ปรับครม.สะเทือนพรรคร่วม เกมรีเซ็ตเริ่มจัดสมดุลอำนาจครั้งใหญ่

การปรับ ครม. สะเทือนพรรคร่วม - สั่นคลอนฐานอำนาจเดิม

การปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะเกิดขึ้นกลายเป็นแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในสนามการเมือง โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลที่เริ่มแสดงความเปราะบาง ทั้งในพรรครวมไทยสร้างชาติที่มีรอยร้าวภายใน และพรรคภูมิใจไทยที่เผชิญกระแส “รีเซ็ต” กระทรวงในมือ

ไทม์ไลน์การเมือง มิ.ย.เดือด

• 12 มิ.ย. แพทยสภาประชุม ก่อน “ทักษิณ” ปรากฏตัวต่อศาลฎีกาฯ คดีอาญานักการเมือง
• 13 มิ.ย. คดีการเมืองสำคัญเข้าสู่จุดชี้ขาด
• 14 มิ.ย. ประชุม JBC ไทย–กัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ ปมเขตแดนจ่อกลายเป็นประเด็นการเมือง
• 15 มิ.ย. คดี “ฮั้ว ส.ว.” มีแนวโน้มส่งฟ้อง ออกหมายเรียกเพิ่ม พร้อมพัวพันนักการเมือง
• 20 มิ.ย. เดดไลน์ปรับ ครม. คาดเปิดรายชื่ออย่างไม่เป็นทางการภายในสัปดาห์นั้น
  

พลวัต ครม.ใหม่: เกมต่อรองเริ่มต้นแล้ว

นายกรัฐมนตรี คาดว่าจะเร่งปิดดีลให้เร็วที่สุด เพื่อลดแรงเสียดทานทางการเมืองและคืนเสถียรภาพ
พรรคภูมิใจไทย แม้ยืนยันไม่เสนอชื่อใหม่ แต่ส่งสัญญาณพร้อมเจรจา แลกเปลี่ยนตำแหน่ง เน้นไปที่ “ยุติธรรม” และ “สาธารณสุข”

เพื่อไทย จัดวางตัวบุคคลเพื่อดันนโยบาย-เตรียมศึกเลือกตั้งใหญ่

กระทรวงมหาดไทย: “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ตัวเต็ง หากเพื่อไทยยึด มท.1 คืน คาดว่าจะนำไปสู่การเตรียมเลือกตั้งในปีหน้า

กระทรวงดิจิทัลฯ: หาก “ประเสริฐ” ย้าย นายจักรพงษ์ แสงมณี หรือ “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” มีลุ้นแทนที่

อนุทิน ชาญวีรกูล: หากถูกปรับจาก มท. อาจย้ายไป พาณิชย์ หรือ ศึกษาธิการ โดย “พาณิชย์” ดูมีความเป็นไปได้สูง

รวมไทยสร้างชาติ แตกตัว - กระทรวงแตก
รวมไทยสร้างชาติ กำลังเผชิญจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่

พลังงาน: ชื่อ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ถูกดันกลับ
หรืออาจเป็น “จตุพร บุรุษพัฒน์” แคนดิเดตจากพรรค “โอกาสใหม่”

อุตสาหกรรม: “สุชาติ ชมกลิ่น” อาจขยับจากพาณิชย์
ขึ้นนั่งรัฐมนตรีเต็มตัว พร้อมข่าวลือเตรียมย้ายพรรค

เกษตรฯ: “อรรถกร” หรือ “เบนซ์” เต็งจ๋าเก้าอี้ รมช. รับไม้ต่อจากบิดา

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์: คาดยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม

สถานการณ์ร้อนในรวมไทยสร้างชาติ

• คาดจะมี สส. แปรพักตร์หลายคน โดยเฉพาะ “สุราษฎร์ธานี” ที่อาจสูญเสียที่นั่งอย่างน้อย 2 เขต
• พรรคมีแนวโน้ม “แตกตัว” เป็น 3 กลุ่ม หากไร้เอกภาพในการปรับ ครม.
• เกม “รีเซ็ตพรรค” โดยใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเครื่องมือทางการเมืองเริ่มต้นขึ้นแล้ว

การปรับ ครม. ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนคน แต่คือการเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ทั้งเพื่อยึดอำนาจรัฐ กลับคืนความได้เปรียบในพื้นที่ และปูทางสู่การเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้า การเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่ คือ “ศึกเดิมพันอำนาจ” ที่แต่ละพรรคไม่อาจถอย

ที่มา เนื้อหาประกอบรายงานข่าว เนชั่นอินไซต์