โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ลดหย่อนภาษี! Clear Cut ผู้เสียภาษีต้องรู้ มีอะไรลดหย่อนได้บ้าง

The Bangkok Insight

อัพเดต 24 พ.ค. 2564 เวลา 08.31 น. • เผยแพร่ 24 พ.ค. 2564 เวลา 08.31 น. • The Bangkok Insight

ลดหย่อนภาษี! กรมสรรพกากร เคลียร์ ชัด ค่าลดหย่อน รู้ก่อนยื่นแบบ ได้สิทธิลดหย่อนเต็มๆ ประเด็น เด็ดเกร็ดลดหย่อน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2563 เริ่มที่ กรมสรรพากร แจกแจงการเสียภาษีผู้มีเงินได้ พร้อมหลักเกณฑ์ในการหักลดหย่อนภาษี อะไรบ้างที่ควรได้รับสิทธิในการลกหย่อนภาษี แต่ละประเภทได้รับการลดหย่อยเท่าไหร่อย่างละเอียดยิบ เป็นสิ่งที่ผู้เสียภาษีต้องรู้ก่อนยื่นเสียภาษีทุกครั้ง

ลดหย่อนภาษี!

ผู้มีเงินได้
Q1 : การหักลดหย่อนผู้มีเงินได้มีหลักเกณฑ์อย่างไร
A1 : การหักลดหย่อนผู้มีเงินได้ มีหลักเกณฑ์ดังนี้
1. ผู้มีเงินได้หักลดหย่อนได้ 60,000 บาท
2. ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี หักลดหย่อนได้ 60,000 บาท
3. กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง หักลดหย่อนได้ 60,000 บาท
4. ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล หากอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป ให้หักลดหย่อนได้ 120,000 บาท
5. วิสาหกิจชุมชนประกอบกิจการในรูปแบบห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักค่าลดหย่อนได้ ไม่เกิน 60,000 บาท

Word tax

Q2 : กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ หักลดหย่อนอย่างไร
A2 : กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ หักลดหย่อนได้ดังนี้
1. แยกยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90/91 ต่างฝ่ายต่างหักลดหย่อนในส่วนของตนได้ 60,000 บาท
2. ยื่นแบบรวมคำนวณภาษี หักลดหย่อนรวมกันได้ 120,000 บาท

Q3 : กรณีภริยาไม่ได้ทำงาน แต่ได้รับเงินจากสามี เดือนละ 20,000 บาท และภริยาไปลงทะเบียนใช้สิทธิคนละครึ่งสามีมีสิทธินำภริยามาหักลดหย่อนคู่สมรสในการยื่นแบบได้ใช่หรือไม่
A3 : ได้ โดยหักลดหย่อนรวมกันได้ 120,000 บาท

ลดหย่อนภาษี!

คู่สมรส
Q1 : การหักลดหย่อนคู่สมรสมีหลักเกณฑ์อย่างไร
A1 : การหักลดหย่อนคู่สมรส มีหลักเกณฑ์ดังนี้
1. สามีหรือภริยา (คู่สมรส) ของผู้มีเงินได้ หักลดหย่อนได้ 60,000 บาท
2. สามีหรือภริยาของผู้มีเงินได้ ไม่มีเงินได้พึงประเมิน
3. ต้องเป็นสามีหรือภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย (จดทะเบียนสมรสกัน)
4. กรณีจดทะเบียนสมรสระหว่างปี, คู่สมรสตายระหว่างปี หรือหย่าระหว่างปี สามารถหักลดหย่อนคู่สมรสได้
5. กรณีผู้มีเงินได้เป็นผู้อยู่ในไทย (180 วัน) สามารถนำสามีหรือภริยาที่อยู่ต่างประเทศมาหักลดหย่อนได้
6. กรณีผู้มีเงินได้มิได้เป็นผู้อยู่ในไทย ให้หักลดหย่อนเฉพาะคู่สมรสและบุตรที่อยู่ในไทยถึง 180 วันเท่านั้น

