าไม่กล้าเถียงเลยได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก แล้วการไลฟ์สดก็เริ่มต้นขึ้น

“Hello everyone! I’m back.” ชิงชิงทักทายผู้คนด้วยรอยยิ้มสดใสอันเป็นเอกลักษณ์

แม้จะเป็นการแจ้งเตือนก่อนไลฟ์สดแค่สิบห้านาที ก็ยังมีคนมารอชมหลายร้อย ไม่กี่อึดใจคอมเมนต์ก็ขึ้นมาเป็นพรืด

[เย่! นางฟ้าชิงชิงกลับมาแล้ว O]

[พี่สาวคิดถึงเธอมากเลยนะแองจี้]

[เสี่ยวชิงในชุดนักเรียน ไม่ได้เห็นนานแล้วนะเนี่ย ฟินสลบ O///O]

[Hi Angelina.]

[คิดถึงเธอจังเลย ที่บ้านอนุญาตให้ไลฟ์แล้วใช่ไหม ขอบคุณนะคร้าบคุณพ่อตา ^3]

[กรี๊ดดดพี่แองจี้ วันนี้ก็ยังเปล่งประกายเหมือนเดิมเลยนะคะ ไม่สิสวยขึ้นรึเปล่าเนี่ยสวยขึ้นรึเปล่า ป.ล. สีลิปพี่น่ารักจัง หวังว่าวันนี้จะรีวิวเครื่องสำอางนะ]

แองเจลิน่าเป็นชื่อภาษาอังกฤษของหวังชิง ตอนแรกที่ไลฟ์สดเธอเลยแนะนำตัวว่าชื่อแองจี้ แต่หลายปีก่อนเธอใช้ชื่อจริงตอนถ่ายแบบเพราะคิดแค่ว่าจะทำเล่นๆ บังเอิญมีคนจำได้ ผู้ชมกว่าครึ่งเลยเรียกเธอว่า ชิงชิงบ้าง เสี่ยวชิงบ้าง

“ขอบคุณทุกคนที่ส่งเสียงทักทายนะคะ จุ๊ๆ ไว้นะ วันนี้แองจี้แอบมาไลฟ์ ไม่ได้บอกแด๊ดดี้ สี่ทุ่มครึ่งก็ต้องกลับบ้านแล้ว”

หวังชิงไม่อยากให้พวกแอนตี้แฟนสะใจที่ทำให้เธอหมดกำลังใจได้ ก็เลยโกหกว่าเที่ยวเล่นมากไปจนโดนบ่น ทำให้ต้องงดไลฟ์สดสักระยะ ทั้งที่ความจริงที่บ้านสนับสนุนยิ่งกว่าเรื่องเรียนอีก แฟนคลับอันดับหนึ่งอย่างแด๊ดดี้ถึงกับบ่นเหงาที่ลูกสาวหายไป

มีข้อความโอดครวญตามมามากมายเมื่อรู้ว่าหวังชิงจะไลฟ์สดไม่นาน หญิงสาวขอโทษคนดู แล้วเริ่มแนะนำเข้าสู่รายการ

“เนื่องจากตอนนี้เปิดเทอมแล้ว แองจี้ก็เลยจะพาทุกคนมารู้จักกับติวเตอร์ถังค่ะ” หญิงสาวผายมือไปทางถังชุนพร้อมกับแพนกล้องไป

“สวัสดีครับ” ถังชุนค้อมศีรษะน้อยๆ ให้กล้อง

สีหน้าของเขายังนิ่งอยู่แต่ไม่ดูเก้อเขิน ถือว่าใช้ได้สำหรับการไลฟ์สดครั้งแรก

“วันนี้ติวเตอร์ถังจะมาสอนหนังสือให้ที่รักของแองจี้ค่ะ”

พอกล้องแพนไปที่หน้าเว่ยเหวินเป่า ก็มีเสียงโห่ไล่ตามมา บางคนถึงกับกดออกไปเลย แต่หวังชิงก็ไม่สนใจ เธอขยับไปนั่งข้างๆ คนรัก แล้วบอกให้ทุกคนใจดีกับเหวินเป่าของเธอหน่อย

