โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาหาร

อ่านเรื่องราวดีๆ ‘ทีมประเทศไทย’ ฝ่าวิกฤตโควิด พาคนไทยกลับบ้าน!!

The Bangkok Insight

อัพเดต 20 เม.ย. 2563 เวลา 06.27 น. • เผยแพร่ 20 เม.ย. 2563 เวลา 06.25 น. • The Bangkok Insight

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy,Budapest ของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี โพสต์เรื่องราวสุดประทับใจในการช่วยเหลือคนไทยที่ติดอยู่ในกรุงพอกโกริซา ประเทศมอนเตเนโกร เพียงคนเดียว เพราะไม่มีเที่ยวบินกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยระบุว่า สถานทูตอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ จากเรื่องราวการให้ความช่วยเหลือพี่น้องคนไทยนะคะ

Mission Impossible?

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 สถานทูตได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยว่าติดอยู่ที่กรุงพอดโกริซา ประเทศมอนเตเนโกร เนื่องจากตกเครื่องบินและไม่มีเที่ยวบินกลับประเทศไทยอีกต่อไป สถานทูตได้พยายามหาเที่ยวบินในเมืองต่างๆ ทั้งจากกรุงซาราเยโว ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา หรือจากกรุงซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะอุปสรรคนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดการเดินทางภายในมอนเตเนโกร การทยอยปิดพรมแดน การปิดสนามบิน การยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศ อีกทั้งกฎระเบียบภายในที่เคร่งครัดทำให้แพทย์มอนเตเนโกรไม่สามารถออกใบรับรองแพทย์เพื่อการขึ้นเครื่องบินได้หากนักท่องเที่ยวชาวไทยยังไม่กักตัวครบ 28 วัน ฤาแผนการช่วยนักท่องเที่ยวชาวไทยจะเป็น Mission Impossible?

วางแผนการใหญ่

จากการติดต่อพูดคุยรายวัน สถานทูตรับทราบถึงความใจสู้ของนักท่องเที่ยวไทยเพื่อเอาตัวรอดในกรุงพอดโกริซา เพราะการพำนักอยู่ในประเทศที่เราไม่เคยไปมาก่อนและการมีโรคระบาดร้ายแรงเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องสนุกอีกต่อไป สถานทูตยืนยันกับนักท่องเที่ยวคนนี้ว่าเราจะพาคุณกลับบ้านให้ได้! จากการประเมินสถานการณ์ สนามบินนานาชาติ ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการีกลายเป็นสถานบินที่ใกล้ที่สุด แต่ก็ยังห่างจากกรุงพอดโกริซาเกือบ 1,200 กิโลเมตร

การเดินทางจะเป็นไปได้อย่างไร ภายใต้สถานการณ์ที่ทุกประเทศปิดชายแดนและไม่ให้ชาวต่างชาติผ่านแดนรวมทั้งออกมาตรการกักตัว 14 หรือ 28 วัน

สถานทูตต้องวางแผนที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเพราะต้องมั่นใจว่าเมื่อเริ่มการเดินทางซึ่งต้องใช้ทางรถยนต์เท่านั้น ชายคนนี้ต้องไม่ถูกกักตัวที่ด่านประเทศใด มิฉะนั้นอาจจะไปตกค้างที่ประเทศที่สาม ซึ่งจะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย แผนการเดินทางกลับบ้านครั้งนี้จะต้องไม่มีพื้นที่ให้กับความผิดพลาดใดๆ

สานความร่วมมือพิเศษกับ 7 ประเทศ

ในที่สุด วันเดินทางก็มาถึง (16-18 เม.ย. 2563) การเดินทางด้วยทางรถยนต์จากกรุงพอดโกริซาถึงกรุงเวียนนาที่มีระยะทางกว่า 1,380 กิโลเมตร (ไกลกว่ากรุงเทพฯ ไปถึงชายแดนไทยที่อำเภอเบตง จ.ยะลา) สถานทูตได้จัดหารถเช่าจากกรุงพอดโกริซาและต้องมั่นใจว่ารถคันนี้สามารถเดินทางผ่านด่านได้ โดยเปลี่ยนเป็นรถเช่าคันที่ 2 เมื่อผ่านเข้าชายแดนโครเอเชียและต้องผ่านดินแดนของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ตรงเข้ากรุงซาเกร็บ ประเทศโครเอเชียและมุ่งสู่ชายแดนประเทศฮังการี โดยสถานทูตได้จัดรถของสถานทูตไปรับจากชายแดนฮังการีเพื่อเข้ามายังกรุงบูดาเปสต์ และไปส่งที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียเพื่อขึ้นเครื่องบินจากสนามบินกรุงเวียนนา ลงต่อเครื่องที่นครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ไปยังนครอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อขึ้นเครื่องบินเที่ยวพิเศษกลับประเทศไทย

