โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สภาผู้บริโภคถาม เซฟตี้อยู่ไหน? ปมผู้โดยสารกระเด็นจากรถ หลังรถทัวร์ชนรถบรรทุก

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพจากมติชน

สภาผู้บริโภคกางสถิติอุบัติเหตุรถโดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 พบยอดพุ่งเฉลี่ยวันละ 7 ครั้ง จี้รัฐเร่งปรับระบบกำกับดูแลเชิงรุก หลังเหตุรถทัวร์ชนท้ายที่เพชรบุรีสะท้อนความล้มเหลวเชิงโครงสร้าง ทั้งปัญหาพนักงานขับรถหลับใน-มาตรการเข้มงวดเข็มขัดนิรภัยที่ไร้ประสิทธิภาพ พร้อมเปิดแผนรับมือปีใหม่ 2569 ย้ำผู้บริโภคต้องเข้าถึงสิทธิเยียวยาหลักแสนและระวังภัย “ตั๋วผีออนไลน์”

จากกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้ออย่างรุนแรง เมื่อเช้ามืดของวันที่ 26 ธันวาคม บนถนนเพชรเกษมขาเข้า กรุงเทพมหานคร บริเวณกิโลเมตรที่ 162+425 ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ส่งผลให้มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงจนกระเด็นทะลุกระจกออกนอกรถ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกและตั้งคำถามต่อความปลอดภัยของการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลปีใหม่

อุบัติเหตุซ้ำซาก สะท้อนปัญหาเชิงระบบ

วันที่ 28 ธันวาคม 2568 นายคงศักดิ์ ชื่นไกรลาศ ผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค ให้ความเห็นว่า อุบัติเหตุรถทัวร์ชนท้ายรถบรรทุกที่อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ 2569 ครั้งนี้ ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเพียงความประมาทของพนักงานขับรถเพียงรายเดียว แต่เป็นภาพสะท้อนของปัญหาเชิงระบบในการบริหารจัดการความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะในปัจจุบัน

โดยเฉพาะการเดินรถระยะทางไกลข้ามคืนที่ต้องใช้เวลาต่อเนื่องหลายชั่วโมง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออาการอ่อนล้าและการหลับในของผู้ขับขี่ และอาจนำไปสู่อุบัติเหตุรุนแรงจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นภายใต้ภาวะการขับขี่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน สอดคล้องกับสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 5 มกราคม 2568 พบว่า มีอุบัติเหตุรถโดยสารเกิดขึ้น 38 ครั้ง หรือเฉลี่ยวันละ 7 ครั้ง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 สะท้อนให้เห็นว่าการเดินทางช่วงเทศกาลยังคงเป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงสูงอย่างมีนัยสำคัญ

นายคงศักดิ์ ระบุว่า หากพิจารณาเหตุการณ์นี้ในเชิงโครงสร้าง จะพบปัจจัยเสี่ยงสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ คน รถ และระบบ ในส่วนของพนักงานขับรถ ลักษณะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเข้าข่ายความเสี่ยงจากอาการวูบหรือหลับใน ซึ่งนำไปสู่คำถามสำคัญว่า รถโดยสารคันดังกล่าวมีพนักงานขับรถกี่คน คนขับเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่เวลาใด ขับรถต่อเนื่องมาแล้วกี่ชั่วโมง และได้พักผ่อนอย่างเพียงพอก่อนปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกัน การที่มีผู้โดยสารกระเด็นออกนอกรถผ่านกระจก นอกจากจะเกิดจากแรงปะทะของการชนแล้ว ยังสะท้อนปัญหาการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย หรือการไม่มีเข็มขัดนิรภัยที่มีคุณภาพเพียงพอให้ผู้โดยสารใช้งาน แสดงให้เห็นว่าการบังคับใช้มาตรการคาดเข็มขัดนิรภัยในรถโดยสารยังไม่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ทั้งในเชิงนโยบายและการปฏิบัติของผู้ประกอบการและหน่วยงานรัฐ ซึ่งการไม่มีระบบแจ้งเตือนหรือควบคุมให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัด เท่ากับปล่อยให้ความเสี่ยงด้านการบาดเจ็บรุนแรงดำรงอยู่ตลอดการเดินทาง

นอกจากนี้ ยังพบว่าระบบบริหารจัดการและการกำกับดูแลของภาครัฐเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แม้จะมีกฎระเบียบด้านความปลอดภัย รวมถึงข้อมูลสถิติอุบัติเหตุและเส้นทางเสี่ยงอยู่ในระบบ แต่การตรวจสอบจริงบนท้องถนนยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะประเด็นชั่วโมงการขับขี่ ความอ่อนล้าของพนักงานขับรถ และความพร้อมด้านความปลอดภัยของผู้โดยสาร การนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้กำกับเชิงรุก เช่น การตรวจเข้มเที่ยวกลางคืนหรือเส้นทางระยะไกลที่ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ ส่งผลให้ความเสี่ยงยังคงถูกปล่อยผ่านและอาจนำไปสู่อุบัติเหตุซ้ำซาก