Q2 : ภริยาอาศัยและทำงานอยู่ในไทย มีเงินได้จากเงินเดือน แต่สามีเป็นชาวต่างชาติไม่ได้อยู่ในไทย และไม่มีเงินได้ในไทย ภริยายื่นแบบ ภ.ง.ด.91 ผ่านอินเทอร์เน็ต ต้องการลดหย่อนคู่สมรสจะต้องทำอย่างไร
A2 : ในการกรอกแบบ ภ.ง.ด.90/91 ผ่านอินเทอร์เน็ต กรณีคู่สมรสเป็นชาวต่างชาติ และเป็นผู้ที่มิได้อยู่ในไทย และไม่มีเงินได้เนื่องจากหน้าที่งาน หรือกิจการที่ทำในไทย หรือเนื่องจากกิจการของนายจ้างในไทย หรือเนื่องจากทรัพย์สินที่อยู่ในไทย ให้เลือกสถานะการยื่นแบบฯ ของคู่สมรส ไม่มีเงินได้ เลือก ต่างด้าว กรอกข้อมูลเลขที่หนังสือเดินทาง/ใบสำคัญคนต่างด้าว และระบุสัญชาติ  ทั้งนี้ จะได้รับสิทธิในการหักค่าลดหย่อน กรณีคู่สมรสไม่มีเงินได้ จำนวน 60,000 บาท
กรณีไม่ทราบเลขที่หนังสือเดินทาง/ใบสำคัญคนต่างด้าว ให้ผู้มีเงินได้ยื่นแบบกระดาษ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา

บุตร
Q1 : การหักลดหย่อนบุตรมีหลักเกณฑ์อย่างไร
A1 : การหักลดหย่อนบุตร มีหลักเกณฑ์ดังนี้
1. บุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้มีเงินได้ หรือของคู่สมรส คนละ 30,000 บาท
2. บุตรบุญธรรมของผู้มีเงินได้ คนละ 30,000 บาท แต่รวมกันได้ไม่เกิน 3 คน
3. บุตรต้องไม่มีเงินได้ในปีภาษีนั้น ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป (ไม่รวมเงินได้ที่ได้รับยกเว้น ตามมาตรา 42)
4. บุตรต้องอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของผู้มีเงินได้
5. เป็นผู้เยาว์ (อายุไม่ถึง 20 ปี) หรือผู้มีอายุไม่เกิน 25 ปี และยังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยหรือชั้นอุดมศึกษา (ระดับอนุปริญญาหรือปริญญาตรีขึ้นไป) รวมถึงการศึกษาในหลักสูตรเนติบัณฑิต หรือเป็นผู้ที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
6. กรณีผู้มีเงินได้มิได้เป็นผู้อยู่ในประเทศไทย ให้หักลดหย่อนได้เฉพาะบุตรที่อยู่ในประเทศไทยถึง 180 วันเท่านั้น
7. กรณีผู้มีเงินได้เป็นผู้อยู่ในไทย ให้หักลดหย่อนบุตรได้ไม่ว่าบุตรจะอยู่ในไทยหรืออยู่ต่างประเทศ
8. สำหรับบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไป (ยกเว้นบุตรบุญธรรม) ที่เกิดในหรือหลัง พ.ศ. 2561 หักลดหย่อนได้เพิ่มอีก คนละ 30,000 บาท

ลดหย่อนภาษี!

Q2 : กรณีผู้มีเงินได้ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับภริยา ต้องมีเอกสารใดประกอบการใช้สิทธิลดหย่อนบุตร
A2 : กรณีสามีภริยาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เด็กที่เกิดจากหญิงที่ไม่ได้ทำการสมรสตามกฎหมาย (จดทะเบียนสมรส) ไม่ถือว่าเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของชาย ตามมาตรา 1457 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เว้นแต่บิดาจะได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาในภายหลัง หรือบิดาได้จดทะเบียนรับรองบุตร หรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร จึงจะถือว่าเด็กนั้นเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดา

