"เซฟตี้ คลีน" ภารกิจฆ่าไวรัส ทำความสะอาดสถานที่สู่เขตปลอดเชื้อ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การรักษาความสะอาดโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อสิ่งของต่าง ๆ รวมไปถึงสถานที่มีความจำเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์ทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อโรคยังหายาก แถมยังมีราคาค่อนข้างสูงขึ้น
บริษัท ฟาร์มสุข (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ (ออร์แกนิก) มีหน่วยธุรกิจเซฟตี้ คลีน (Safety Clean) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่นาน โดยทำภารกิจให้บริการทำความสะอาดสถานที่ต่าง ๆ ตามมาตรฐานอนามัยระดับสากล โดยเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในองค์กรออกไปช่วยเหลือหน่วยงานต่าง ๆ ที่ยังมีความจำเป็นต้องเปิดให้บริการแก่ประชาชนอยู่ โดยล่าสุดเปิดให้บริการแก่ศูนย์บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิในการทำความสะอาดอุปกรณ์และพ่นฆ่าเชื้อโรคในสำนักงานโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
“สุนทร งามเกิดศิริ” ประธานกรรมการบริหาร เซฟตี้ คลีน ภายใต้บริษัท ฟาร์มสุข (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน บริษัทคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดจะลากยาวไปอีก 3-6 เดือน ซึ่งจะทำให้ประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ตระหนักถึงการรักษาความสะอาด และมีความต้องการใช้น้ำยาฆ่าเชื้่อโรคในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก
“นอกเหนือจากการเฝ้าระวังดูแลสุขอนามัยส่วนตัวเพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัส และคนรอบข้างในเบื้องต้นแล้ว การดูแลความสะอาดสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดในโรคโควิด-19 เช่นกัน เราจึงเริ่มให้บริการทำความสะอาดพร้อมกับฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีมาตรฐานสากลตามสถานที่ต่าง ๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพราะที่ผ่านมาได้เข้าทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อให้กับสถานศึกษา วัด และสถานที่ราชการ”
“เราสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมนี้มาที่ศูนย์บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิ เพราะเล็งเห็นว่าศูนย์บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิมีภารกิจให้บริการทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากหลายประเทศ และไม่สามารถปิดให้บริการได้ เพราะประเทศไทยยังเปิดให้มีการเข้าออกอยู่ เพียงแต่เพิ่มการเฝ้าระวังมากขึ้น จึงส่งผลให้พนักงานของศูนย์บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิบางส่วนยังต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก มีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19”
“สุนทร” อธิบายว่าเซฟตี้มีความเชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อในอาคาร สถานที่ รวมทั้งมีอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย และน้ำยาทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อที่ใช้มีมาตรฐาน มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้ความปลอดภัยต่อมนุษย์
“น้ำยาที่เราใช้มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดและฆ่าเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย วัณโรค H1N1 ไข้หวัดใหญ่ มือเท้าปาก ร่วมทั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย รวมถึงพนักงานให้บริการทำความสะอาดยังผ่านการอบรมหลักทำความสะอาดอย่างเข้มงวด โดยแบ่งงานออกเป็น 2 ส่วน ส่วนเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะพื้นผิวสัมผัสใกล้ชิดกับคน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ และคอมพิวเตอร์ และอีกส่วนคือฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคตามห้องต่าง ๆ ในสำนักงาน”
“นอกจากกิจกรรมซีเอสอาร์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสถานที่ต่าง ๆ แล้ว เรายังนำอาหารและเครื่องดื่ม แจกฟรีให้กับประชาชนทุกวันอังคาร ที่สยาม แกลเลอรี่ จำนวน 200 กล่อง”
“พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง” รอง ผบช.ทท. สำนักงานตำรวจท่องเที่ยว สุวรรณภูมิ กล่าวเสริมว่าศูนย์บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือตำรวจกว่า 200 นาย เป็นศูนย์บัญชาการที่เป็นศูนย์กลางของสำนักงานตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศ
“เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เรายังคงปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ เพราะยังมีนักท่องเที่ยวเข้า-ออกประเทศไทย พวกเราจึงต้องแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ทีม เพื่อสลับกันทำงานที่บ้าน และมีการทำความสะอาดสำนักงานทุกวันพุธ ซึ่งการให้ความช่วยเหลือจากเซฟตี้ คลีน ถือว่าสามารถแบ่งเบาภาระของเราไปได้มาก”
จึงนับเป็นภาคเอกชนอีกรายที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสังคม เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตไวรัสโควิด-19 อย่างมีความเสียหายน้อยที่สุด