Sea ลุยฟินเทคในไทย ยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank แล้ว จ่อเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่สุด
Sea ของสิงคโปร์ ยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank ในไทย เล็งขยายธุรกิจฟินเทคและบริการการเงิน ชี้ อาจเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุด หากได้รับอนุมัติจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
วันที่ 30 กันยายน 257 สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า *ซี (Sea) บริษัทเทคโนโลยีของสิงคโปร์ เจ้าของแพลตฟอร์ม Shopee กำลังพยายามขยายบริการธนาคารดิจิทัลโดยการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ในไทย หลังจากเปิดตัวในสิงคโปร์และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้*
ใบอนุญาต Virtual Bank ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถเสนอบริการทางการเงินได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เช่น เงินฝาก เงินกู้ และการจัดการสินทรัพย์ โดยไม่จำเป็นต้องมีสาขาธนาคาร และช่วยให้ผู้บริโภคที่ไม่มีบัญชีธนาคารสามารถเข้าบริการเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
การยื่นใบอนุญาตดังกล่าวมีเส้นตายวันสุดท้ายคือวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่ามี บริษัทและธนาคาร 5 แห่ง รวมถึง Seaยื่นขอใบอนุญาตดังกล่าว
Sea เปิดเผยว่า ได้ยื่นใบอนุญาต ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับ ธนาคารกรุงเทพ รวมถึง BTS , สหกรุ๊ป (Saha Group) และ ไปรษณีย์ไทย โดย Seaมีแผนที่จะใช้ความร่วมมือเหล่านี้เพื่อเสนอบริการทางการเงินดิจิทัลที่สร้างสรรค์ โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับบริการทางการเงินมากเพียงพอ
สำนักข่าวนิกเกอิระบุว่า หากการยื่นใบอนุญาตประสบความสำเร็จ Seaจะเป็นผู้นำการลงทุนในธุรกิจ Virtual Bank ใหม่นี้ ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ อีก 4 แห่งจะลงทุนในลักษณะเดียวกัน
การเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจทางการเงินของSea ในภูมิภาคอาเซียน โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้เปิดตัว SeaBank ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ รวมถึง MariBank ในสิงคโปร์ และมีแผนที่จะเข้าสู่ตลาดมาเลเซียภายในสิ้นปี 2567
Seaให้ความสำคัญกับบริการทางการเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเปิดตัว SeaMoney ซึ่งเป็นธุรกิจการเงินในปี 2557 ปัจจุบันบริษัทให้บริการชำระเงินดิจิทัล สินเชื่อ และบริการธนาคารในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 6 แห่ง
ในปี 2566 ธุรกิจฟินเทคของ Sea สร้างรายได้ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 44% จากปีก่อนหน้า รวถึงกำไร 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังการปรับ EBITDA แล้ว ซึ่งพลิกฟื้นหลังจากที่ขาดทุน 228 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อน โดยธุรกิจฟินเทคของ Se ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับอีคอมเมิร์ซและเกม
ธนาคารแห่งประเทศไทย จะประกาศรายชื่อผู้ได้รับใบอนุญาต Virtual Bank ภายในกลางปี 2568 หลังจากนั้นจะมีเวลาประมาณ 1 ปีในการเตรียมเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นก่อนจะเริ่มดำเนินการได้ โดยนายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ธปท.จะประเมินผู้สมัครตามคุณสมบัติและความสามารถในการดำเนินการตามแผนธุรกิจที่เสนอในด้านสำคัญ ๆ หลายประการ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการยื่นขอใบอนุญาตจะประสบความสำเร็จ แต่ก็อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งกว่าที่ผู้ได้รับใบอนุญาตจะสามารถทำกำไรได้ เนื่องจากต้องลงทุนเริ่มต้นจำนวนมากและการแข่งขันที่รุนแรงจากธนาคารแบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่น ธุรกิจธนาคารดิจิทัลของ Grab ของสิงคโปร์ ก็ยังคงอยู่ในระยะการลงทุนและคาดว่าจะไม่คุ้มทุนจนกว่าจะถึงปี 2569
ทั้งนี้ รายงานของ Google, Temasek Holdings และ Bain & Co. ระบุว่า ธุรกรรมการชำระเงินดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะเติบโตถึง 2.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573 ซึ่งสูงกว่าปี 2564 เกือบ 3 เท่า นอกจากนี้ คาดว่าการให้สินเชื่อดิจิทัลในอาเซียนจะสูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.5 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน
อ้างอิง : asia.nikkei.com