โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ผู้นำ..ภาวะวิกฤต

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 25 มิ.ย. เวลา 03.18 น. • เผยแพร่ 25 มิ.ย. เวลา 07.52 น.

คอลัมน์ : สามัญสำนึก ผู้เขียน : สุดใจ ชาญชาตรีรัตน์

รอลุ้นกันอีกนิดสำหรับชื่อผู้ที่จะได้รับคัดเลือกมาดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลำดับที่ 25 แทน ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. คนปัจจุบันที่จะครบวาระในวันที่ 30 กันยายน 2568

จากผู้สมัครที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ 6 ท่าน ที่ได้เข้าแสดงวิสัยทัศน์และสัมภาษณ์เมื่อ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา

ได้แก่ ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส ในฐานะคนในตัวแทนแบงก์ชาติ พร้อมผู้สมัครคนนอกอีก 5 คน คือ วิทัย รัตนากร, ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์, ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ, ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล และ ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ

โดยล่าสุดรายงานข่าวจากคณะกรรมการคัดเลือกที่มี นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ (อดีตปลัดกระทรวงการคลัง) เป็นประธาน จะเสนอชื่อแคนดิเดต 2 คน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณา ซึ่งก็คือดร.รุ่ง มัลลิกะมาส และวิทัย รัตนากร

เมื่อเห็นชื่อ 2 คนที่เข้ารอบ หลายฝ่ายก็ฟันธงกันแล้วว่าฝ่ายการเมืองจากเลือกใครเป็น ผู้ว่าแบงก์ชาติคนต่อไป

เรื่องนี้เป็นที่จับตาของทุกวงการว่า “ใคร” จะมารับภารกิจกำกับดูแลนโยบายและบริหารธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ ในภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอยู่ท่ามกลางมรสุม

แต่สำหรับ CEO บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) คนใหม่ ที่จะมารับไม้ต่อจาก “อาทิตย์ นันทวิทยา” ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย

เพราะล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติแต่งตั้ง “ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์” ที่มีประสบการณ์โชกโชนในกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ กว่า 15 ปี ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคม 2570 หลังจากที่ “อาทิตย์ นันทวิทยา” จะครบวาระในวันที่ 31 ธันวาคม 2569

โดยเหตุผลที่มีการสรรหาและประกาศชื่อล่วงหน้านานถึง 18 เดือน ชัดเจนว่าเพื่อให้การบริหารองค์กรเกิดความต่อเนื่องและราบรื่น

“อาทิตย์ นันทวิทยา” กล่าวว่า “ต่อจากนี้ไปอีก 18 เดือน ดร.อารักษ์จะเข้ามาทำงานเคียงข้างผมอย่างใกล้ชิด สานต่อพันธกิจและยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้ ร่วมในกระบวนการวางแผนตัดสินใจของบริษัทและกลุ่ม แสดงวิสัยทัศน์และทดสอบแนวคิดใหม่ ๆ สนับสนุนการทำงานของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูงของทุกบริษัทในกลุ่ม เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ และขับเคลื่อนองค์กรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”

นี่คือการวางแผนการส่งต่อขององค์กรธุรกิจใหญ่มาตรฐานสากล เพื่อให้เดินหน้าต่อเนื่องและราบรื่น ท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจ

และขณะที่โลกกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตและปั่นป่วน จากสารพัดปัญหาที่รุมเร้า “โรเบิร์ต วอลเทอร์ส” บริษัทด้านการจัดหางานชั้นนำระดับโลก เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับเทรนด์การบริหารบุคลากรปี 2025 ระบุว่า “ภาวะผู้นำที่เน้นความเป็นมนุษย์” กำลังเป็นเทรนด์สำคัญที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2025 สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีและ AI ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ แต่กลับพบว่า พนักงานยิ่งต้องการความเอาใจใส่ด้านจิตใจมากขึ้น โดยพบว่าพนักงานกว่า 2 ใน 3 (63%) ของการสำรวจระบุว่า หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ตัดสินใจ “ลาออก” จากงานเดิม คือการไม่มีความผูกพัน กับทีมบริหารหรือผู้นำองค์กร

และพนักงานถึง 68% ตอบว่า สาเหตุการลาออกมาจาก “คำมั่นสัญญา” ที่ไม่เป็นจริงของผู้บริหาร ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าพนักงานรู้สึกไม่เชื่อมั่นเมื่อผู้นำไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้ ส่งผลให้ความไว้วางใจถูกทำลาย

รายงานการสำรวจดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ภาวะผู้นำที่ให้ความสำคัญกับคนเป็นศูนย์กลาง (Human-centric Leadership) เป็นเทรนด์ที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ หากต้องการให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

“แกริต บุคกาต” CEO บริษัท โรเบิร์ต วอลเทอร์ส ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จของผู้นำจะเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น หากผู้นำให้ความสำคัญกับ “คน” เป็นอันดับแรก ดังนั้น ในยุคที่องค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการ “ลงทุนเรื่องเทคโนโลยี” ขณะเดียวกัน ผู้นำก็ต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับการ “ลงทุนคน” มากขึ้นด้วยเช่นกัน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผู้นำ..ภาวะวิกฤต

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...