สายป่าน เอาจริง! เรียก 5 ล้าน ครูสอนดำน้ำหมิ่นประมาท ลั่นรับคำขอโทษเป็นเงิน
เอาจริง! สายป่าน อภิญญา ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้อง เรียก 5 ล้านบาท ดดีครูสอนดำน้ำ หมิ่นประมาท ทำธุรกิจเสียหาย ลั่นรับขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น
วันที่ 7 มิ.ย. 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก น.ส.อภิญญา สกุลเจริญสุข หรือ สายป่าน นักแสดงนางเอกชื่อดัง พร้อมด้วยทนายความ นายเกรียงชัย วิศิษฎ์สรอรรถ เดินทางมาขึ้นศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง นาย วรพันธ์ ครูสอนว่ายน้ำ ครูสอนดำน้ำ เป็นจำเลยในความผิดฐาน หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำให้บริษัทขายอุปกรณ์ดำน้ำของน.ส.อภิญญา ได้รับความเสียหายทางธุรกิจ เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท
ทนาย : “ผมว่าแนวโน้มดีนะครับ ศาลท่านให้ความเมตตาบันทึกเรื่องราวตามความจริง ตอนนี้ไต่สวนน้องป่านเสร็จก็เหลือพยานอีกปากนึง เข้ามาสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องนี้ วันนี้คู่กรณีไม่มาครับ เขาก็ส่งทนายมา”
สายป่าน : “เงื่อนไขของเขายื่นข้อเสนอมาว่า อยากให้ป่านถอนฟ้องแล้วเขาก็จะขอโทษ แต่ว่าไม่ได้มีในเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหายตามที่เราเรียกไปค่ะ ป่านก็บอกไกล่เกลี่ยป่านเปิดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อย่างที่บอกมาตลอดป่านก็รอให้เขาโทรมา แต่เขาก็ไม่ติดต่อมาขอเจรจาอะไร จนกระทั่งถึงวันนี้ในส่วนที่เขายื่นมา ป่านรู้สึกว่ามันยังไม่พอ เพราะตอนที่เขากระทำมันเสียหายมากกว่านี้เยอะ แล้ว ณ ตอนนี้มันก็ยีงไม่ได้มีการแก้ข่าวชื่อเสียงป่านยังไม่ได้กลับมาเท่าเดิม ของก็ชายได้น้อยลง”
ตอนนี้ยังคงต้องการเงินอยู่? สายป่าน : “อยากได้ทั้งสองอย่างค่ะ อยากได้ทั้งคำขอโทษแล้วก็ค่าเสียหายส่วนที่มันเสียหายไป”
ทนาย : “เราบอกกับทางทนายต่อศาลว่าคุณจะเยียวยาเท่าไหร่ เสนอมาเผื่อมันคุยกันได้ก็จบกันไป ซึ่งเขาก็บอกว่าเขาไม่ประสงค์ที่จะจ่ายเลยเพราะว่าเขาไม่ผิด ก็ไม่รู้อะไรคือไม่ผิดเหมือนกัน เพราะความเสียหายมันก็ชัดเจน เสียหายค่อนข้างเยอะ ส่วนหลักฐานความเสียหายเราก็นำเสนอแค่บางส่วนเอาไว้ก่อน เดี๋ยวในชั้นพิจารณาถ้าหากศาลท่านประทับรับฟ้องคงจะได้เห็นว่าเสียหายมากน้อยแค่ไหน”
ถ้าเขาไม่สามารถจะจ่ายได้ เขาจะสามารถทำอะไรทดแทนเงินได้? ทนาย : “ถ้าคดีจบเดี๋ยวว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรมครับ เรื่องนี้จัดการได้ครับ”
การขอโทษตอนนี้มันไม่เพียงพอ เพราะมันเกินไปแล้ว? สายป่าน : “ประมาณนั้นค่ะ”
ทนาย : “อยากให้มองว่าฝ่ายไหนเสียหายมากกว่า 16 ก.ค.63 ตอนนี้มันล่วงเลยเวลามานานมาก ไม่เคยมีแม้แต่คำขอโทษ ไม่เคยมีการติดต่อมาแสดงความจริงใจใดใด ทางน้องก็เสียหายเรื่อย ๆ ทุกวันนี้น้องไปดำน้ำช่วงก่อนที่โควิดซาลงก็ยังมีคนมาถาม”
สายป่าน : “ยังถามเรื่องนี้อยู่ มีคนแบบว่าก็อตซิปค่ะว่าได้ยินข่าวเรื่องนี้ไหม แล้วมันก็เข้าหูป่านอยู่ว่ามีคนเคยถามเรื่องนี้ว่าเคยมีการเสียหายค่ะ”
