โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

BofA เตือน “วิกฤตหนี้ภาครัฐอินเดีย” จ่อทวีความรุนแรงขึ้น

การเงินธนาคาร

อัพเดต 24 ธันวาคม 2568 เวลา 20.41 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การออกพันธบัตรของรัฐบาลระดับรัฐในอินเดียที่พุ่งสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนกังวลอุปทานล้นตลาด เสี่ยงเบียดขับภาคเอกชน และบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม

วันที่ 24 ธันวาคม 2568 เวลา 10.23 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เทรดเดอร์อาวุโสจาก Bank of America Corp (BofA) ระบุว่าอินเดียจำเป็นต้องหาทางลดการกู้ยืมของรัฐบาลระดับรัฐ (provinces) หลังจากการออกพันธบัตรในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ของรัฐต่าง ๆ กำลังกดดันตลาดตราสารหนี้และทำให้อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับสูง

วิกาส เจน หัวหน้าฝ่ายซื้อขายตราสารหนี้ ค่าเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ของอินเดีย ประเมินว่า รัฐต่าง ๆ มีแนวโน้มจะกู้ยืมราว 4.5 ล้านล้านรูปี หรือประมาณ 5.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงสามเดือนจนถึงเดือนมีนาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับไตรมาสปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวจะทำให้ปริมาณการออกพันธบัตรของรัฐในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2569 พุ่งสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

“ปริมาณพันธบัตรของรัฐจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน และนั่นคือเหตุผลที่นักลงทุนสถาบันระยะยาว (real money investors) ยังไม่พร้อมจะทุ่มเงินลงทุนจำนวนมากในช่วงนี้ …ตลาดค่อนข้างกังวลกับประเด็นนี้”

การกู้ยืมรวมของรัฐบาลระดับรัฐของอินเดียเพิ่มขึ้นเกือบ 20% ในปีงบประมาณนี้เมื่อเทียบกับปี 2567 หลังการเติบโตของรายได้ภาษีชะลอลง ขณะที่การใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น ความต้องการซื้อพันธบัตรเหล่านี้ยังคงอ่อนแอ และนักลงทุนเรียกร้องผลตอบแทนส่วนเพิ่มเพื่อรับมือกับอุปทานล้นตลาด ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น ไม่เพียงเฉพาะรัฐเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงรัฐบาลกลางด้วย การออกพันธบัตรจำนวนมากเช่นนี้ยังเสี่ยงเบียดขับการกู้ยืมของภาคเอกชน ทำให้ต้นทุนเงินทุนของธนาคารและบริษัทเอกชนเพิ่มขึ้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอินเดียอายุ 10 ปี ปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 6.68% เมื่อวันจันทร์ หลังจากรัฐต่าง ๆ ประกาศจัดประมูลพันธบัตรในสัปดาห์นั้นมากกว่ากำหนดเดิม เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทสาธารณูปโภคของรัฐอย่าง Power Finance Corp ตัดสินใจยกเลิกการออกขายพันธบัตรในวันอังคาร

เจนระบุว่า ปริมาณอุปทานที่สูง โดยเฉพาะพันธบัตรอายุยาวกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพของการส่งผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปสู่ตลาดตราสารหนี้และระบบเศรษฐกิจโดยรวม

แม้ธนาคารกลางอินเดียจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวม 1.25% ในปีนี้ แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นอัตราอ้างอิง ปรับลดลงเพียง 13 เบสสิสพอยต์เท่านั้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้บริษัทอันดับเครดิตสูงสุดกลับเพิ่มขึ้นกว่า 11 เบสสิสพอยต์ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้ส่วนต่างผลตอบแทนเมื่อเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลกลางขยายกว้างเป็นราว 40 เบสสิสพอยต์ ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg

สำหรับการกู้ยืมในระดับใกล้เคียงกัน พันธบัตรของรัฐกลับมีผู้ซื้อจำนวนน้อยกว่ามาก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติและธนาคารต่างประเทศหลีกเลี่ยงการลงทุนในตราสารที่มีสภาพคล่องต่ำ ขณะที่ผู้เล่นในประเทศเองก็มีข้อจำกัดด้านสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรประเภทนี้ เจนกล่าวว่า “เมื่อจำนวนผู้ซื้อมีจำกัด ส่วนต่างผลตอบแทนก็มีแนวโน้มจะขยายกว้างต่อไป”

เจนคาดว่าการกู้ยืมรวมของรัฐบาลระดับรัฐอาจเพิ่มขึ้นสูงถึง 13.5 ล้านล้านรูปีในปีงบประมาณถัดไป จากราว 12 ล้านล้านรูปีในปีนี้ และหากปรับตัวเลขโดยคำนึงถึงการเข้าซื้อพันธบัตรของธนาคารกลาง เขามองว่าอุปทานพันธบัตรของรัฐอาจสูงกว่าการกู้ยืมสุทธิของรัฐบาลกลาง ซึ่งอยู่ที่ราว 11.5 ล้านล้านรูปีในปีนี้

อ้างอิง : bloomberg.com

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ สถานการณ์รอบรั้วเอเชีย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...