Q3 : หากต้องการจดทะเบียนรับรองบุตรเพื่อใช้สิทธิลดหย่อน สามารถติดต่อขอจดทะเบียนรับรองบุตรได้ที่ใด
A3 : หากต้องการจดทะเบียนรับรองบุตรเพื่อใช้สิทธิลดหย่อน สามารถติดต่อขอจดทะเบียนรับรองบุตรได้ดังนี้
1. การจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรต้องได้รับความยินยอมจากเด็กและมารดาของเด็ก โดยไปให้ความยินยอมต่อหน้านายทะเบียน บิดามารดาและบุตรต้องไปติดต่องานปกครอง สำนักงานเขตหรืออำเภอ กิ่งอำเภอ หรือสถานทูต สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ แล้วแต่กรณี
2. กรณีเด็กและมารดาของเด็กไม่อาจให้ความยินยอมได้ เช่น มารดาถึงแก่ความตายแล้ว หรือกรณีเด็กไม่อาจแสดงเจตนาให้ความยินยอมได้ เช่น อายุยังน้อยเกินไป การรับรองบุตรนั้นบิดา จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอันถึงที่สุดให้มีการรับรองบุตรได้

Q4 : บุตรเรียนปริญญาโท อายุ 24 ปี หักค่าลดหย่อนได้หรือไม่
A4 : หากบุตรมีเงินได้ในปีที่ใช้สิทธิหักค่าลดหย่อนไม่ถึง 30,000 บาท บิดามารดาสามารถนำบุตรมาหักลดหย่อนได้ฝ่ายละ 30,000 บาท
Q5 : ผู้มีเงินได้นำบุตรบุญธรรมไปหักลดหย่อนแล้ว บิดามารดาที่แท้จริงสามารถนำบุตรคนนั้นไปหักลดหย่อนในฐานะบุตร
ได้อีกหรือไม่
A5 : ผู้ที่มีสิทธิหักลดหย่อนบุตรบุญธรรมได้ คือ ผู้ที่จดทะเบียนรับรองเป็นบุตรบุญธรรมเท่านั้น ส่วนบิดามารดาที่ชอบด้วยกฎหมายเดิมของบุตรคนดังกล่าวไม่สามารถหักลดหย่อนได้อีก

Q6 : ผู้มีเงินได้รับบุตรบุญธรรมในเดือนกันยายน ต่อมาเดือนธันวาคม ยกเลิกการรับบุตรบุญธรรม ผู้มีเงินได้สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนบุตรในปีภาษีดังกล่าวได้หรือไม่
A6 : ได้ เนื่องจากการหักลดหย่อนบุตรให้หักได้ตลอดปีภาษี ไม่ว่ากรณีที่จะหักได้นั้นจะมีอยู่ตลอดปีภาษีหรือไม่ หากในปีถัดไป บิดามารดาเดิมไม่ได้ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมผู้อื่น บิดามารดาเดิมสามารถนำบุตรไปหักลดหย่อนได้

Q7 : นาย ก. และ นาง จ. สถานภาพสมรส มีบุตรเกิดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 อายุเพียง 3 วัน บิดามารดาจะนำบุตรมาหักลดหย่อนบุตรได้หรือไม่
A7 : นาย ก. และ นาง จ. ในฐานะผู้มีเงินได้ สามารถหักลดหย่อนบุตรชอบด้วยกฎหมาย ให้หักได้ตลอดปี    ไม่ว่ากรณีที่จะหักได้นั้นจะมีอยู่ตลอดปีภาษีหรือไม่ โดยหักบุตรได้ฝ่ายละ 30,000 บาท

Q8 : หลักฐานที่แสดงว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย มีอะไรบ้าง
A8 : หลักฐานที่แสดงว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย มีดังนี้
1. กรณีบิดา ใช้สูติบัตรหรือสำเนาทะเบียนบ้านประกอบกับทะเบียนสมรสของบิดามารดา หรือ หลักฐานการจดทะเบียนรับรองบุตร หรือ หนังสือบันทึกฐานะแห่งครอบครัว แล้วแต่กรณี
2. กรณีมารดา ใช้สูติบัตรหรือสำเนาทะเบียนบ้าน หรือ หนังสือบันทึกฐานะแห่งครอบครัว แล้วแต่กรณี
3. กรณีที่บุตรซึ่งเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ถ้ามีคำพิพากษาของศาลว่าเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็สามารถนำหลักฐานคำพิพากษาดังกล่าวมาแสดงได้