จากการเจรจาในวันนี้เขางัดหลักฐานอะไรมา หรือว่าเขายอมอย่างเดียวเลย? ทนาย : “ไม่ครับ เขาก็สู้ แต่ว่าหลักฐานเขาก็ไม่ได้เยอะมากในวันนี้ครับ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าเป็นชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เขาก็อาจจะยังเก็บข้อมูลของเขาเอาไว้ แต่ว่าทางเราก็นำเสนอไปค่อนข้างชัดเจนในส่วนของความผิด แต่ในส่วนของค่าเสียหายบางส่วนเดี๋ยวถ้าเกิดประทับรับฟ้องได้เห็นแน่นอนว่าเราเสียหายมากขนาดไหน”
เขาพอจะบอกไหมว่าเหตุผลการกระทำของเขาคืออะไร? ทนาย : “ทางทนายเขาก็แจ้งว่าทางนั้นไม่ผิด ลักษณะว่าเขาแสดงความเห็นโดยชอบ ซึ่งจริง ๆ มันชัดเจนนะ เหมือนที่ทุกคนเห็น”
เขาไปเอาภาพจากคนอื่นมาด้วย? ทนาย : “ใช่ครับ ไม่ได้รับความยินยอม ทางเจ้าของฟินเขาก็ยังไม่ได้แจ้งอะไรเราเพิ่มเติมครับ”
ตอนนี้เราได้ยินรู้สึกยังไงบ้าง? สายป่าน : “มันก็ค้านกับความรู้สึกนะคะ ป่านก็รู้สึกแหละ ป่านถึงฟ้อง ป่านรู้สึกว่าเขาผิดแหละ เขากระทำความผิด หมิ่นประมาทเรา”
แสดงว่าเขามีหลักฐานแน่นหนาว่ายังไงเขาก็ไม่ผิด? สายป่าน : “ในส่วนของหลักฐานของเขาป่านไม่มั่นใจเลยว่าเขามีอะไรอยู่บ้าง แต่ในส่วนของป่าน ป่านมั่นใจในส่วนของป่านมากกว่า จากหลักฐานที่ชัดเจนว่าเขาผิด เขากระทำไปแล้ว หมิ่นประมาท”
เขาให้เหตุผลไหมว่าทำไมไม่ยอมจ่ายเป็นเงิน? สายป่าน : “ก็ไม่ได้บอกค่ะ”
ทนาย : “ขนาดผมได้ถามในวันไกล่เกลี่ย อันนี้ก็เพิ่งทราบว่าทนายเขาเพิ่งแต่งตั้งเข้ามาวันนี้ แต่ว่าคนที่วันนั้นไกล่เกลี่ยแล้วติดต่อไม่ได้ ก็เป็นทางทนายเขาติดต่อ เขาก็บอกว่าแจ้งแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของการสื่อสาร อันนี้เราก็ไม่ได้โทษอะไรกัน แต่ว่าการแสดงความจริงใจในการที่จะเยียวยา แก้ไข มันไม่มีจริงๆ ก็เดี๋ยวไต่สวนเหลือพยานอีกปากหนึ่งที่จะมาในชั้นไต่สวนวันที่ 16 มิ.ย.ก็ไม่น่าจะนานมาก สั้น ๆ ในเรื่องของลูกค้าที่เขายกเลิกไป เพราะเขาหลงเชื่อตรงนี้”
แนวโน้มในวันที่ 16 มิ.ย. จะเป็นอย่างไร? ทนาย : “ผมก็คิดว่าเอาความจริงเสนอศาล คิดว่าความชัดเจนน่าจะเปล่งประกายออกมาให้ได้เห็น” สายป่าน : “หวังว่าท่านคงเมตตาค่ะ”
ถ้าวันนี้เขาดูอยู่อยากจะบอกอะไรเขาไหม? ทนาย : “คุณทำอะไรไว้เราก็เปิดโอกาสให้คุณแสดงความจริงใจ มันไม่ใช่แค่คนหนึ่งที่เสียไป แต่มันเป็นบริษัทของน้องเขารวมถึงมีการแจ้งถึงปัญหากับทางประเทศกรีซ มันกระทบหลายฝ่ายแม่กระทั่งว่าคุณทำให้เกิดปัญหาตรงนี้แล้วโควิดมาเรามีคนต้องเลี้ยงดู แล้วถ้าเจอเรื่องแบบนี้คุณจะรู้สึกยังไงในเรื่องที่เกิดขึ้น”
ยังโกรธเขาอยู่ไหม? สายป่าน : “โกรธไหมหรอคะ มันก็เบาบางลง แต่อย่างที่บอกคือป่านไม่เคยรู้จักมาก่อน ป่านเคยทำอะไรให้เขามาก่อน ส่วนตัวป่านก็ไม่ได้เป็นคนมีนิสัยชอบมีปัญหาอะไรกับใครอยู่แล้ว ป่านไม่เข้าใจเหตุผล แล้วเขาจะมาทำแบบนี้กับป่านทำไม ทั้งที่เราต่างคนต่างอยู่ก็ได้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจ”
เงิน 5 ล้านเยอะไปไหม? สายป่าน : “อย่างที่พี่ตั้มบอก เราเปิดว่าเขาไหวเท่าไหร่ ก็มีการเจรจากันก่อนว่าประมาณไหนที่โอเคกันทั้งสองคน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้กระทั่งวันนี้มันคือโอกาส ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาปีที่แล้ว ก.ค.จนถึงตอนนี้มันก็จะปีหนึ่งแล้ว ไม่เคยมีเลยทั้ง ๆ ที่ป่านให้โอกาสเขามาตลอด”