สภาผู้บริโภคเห็นว่า การป้องกันอุบัติเหตุรถโดยสารควรเน้นทำให้มาตรการด้านความปลอดภัยที่มีอยู่ถูกนำไปใช้จริง โดยเฉพาะการนำข้อมูลจากระบบติดตามรถและข้อมูลชั่วโมงการขับขี่มาใช้คัดกรองเที่ยวรถที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ พร้อมเพิ่มการตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถก่อนออกเดินทางในช่วงเทศกาลอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค โดยมุ่งกำกับคุณภาพพนักงานขับรถ การจัดการชั่วโมงการขับขี่ และการลดความเสี่ยงในการเดินรถระยะไกล รวมถึงความปลอดภัยของรถโดยสารสองชั้น ซึ่งยังเป็นประเด็นที่สังคมให้ความกังวลอย่างต่อเนื่อง

“ที่สำคัญในมุมของผู้บริโภคควรสามารถเข้าถึงข้อมูลรถโดยสารได้อย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ง่าย เช่น การตรวจสอบเลขทะเบียนรถผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อทราบอายุการใช้งาน ประวัติการตรวจสภาพรถประจำปี รวมถึงสถานะประกันภัยภาคบังคับและภาคสมัครใจ ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการในการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค และเป็นกลไกสำคัญในการลดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเป็นรูปธรรม” คงศักดิ์ ระบุ

เสียหายจากอุบัติเหตุ ต้องได้รับการเยียวยา

สำหรับผู้บริโภคที่บาดเจ็บ หรือได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ มีสิทธิเรียกร้องความเสียหายได้ ดังนี้

ส่วนที่ 1 การเรียกค่าสินไหม ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
1.ค่ารักษาพยาบาล จ่ายตามจริง ให้โรงพยาบาล ไม่เกิน 80,000 บาท
2.ค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิต 500,000 บาท/คน
3.สูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 200,000 – 500,000 บาท/คน
4.ค่าชดเชยรายวัน จ่ายให้ผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลวันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน

ส่วนที่ 2 การเรียกค่าเสียหายกับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ค่ารักษาพยาบาล ส่วนที่เกินวงเงินของ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (สำหรับกรณีเสียชีวิต ขั้นต่ำรายละ 500,000 บาท) **รายละเอียดขึ้นกับกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทที่ทำเอาไว้
1.ค่าทนทุกข์ทรมาน จากการบาดเจ็บ
2.ทรัพย์สินที่เสียหาย หรือสูญหายในขณะเกิดอุบัติเหตุ
3.ค่าเสียหายอื่น ๆ เช่น ค่าขาดโอกาสในการทำงาน ค่าขาดไร้อุปการะ -ค่าขาดรายได้ เป็นต้น

‘ตั๋วผี’ ปัญหาใหญ่ช่วงเทศกาล

นอกจากเรื่องคน รถ ถนนที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่พบมากในช่วงเทศการคือ “ตั๋วปลอม” หรือ “ตั๋วผี” ที่ทำให้ผู้บริโภคบางรายเสียเงินแต่ไม่ได้เดินทางหรือตกอยู่ในอันตรายจากรถตู้เถื่อน (รถตู้ผี) ซึ่งไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย

ดังนั้น แนะนำให้ซื้อตั๋วจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว หรือแอปฯ ของบริษัทขนส่งโดยตรง และอย่ายอมให้ผู้ประกอบการละเมิดสิทธิด้วยการให้นั่งเก้าอี้เสริมเมื่อรถเต็ม หากพบการกระทำในลักษณะดังกล่าวสามารถร้องเรียนไปที่กรมการขนส่งทางบกได้ที่เบอร์ 1584 ผู้ประกอบการจะมีความผิดโดยเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยในการให้บริการรถโดยสารสาธารณะ กำหนดโทษของการบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท

หากผู้บริโภคท่านใดได้รับความเสียหายจากกรณีซื้อตั๋วปลอมบนออนไลน์ดังกล่าว สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่หรือแจ้งความออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.thหรือแจ้งเบาะแสมายังสภาผู้บริโภคได้ www.tcc.or.th หรือโทรเบอร์ 1502 (วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00 – 17.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สภาผู้บริโภคถาม เซฟตี้อยู่ไหน? ปมผู้โดยสารกระเด็นจากรถ หลังรถทัวร์ชนรถบรรทุก

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...