Q9 : บุตรผู้เยาว์ของนาย ว. มีเงินได้พึงประเมินเป็นเงินปันผลจำนวน 2,000,000 บาท นาย ว. มีสิทธิหักค่าลดหย่อนบุตรผู้เยาว์ ได้หรือไม่
A9 : หากบุตรของนาย ว. เป็นบุตรผู้เยาว์ (อายุไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ /ยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส)
มีเงินได้ประเภทเงินปันผลจำนวน 2,000,000 บาท โดยไม่มีเงินได้ประเภทอื่นอีก ถือว่าเงินได้ของบุตรผู้เยาว์เป็นเงินได้พึงประเมินของนาย ว. ผู้เป็นบิดา นาย ว. มีหน้าที่ต้องนำเงินปันผลดังกล่าวไปรวมคำนวณภาษี
ในนามของตน โดยนิตินัยเป็นผลเท่ากับบุตรผู้เยาว์ไม่มีเงินได้ ดังนั้น นาย ว. มีสิทธินำบุตรผู้เยาว์ดังกล่าวมาหักลดหย่อนได้

ลดหย่อนภาษี!

ค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร
Q1 : การหักลดหย่อนค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร มีหลักเกณฑ์อย่างไร
A1 : การหักลดหย่อนค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป มีหลักเกณฑ์ดังนี้
1. เงินที่ผู้มีเงินได้หรือคู่สมรสได้จ่ายค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร เช่น ค่าตรวจและรับฝากครรภ์ ค่าบำบัดทางการแพทย์ ค่ายา ค่าทำคลอด เป็นต้น
2. จ่ายให้แก่สถานพยาบาลของทางราชการ หรือของเอกชน
3. ตามจำนวนที่จ่ายจริงในแต่ละปีภาษี สำหรับการตั้งครรภ์แต่ละคราว ไม่เกิน 60,000 บาท
4. ต้องมีเอกสารมาแสดง ได้แก่ ใบรับรองแพทย์ที่แสดงความเห็นว่ามีภาวะตั้งครรภ์ และใบเสร็จรับเงินหรือหลักฐานอื่นใดที่ได้จ่ายให้แก่สถานพยาบาล
5. ต้องรวมกับสิทธิการเบิกค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร ซึ่งเป็นสวัสดิการจากภาครัฐหรือภาคเอกชนสำหรับการตั้งครรภ์แต่ละคราวแล้ว ไม่เกิน 60,000 บาท
6. กรณีสามีหรือภริยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้สามีหรือภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ ใช้สิทธิตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 60,000 บาท
7. กรณีต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ ให้ภริยาใช้สิทธิเต็มจำนวนตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 60,000 บาท

Q2 : หากจ่ายค่าฝากครรภ์ปี 2563 เป็นเงิน 35,000 บาท และจ่ายค่าคลอดบุตรปี 2564 เป็นเงิน 45,000 บาท สามารถใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีได้บุคคลธรรมดาในปี 2563 และ 2564 ได้เท่าใด
A2 : ปี 2563 ได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 35,000 บาท และปี 2564 จำนวน 25,000 บาท เนื่องจากในแต่ละคราวรวมกันต้องไม่เกิน 60,000 บาท

Q3 : กรณีตั้งครรภ์และแท้งเอง และตั้งครรภ์ใหม่ในปีภาษีเดียวกัน ลดหย่อนได้เท่าใด
A3 : ใช้สิทธิลดหย่อนได้ทั้ง 2 ครั้งๆ ละ ไม่เกิน 60,000 บาท

Q4 : หากจ่ายค่าคลอดบุตรต้นปี 2563 เป็นเงิน 60,000 บาท ปลายปีจ่ายค่าฝากครรภ์บุตรคนที่ 2 อีก 60,000 บาท ได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 120,000 บาทใช่หรือไม่
A4 : สามารถใช้สิทธิ์แต่ละคราวหรือท้องละไม่เกิน 60,000 บาท ดังนั้น สามารถใช้สิทธิ์ได้ 120,000 บาท