โดยสถานทูตได้ติดตามการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยอย่างใกล้ชิดตลอดการเดินทางและได้ประสานงานขอความร่วมมือจาก 5 ประเทศที่เป็นทางผ่านเพื่ออนุญาตให้คนไทยผ่านแดนเป็นกรณีพิเศษ อีกทั้งประสานไปที่ทุกจุดผ่านแดนเพื่อซักซ้อมความเข้าใจให้ตรงกันว่าห้ามกักตัวคนไทยคนนี้เด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดๆ

นอกจากนี้ ทุกจุดที่ต่อเครื่องบินที่กรุงเวียนนา นครแฟรงก์เฟิร์ตและนครอัมสเตอร์ดัมก็มีเจ้าหน้าที่สถานทูตและสถานกงสุลไปรอรับเพื่อให้มั่นใจว่านักท่องเที่ยวคนนี้สามารถขึ้นเครื่องบินเดินทางต่อไปได้โดยไม่มีปัญหา รวมไปถึงการจัดหาโรงแรมที่พักระหว่างรอต่อเครื่อง ณ สนามบินนครอัมสเตอร์ดัม เพื่อไม่ให้ต้องนอนในเทอร์มินอล ซึ่งโรงแรมก็ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ เพราะโรงแรมส่วนใหญ่ปิดทำการแล้ว และบัดนี้ นักท่องเที่ยวไทยคนนี้ก็กลับคืนสู่มาตุภูมิและเข้ารับการกักตัว 14 วัน ตามระเบียบแล้ว

บทสรุป

แผนการช่วยเหลือคนไทยและการเดินทางไกลครั้งนี้จะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลยหากสถานทูตไม่ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศของ 5 ประเทศได้แก่ ฮังการี ออสเตรีย มอนเตเนโกร โครเอเชียและบอสเนียฯ ที่ได้ประสานต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกให้ตลอดทาง พี่น้องคนไทยในมอนเตเนโกรที่ไม่เคยทอดทิ้งคนไทยด้วยกันโดยได้ช่วยให้คำปรึกษาเรื่องการหาที่พักราคาประหยัดในกรุงพอดโกริซา การหาซื้ออาหารและหารถเช่าระหว่างมอนเตเนโกรมาจนถึงชายแดนโครเอเชีย ความช่วยเหลือและประสานงานของกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ Konzulat Kraljevine Tajland u Zagrebu ที่ได้จัดหารถเช่าจากโครเอเชียมายังฮังการีและได้ช่วยติดต่อกับทุกด่านผ่านแดนในโครเอเชีย คุณหมอที่ Swiss Clinic กรุงบูดาเปสต์ที่ตรวจและออกใบรับรองแพทย์ fit to fly ในเวลา 21.30 น. สถานทูตไทย ณ กรุงเวียนนา Royal Thai Embassy Vienna สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต Royal Thai Consulate-General, Frankfurt และสถานทูตไทย ณ กรุงเฮก Royal Thai Embassy The Hague ที่ได้ช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกการเดินทาง ณ สนามบินที่เกี่ยวข้อง

รวมทั้ง กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้อนุมัติให้สถานทูตได้ดำเนินการช่วยเหลือทั้งด้านอาหารและที่พักเพื่อบรรเทาความยากลำบากของคนไทยในยามตกทุกข์ได้ยาก ทั้งหมดนี้คือการร่วมแรงร่วมใจของทีมประเทศไทยทั้งหมดเพื่อให้คนไทยได้กลับไปเหยียบผืนแผ่นดินไทยอีกครั้งพร้อมด้วยรอยยิ้ม

#การทูตเพื่อประชาชนทุกแห่งหนเราดูแล #ทีมประเทศไทย #เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน #COVID19

https://www.facebook.com/thaiembassy.hu/photos/pcb.3187288347970321/3187315167967639/?type=3&theater

 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...