คิดว่าจะยืดเยื้อกันอีกไหม? ทนาย : “ผมว่าคงไม่ครับ เพราะว่าสืบเราสืบแค่ปากเดียว พยานในส่วนที่เขาหลงเชื่อ หลังจากนั้นศาลก็คงนัดฟังว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่”
ถ้าเกิดเขาไม่มีเขาจะต้องจ่ายเราแบบไหน? ทนาย : “ตรงนี้ก็เดี๋ยวอาจจะต้องดำเนินการผู้บังคับคดีไปอีกทีตามกระบวนการยุติธรรมเพราะเราก็ดำเนินการตามกฎหมายอยู่แล้วครับ”
เรียกความเสียหายตามความเหมาะสมแล้ว? ทนาย : “จริง ๆ ถ้าเห็นความเสียหายของป่าน ที่มันส่งผลไปถึงที่กรีซมันเกินกว่าที่เราเรียก 5 ล้านนะ”
สายป่าน : “ป่านมองตรงนี้ 5 ล้าน เป็นราคาที่ถ้าเทียบกับความเสียหายที่มันเมกเซ้นต์มันไม่ได้เยอะแบบน่าเกลียด ถ้าเกิดเทียบกับความเสียหายที่เสียไปนะคะ”
ทนายเขาพูดแย้งเรื่องเงินไหม? ทนาย : “เขาก็พูดในลักษณะเหมือนเราไม่ได้เสียหายนะ แล้วก็มีเอกสารให้ดูบางส่วนอย่างเช่นว่าการยกเลิกเกือบล้าน มันเยอะนะ เขาก็ได้เห็นนะ บางส่วนเอง จริง ๆ มันมีมากกว่านี้ ถ้าเขาเห็นแล้วเขาน่าจะตกใจ เขาพูดแต่อย่างนี้ว่าไม่เสียหายหรอก แต่คือทางเรามันชัดเจนครับ ถ้าเกิดไปดูคนที่ซื้อของป่านช่วงก่อนที่มีเรื่อง ก็จะมีคนโพสต์ตลอด ตอนนี้แบรนด์นี้คนอุดหนุนน้อยไปเลย ทั้ง ๆ ที่สินค้ามันก็ดีมีนักดำน้ำระดับโลกใช้จริง ๆ”
พอเขาบอกว่าไม่น่าจะเสียหายอะไรเราว่ายังไงบ้าง? สายป่าน : “ก็พูดยากค่ะ เขาไม่ใช่ป่าน เขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันเสียหายอะไรไปบ้าง”
ถ้าเขาออกมาพูดแก้ข่าวออกสื่อให้ล่ะ? สายป่าน : “พูดแก้ข่าวออกสื่ออันนั้นก็อยู่ในข้อเรียกร้องหนึ่งของป่านเหมือนกัน ถ้าในกรณีที่ศาลท่านเมตตานะคะ สิ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่เขาต้องทำอยู่แล้วแต่นอกเหนือจากนั้นมันยังมีดีเทลอื่น ๆ อีกที่เราเรียกร้องไป”
เขาบอกไหมว่าจะขอโทษแก้ข่าวทางเฟซบุ๊ก? ทนาย : “ไม่เลย เขาขอโทษเฉย ๆ แต่ไม่ได้บอกว่าขอโทษอะไรด้วย ทั้งนี้เราก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นความจริงใจหรือเปล่า ขนาดศาลท่านยังบอกเลยว่าดูแนวโน้มไม่น่าจะคุยกันได้นะ”
หลักฐานเรามีอะไรบ้าง? ทนาย : “เป็นฐานที่เขากระทำความผิดต่าง ๆ ถ้ามีบุคคลหลงเชื่อใครบ้าง ความเสียหายเบื้องต้นเท่าไหร่บ้าง แล้วก็ในส่วนที่เขาแจ้งข้อความบิดเบือนไป เป็นเท็จ ก็มีหลักฐานมาเสนอศาลว่า เรื่องจริงเป็นอย่างไร”
เจ้าของภาพตัวจริงเขาว่ายังไงบ้าง? สายป่าน : “แล้วเจ้าของของชิ้นนั้นได้เข้ามาคอมเมนต์แล้วเหมือนกัน อยู่ในโพสต์ที่เขาโพสต์ลงไปเจ้าของได้ออกมาชี้แจงแล้ว ซึ่งเจ้าของความก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ตอบว่ายังไม่เชื่อแล้วก็พยายามจะเบี่ยงเบนประเด็น เป็นการตอบคอมเมนต์ด้วยประโยคคำถามว่าจริงหรอ?ใช่มั้ย? ชี้แจงหน่อย?”
วันหน้าตัวเขาจะได้มาด้วยไหม? ทนาย : “ถ้าศาลประทับรับฟ้องเขาได้มาแน่ครับ จะเจอเขาเหมือนกันอยากรู้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้คนที่ไม่ได้รู้จักกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันด้วย”