Q5 : กรณีฝากครรภ์แล้วภายหลังตรวจพบว่าบุตรในครรภ์ไม่สมบูรณ์ แพทย์จำเป็นต้องนำทารกออกจากครรภ์ (ยุติการตั้งครรภ์) สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้หรือไม่
A5 : ได้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากการตั้งครรภ์และคลอดบุตร ไม่ว่าจะเป็นค่าตรวจและรับฝากครรภ์ ค่าบำบัดทางการแพทย์ ค่ายาและค่าเวชภัณฑ์ ค่าทำคลอด และค่ากินอยู่ในสถานพยาบาล ทั้งนี้ ไม่ว่าทารกที่คลอดจะมีชีวิตรอดหรือไม่

Q6 : กรณีคลอดลูกแฝด ในเดือนสิงหาคม ปี 2563 จะได้รับสิทธิลดหย่อนค่าฝากครรภ์และคลอดบุตรอย่างไร
A6 : ได้รับสิทธิ 60,000 บาท เนื่องจากเป็นการตั้งครรภ์เพียงคราวเดียว

Q7 : ค่าตรวจครรภ์ที่คลินิก สามารถนำมาลดหย่อนค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร ได้หรือไม่
A7 : หากคลินิกดังกล่าวเป็นสถานพยาบาลแบบไม่มีเตียงตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ.2541 สามารถนำมาใช้สิทธิได้

Q8 : กรณีได้รับสิทธิสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลจากนายจ้างภาคเอกชนในการคลอดบุตร จำนวน 30,000 บาท แต่ได้จ่ายค่าคลอดบุตรไปจำนวน 100,000 บาท จะใช้สิทธิลดค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร อย่างไร
A8 : ได้รับสิทธิ จำนวน 30,000 บาท เนื่องจากเมื่อนำไปรวมกับสิทธิสวัสดิการต้องไม่เกิน 60,000 บาท

ลดหย่อนภาษี!

บิดามารดา
Q1 : การหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดา/มารดามีหลักเกณฑ์อย่างไร
A1 : การหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดา/มารดา มีหลักเกณฑ์ดังนี้
1. บิดา/มารดาต้องมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป (การคำนวณอายุให้นำปีภาษี หักด้วย พ.ศ. เกิดของบิดา/มารดา)
2. บิดา/มารดา ต้องมีเลขประจำตัวประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร
3. อยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของผู้มีเงินได้
4. หากภริยาแยกยื่นแบบเสียภาษี ให้ต่างฝ่ายต่างหักบิดา/มารดาของตน
5. บิดา/มารดาต้องไม่มีเงินได้ในปีภาษีนั้นเกิน 30,000 บาท
6. ผู้มีเงินได้หรือคู่สมรสต้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย
7. บุตรบุญธรรมไม่มีสิทธิหักลดหย่อน
8. บุตรหลายคนอุปการะบิดา/มารดา ให้บุตรเพียงคนเดียวที่มีหลักฐาน (ล.ย.03) เป็นผู้มีสิทธิหักลดหย่อน
9. หากผู้มีเงินได้มิได้เป็นผู้อยู่ในไทย ให้หักลดหย่อนได้เฉพาะบิดามารดาที่อยู่ในไทย

Q2 : ผู้มีเงินได้ที่เป็นชาวต่างชาติ สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนบิดามารดาได้หรือไม่
A2 : ผู้มีเงินได้ชาวต่างชาติจะมีสิทธิหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาได้นั้น บิดามารดาต้องเป็นผู้มีเลขประจำตัวประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร พร้อมหนังสือรับรองการหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา (แบบ ล.ย.03)

Q3 : กรณีบิดาเสียชีวิตระหว่างปีภาษี สามารถหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาสำหรับปีภาษีนั้นได้หรือไม่
A3 : การที่บิดาหรือมารดาของผู้มีเงินได้เสียชีวิตในระหว่างปีภาษี หรือก่อนการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 เป็นเหตุให้ผู้มีเงินได้ที่ใช้สิทธิหักลดหย่อนไม่มีหลักฐานการรับรองการอุปการะเลี้ยงดูจากบิดามารดานั้น ให้ผู้มีเงินได้แนบแบบ ล.ย.03 และสำเนาใบมรณบัตรของบิดาหรือมารดาที่เสียชีวิตพร้อมกับการยื่นแบบฯ

