โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

"เซฟตี้ คลีน" ภารกิจฆ่าไวรัส ทำความสะอาดสถานที่สู่เขตปลอดเชื้อ

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 22 เม.ย. 2563 เวลา 07.15 น. • เผยแพร่ 22 เม.ย. 2563 เวลา 07.15 น.

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การรักษาความสะอาดโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อสิ่งของต่าง ๆ รวมไปถึงสถานที่มีความจำเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์ทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อโรคยังหายาก แถมยังมีราคาค่อนข้างสูงขึ้น

บริษัท ฟาร์มสุข (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ (ออร์แกนิก) มีหน่วยธุรกิจเซฟตี้ คลีน (Safety Clean) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่นาน โดยทำภารกิจให้บริการทำความสะอาดสถานที่ต่าง ๆ ตามมาตรฐานอนามัยระดับสากล โดยเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในองค์กรออกไปช่วยเหลือหน่วยงานต่าง ๆ ที่ยังมีความจำเป็นต้องเปิดให้บริการแก่ประชาชนอยู่ โดยล่าสุดเปิดให้บริการแก่ศูนย์บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิในการทำความสะอาดอุปกรณ์และพ่นฆ่าเชื้อโรคในสำนักงานโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

“สุนทร งามเกิดศิริ” ประธานกรรมการบริหาร เซฟตี้ คลีน ภายใต้บริษัท ฟาร์มสุข (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน บริษัทคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดจะลากยาวไปอีก 3-6 เดือน ซึ่งจะทำให้ประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ตระหนักถึงการรักษาความสะอาด และมีความต้องการใช้น้ำยาฆ่าเชื้่อโรคในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก

“นอกเหนือจากการเฝ้าระวังดูแลสุขอนามัยส่วนตัวเพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัส และคนรอบข้างในเบื้องต้นแล้ว การดูแลความสะอาดสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดในโรคโควิด-19 เช่นกัน เราจึงเริ่มให้บริการทำความสะอาดพร้อมกับฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีมาตรฐานสากลตามสถานที่ต่าง ๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพราะที่ผ่านมาได้เข้าทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อให้กับสถานศึกษา วัด และสถานที่ราชการ”

“เราสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมนี้มาที่ศูนย์บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิ เพราะเล็งเห็นว่าศูนย์บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิมีภารกิจให้บริการทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากหลายประเทศ และไม่สามารถปิดให้บริการได้ เพราะประเทศไทยยังเปิดให้มีการเข้าออกอยู่ เพียงแต่เพิ่มการเฝ้าระวังมากขึ้น จึงส่งผลให้พนักงานของศูนย์บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิบางส่วนยังต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก มีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19”

“สุนทร” อธิบายว่าเซฟตี้มีความเชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อในอาคาร สถานที่ รวมทั้งมีอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย และน้ำยาทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อที่ใช้มีมาตรฐาน มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้ความปลอดภัยต่อมนุษย์

“น้ำยาที่เราใช้มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดและฆ่าเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย วัณโรค H1N1 ไข้หวัดใหญ่ มือเท้าปาก ร่วมทั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย รวมถึงพนักงานให้บริการทำความสะอาดยังผ่านการอบรมหลักทำความสะอาดอย่างเข้มงวด โดยแบ่งงานออกเป็น 2 ส่วน ส่วนเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะพื้นผิวสัมผัสใกล้ชิดกับคน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ และคอมพิวเตอร์ และอีกส่วนคือฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคตามห้องต่าง ๆ ในสำนักงาน”

“นอกจากกิจกรรมซีเอสอาร์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสถานที่ต่าง ๆ แล้ว เรายังนำอาหารและเครื่องดื่ม แจกฟรีให้กับประชาชนทุกวันอังคาร ที่สยาม แกลเลอรี่ จำนวน 200 กล่อง”

“พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง” รอง ผบช.ทท. สำนักงานตำรวจท่องเที่ยว สุวรรณภูมิ กล่าวเสริมว่าศูนย์บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือตำรวจกว่า 200 นาย เป็นศูนย์บัญชาการที่เป็นศูนย์กลางของสำนักงานตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศ

“เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เรายังคงปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ เพราะยังมีนักท่องเที่ยวเข้า-ออกประเทศไทย พวกเราจึงต้องแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ทีม เพื่อสลับกันทำงานที่บ้าน และมีการทำความสะอาดสำนักงานทุกวันพุธ ซึ่งการให้ความช่วยเหลือจากเซฟตี้ คลีน ถือว่าสามารถแบ่งเบาภาระของเราไปได้มาก”

จึงนับเป็นภาคเอกชนอีกรายที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสังคม เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตไวรัสโควิด-19 อย่างมีความเสียหายน้อยที่สุด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...