“วันนี้ที่รักจะตั้งใจเรียนใช่ไหม”

“ครับผม!ต่อให้ไม่รู้เรื่องก็จะตั้งใจครับ” เว่ยเหวินเป่าตอบเสียงดังฟังชัด

“ถ้าฉันสอนแล้วนายยังไม่เข้าใจ ก็เป็นไอ้โคตรโง่แล้ว” ถังชุนหยิบไม้บรรทัดเหล็กมาชี้หน้า

ดูเหมือนผู้คนจะชอบใจคำพูดของถังชุนไม่น้อย เพราะมีสติกเกอร์หัวเราะเด้งขึ้นมารัวๆ

[พูดได้ตรงใจมากไอ้หนุ่ม (O)P]

[อ๊าย!หนุ่มแว่นละค่ะทุกคน กร๊าวใจสุดๆ]

[มาๆ พี่น้องมาดูไอ้โคตรโง่กัน]

[วันนี้เห็นแก่ที่แองจี้กลับมาจะไม่อารมณ์เสียกับ ‘ของประกอบฉาก’ละกัน -_-*]

เว่ยเหวินเป่าที่น่าสงสารถูกลดตำแหน่งจากคนไปเป็นสิ่งของเสียแล้ว ถึงกระนั้นก็ยังดีกว่าถูกด่า

“เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเริ่มเรียนกันดีกว่าค่ะ แองจี้ก็จะเรียนไปด้วย ใครมีอะไรสงสัยก็ยกมือขึ้นมาถามติวเตอร์ถังได้นะคะ”

กล้องกลับไปจับภาพสองหนุ่มอีกครั้ง ขณะนี้ถังชุนกำลังยื่นหนังสือเรียนไปให้เว่ยเหวินเป่า

“เลือกบทที่นายไม่เข้าใจมา”

เว่ยเหวินเป่าพลิกหนังสือทีละหน้า ยิ่งเปิดดูหัวคิ้วของเขาก็ยิ่งยับย่น แปลกจริงๆ ทั้งที่จำได้ว่าเรียนไปแล้ว แต่ทำไมยิ่งดูกลับยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังอ่านภาษาต่างดาว เมื่อไม่เข้าใจไปเสียหมด เว่ยเหวินเป่าก็ยืดอกยอมรับแบบแมนๆ

“ช่วยเริ่มสอนให้ใหม่ตั้งแต่ต้นเลยได้ไหมครับติวเตอร์ถัง”

“ไม่ได้เอาหนังสือชั้นประถมมา”

“ไม่ต้องขนาดนั้นโว้ย” คนที่ยอมก้มหัวให้เลิกสุภาพทันที

“ม.ต้นก็ไม่มี”

“หมายถึงว่าให้สอนของม.6 เทอมหนึ่ง” เว่ยเหวินเป่าทำเสียงดังใส่คนแกล้งมึน

“ไหวแน่นะ”

“เอ่อ!”

ถังชุนรู้จักเพื่อนดีเลยพ่นโจทย์เลขของชั้นม.ต้น ออกมา เจอการโจมตีด้วยตัวเลขเข้าไป ลูกพี่เว่ยถึงกับติดสตั๊น ระหว่างนั้นถังชุนเลยเขียนโจทย์ลงบนกระดาษ แล้วยื่นให้ดูแบบถนัดตา

“ให้เวลาห้านาที ตอบผิดโดน” ว่าแล้วก็หยิบไม้บรรทัดเหล็กมาโบกสะบัด

“เฮ้ย!…เอาจริงดิ” เว่ยเหวินเป่าทำหน้าเหวอ

“เวลาหมดไปครึ่งนาทีแล้ว เร็วเข้า รีบทำ แก้โจทย์ ปฏิบัติ!” ถังชุนทำเป็นก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ

“ไอ้บ้า!ครึ่งนาทีอะไรพึ่งจะสิบวิ”

“เหลือสี่นาทีแล้ว”

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...