Q4 : ต้องการแบบ ล.ย.03 สามารถ download ได้จากที่ใด
A4 : สามารถ download แบบพิมพ์หนังสือรับรองการหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา (แบบ ล.ย.03) ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th ที่เมนู บุคคลธรรมดา > ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม > แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2563 > เอกสารประกอบการยื่นแบบ ล.ย.03

Q5 : สามีมีเงินได้แต่ภริยาไม่มีเงินได้ สามีได้นำภริยามาหักค่าลดหย่อน 60,000 บาท ในฐานะคู่สมรส กรณีบุตรมีเงินได้ สามารถนำมารดามาหักค่าลดหย่อนในฐานะบุพการีได้หรือไม่
A5 : สามารถนำมารดามาหักค่าลดหย่อนในฐานะบุพการีได้ 30,000 บาท

Q6 : กรณีบิดามารดามีบุตรที่ดูแลเลี้ยงดูบิดามารดาหลายคน บุตรจะสามารถนำมาหักลดหย่อนสลับกันคนละปีได้หรือไม่
A6 : กรณีผู้มีเงินได้หลายคนอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาคนเดียวกัน ให้ผู้มีเงินได้คนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียวที่มีหลักฐานรับรองการอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาเป็นผู้มีสิทธิหักลดหย่อนดังกล่าวในแต่ละปีภาษี โดยใช้แบบหนังสือรับรองการหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา (แบบ ล.ย.03) เป็นหลักฐานประกอบการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
Q7 : กรณีบิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันและแยกกันอยู่ (อายุได้ตามเงื่อนไข) จะต้องดำเนินการอย่างไรจึงจะสามารถหักลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาได้
A7 : ผู้มีเงินได้จะต้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดามารดา จึงจะใช้สิทธิหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูได้ กรณีดังกล่าวเมื่อบิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน บิดาจึงเป็นบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เฉพาะมารดาเท่านั้นที่เป็นมารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น บิดามารดาต้องจดทะเบียนสมรสกันก่อนจึงจะถือว่าเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย

Q8 : การหักลดหย่อนสำหรับค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดา มารดา บิดา มารดา ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันหรือไม่
A8 : บิดามารดาไม่ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันกับผู้มีเงินได้

Q9 : นาย ก. ยื่นแบบ ภ.ง.ด.91 ปีภาษี 2563 โดยนำมารดาของภริยาที่ นาย ก. เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูมาตลอดตั้งแต่ภริยาเสียชีวิตในปี 2562 มาหักค่าลดหย่อนอุปการะเลี้ยงดูมารดาของภริยาได้หรือไม่
A9 : 1. กรณีภริยาไม่มีเงินได้ ในปี 2562 ที่เสียชีวิต ผู้มีเงินได้สามารถหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูมารดาของภริยาได้
2. ในปีต่อไป เมื่อภริยาเสียชีวิตการสมรสย่อมสิ้นสุดลง ดังนั้นในการยื่นแบบ ภ.ง.ด.91 ปีภาษี 2563 นาย ก.ไม่มีสิทธิหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูมารดาของภริยาที่เสียชีวิตไป

Q10 : บิดา มารดา มีอายุเกิน 60 ปี มีเงินได้จากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารเพียงอย่างเดียวในแต่ละปีเกิน 30,000 บาทจากบัญชีเงินฝากประจำและบัญชีออมทรัพย์ที่ใช้ชื่อบัญชีร่วมกัน บุตรสามารถนำบิดา มารดา ที่มีเงินได้ดังกล่าวมาหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาได้หรือไม่
A10 : หากสามีภรรยาได้รับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารเป็นชื่อบัญชีร่วมกัน ให้แบ่งเงินได้เป็นของสามีและภรรยาฝ่ายละกึ่งหนึ่ง กรณีดังกล่าว หากบิดา มารดา ต่างฝ่ายต่างมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีไม่เกินคนละ 30,000 บาท บุตรสามารถหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดา มารดาได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...