‘รวีวรรณ ภูริเดช’ปลัดทส.เข้ากระทรวงวันแรกบอกอบอุ่นเหมือนกลับบ้าน
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นางรวีวรรณ ภูริเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ เดินทางเข้ากระทรวงเป็นวันแรก พร้อมสักการะพระพุทธสยัมภู สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรฯ มาร่วมแสดงความยินดี และมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น
จากนั้นนางรวีวรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนพร้อมที่จะทำงาน เพราะเหมือนเราได้กลับบ้าน ตนอยู่กระทรวงทรัพยากรฯ มาประมาณ 25 ปี แม้จะมีช่วงหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำเรื่อง One Map ที่สำนักงานนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) แต่ก็มีการเชื่อมโยงการทำงานกับกระทรวงทรัพยากรฯ มาโดยตลอด ซึ่งการกลับมาที่นี่ ก็ได้รับความอบอุ่นเหมือนกลับบ้าน
ส่วนนโยบายเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ นางรวีวรรณ กล่าวว่า มีภารกิจค่อนข้างมากและมีความสำคัญในหลายส่วน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เรื่องฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เข้ามาช่วยกำกับดูแลแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ทั้งในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล รวมทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ปัจจุบันกรมควบคุมลพิษ (คพ.) ได้ร่วมมือกับ กทม. และภาคเอกชน ออกโปรสู้ฝุ่น โดยภาคเอกชนให้ส่วนลดในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง บำรุงรักษารถยนต์เก่า โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล นอกจากนี้ยังมีเรื่องการจัดการขยะ ภัยไฟป่าในช่วงมกราคม-มีนาคม 2569 ที่ต้องเฝ้าระวัง
นางรวีวรรณ กล่าวต่อว่า รวมทั้งการบริหารจัดการป่าไม้ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว เรื่อง Net Zero รวมถึงการให้ความร่วมมือช่วยเหลือปัญหาพื้นที่ชายแดน ซึ่งได้ส่งกำลังพลของกระทรวงทรัพยากรฯ ไปช่วยในทุกสถานการณ์หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ตามนโยบายรัฐบาลซึ่งได้กำชับให้มีการประหยัดงบประมาณ และส่วนการทำงานต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ดังนั้นทุกหน่วยงานต้องมีวิธีการทำงานที่ต้องอยู่ภายใต้งบประมาณที่จำกัด ซึ่งต้องพิจารณาว่าต้องนำเทคโนโลยีลักษณะใดเข้ามาช่วย เช่น เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม หรือการสำรวจอื่นๆ
ส่วนเรื่องการบริหารจัดการที่ดินในเขตป่าหรือพื้นที่ทับซ้อน นางรวีวรรณ กล่าวว่า ภาพรวมทั้งประเทศต้องว่ากันไปตามการพิจารณาการใช้ประโยชน์ และการรับฟังข้อเท็จ คือหัวใจสำคัญที่จะให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน หากประชาชนอยู่ก่อนการประกาศเป็นที่ดินของรัฐ เราก็ต้องให้ความเป็นธรรม ซึ่งถือเป็นธรรมาภิบาลที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันเราก็ต้องรักษาป่าให้เต็มที่ แต่ในพื้นที่ใดในอดีตมีการประกาศทับพื้นที่ทับซ้อน เราต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การอ่านภาพถ่ายอากาศในอดีต ภาพถ่ายดาวเทียม โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เป็นหลักธรรมาภิบาลที่ให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่เดือดร้อนด้วย ในส่วนของ One map เราได้ดำเนินการแล้วเสร็จทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว โดยจะนำมาเป็นเครื่องมือช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ด้วย รวมถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียว พื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ก็ต้องผนวกรวมเพิ่มตามนโยบายและเป้าหมาย Net Zero ของรัฐบาล
ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ กล่าวอีกว่า ตนได้พูดคุยกับรมว.ทรัพยากรฯ แล้ว ซึ่งขอให้มีการเร่งรัดในส่วนของการจัดการพื้นที่ป่าไม้ถาวรเป็นอันดับต้น ซึ่งพื้นที่ป่าไม้ถาวรมีประมาณ 3 ล้านไร่ ปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ซึ่งจากการสำรวจพบว่าในบางพื้นที่มีราษฎรเข้าไปใช้ประโยชน์แล้ว และพบว่ายังเป็นพื้นที่สีเขียวอีกประมาณ 1 ล้านไร่ โดยจะมีการขับเคลื่อนให้เกิดการอนุญาตให้ราษฎรอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะตอนนี้การค้าขายกับต่างประเทศ หากมาจากแหล่งกำเนิดที่ยังไม่มีการรับรอง จะไม่สามารถจำหน่ายส่งออกไปยังต่างประเทศได้ ราษฎรจะมีความเดือดร้อนมาก โดยในเรื่องนี้รอเข้าการพิจารณาจาก ครม. ซึ่งหาก ครม.เห็นชอบ กรมป่าไม้จะนำเข้ากระบวนการ โดยส่วนหนึ่งจัดเข้าพื้นที่ทำกินของราษฎร อีกส่วนหนึ่งจะเป็นพื้นที่ป่า