"กกพ." ยกอุทธรณ์ "จีพีเอสซี" ควบรวมกิจการกับ "โกลว์" พิจารณาวินิจฉัยแล้ว ลดการแข่งขัน
นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า จากเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561 กกพ. ได้มีมติไม่เห็นชอบให้บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ“จีพีเอสซี” ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน กระทำการรวมกิจการกับบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ “โกลว์” ผู้รับใบอนุญาตอีกราย เนื่องจากเป็นการลดการแข่งขันตามนัยของมาตรา 60 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการพลังงานฯ และข้อ 8 ของระเบียบ กกพ. ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อมิให้มีการรวมกิจการอันก่อให้เกิดการผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน พ.ศ. 2552 ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 จีพีเอสซี ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่ง กกพ. ที่มีมติไม่เห็นชอบ ซึ่งเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ได้มีมติให้สำนักงาน กกพ. เสนอเรื่องอุทธรณ์ จีพีเอสซี เข้าสู่การพิจารณาของ คณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์คำวินิจฉัยคำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือข้อกำหนดของ กกพ.
*“เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา กกพ. มีมติให้ยกอุทธรณ์ของ จีพีเอสซี ที่ใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่ง กกพ. ที่ไม่เห็นชอบให้รวมกิจการกับ โกลว์ โดย กกพ. วินิจฉัยแล้ว เห็นว่า แม้ในธุรกิจของการจำหน่ายไฟฟ้าจะเป็นการผูกขาดโดยธรรมชาติ และในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่จะมีผู้ให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าเพียงรายเดียว *
แต่ตามข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในพื้นที่ที่มีการอุทธรณ์มีผู้ให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 2 รายในพื้นที่ การที่มีการรวมกิจการจนทำให้เหลือผู้ให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าเพียงรายเดียว โดยสภาพจึงเป็นการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น การไม่เห็นชอบให้กระทำการรวมกิจการตามที่ยื่นขออนุญาต เนื่องจากเป็นการลดการแข่งขันจึงเป็นการพิจารณาที่เป็นไปตามกฎหมายแล้ว”
ทั้งนี้ กกพ. ได้เห็นชอบตามความเห็นของคณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ที่ได้พิจารณาประเด็นข้อกฎหมายตามที่ จีพีเอสซี โต้แย้งคำสั่ง กกพ. แล้ว เห็นว่า การที่ กกพ. ไม่เห็นชอบให้กระทำการรวมกิจการตามที่ยื่นขออนุญาตเนื่องจากเป็นการลดการแข่งขัน จึงเป็นการพิจารณาที่เป็นไปตามกฎหมายแล้ว อุทธรณ์ของ จีพีเอสซี ในประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงที่ได้ยื่นอุทธรณ์มาจึงฟังไม่ขึ้น
แม้ในปัจจุบันอาจไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน แต่ในระยะยาวการที่ยังคงมีการแข่งขันในพื้นที่ย่อมดีกว่ามีผู้ประกอบกิจการเพียงรายเดียว กกพ. จึงควรส่งเสริมให้ยังคงมีการแข่งขันอยู่ต่อไป เพราะโดยพื้นฐานของธุรกิจลักษณะนี้ ผลประโยชน์สุดท้ายจะตกแก่ผู้รับบริการในพื้นที่ สำหรับขั้นตอนต่อไป ทางสำนักงาน กกพ. จะแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ให้ จีพีเอสซี รับทราบต่อไป นางสาวนฤภัทรฯ กล่าว
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
.
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!