สกู๊ปข่าว “ไทย–กัมพูชา” ความขัดแย้งที่ย้อนกลับสู่ประวัติศาสตร์ “บทเรียนใหม่”บนสมรภูมิชายแดนที่ยังไม่เคยปิดฉาก
สกู๊ปข่าว “ไทย–กัมพูชา” ความขัดแย้งที่ย้อนกลับสู่ประวัติศาสตร์ “บทเรียนใหม่”บนสมรภูมิชายแดนที่ยังไม่เคยปิดฉาก
เสียงปืนและแรงระเบิดที่ดังขึ้นตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ไม่ใช่เพียงเหตุปะทะทางทหารธรรมดา แต่สะท้อนประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ยาวนาน เต็มไปด้วยความร่วมมือ ความทรงจำ และรอยแผลจากข้อพิพาทที่ยังไม่เคยคลี่คลายอย่างสมบูรณ์
การปะทะระลอกใหม่ที่พื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ศรีสะเกษ และตราด ไม่เพียงแต่ทำให้มีการอพยพประชาชนจำนวนมากและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและเศรษฐกิจท้องถิ่น แต่ยังเปิดคำถามเชิงลึกว่า—ความตึงเครียดครั้งนี้เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือเป็นฟันเฟืองของประวัติศาสตร์ที่ยังเดินต่อเนื่องมายาวนาน
ไทยและกัมพูชามีชายแดนร่วมกันยาวกว่า 800 กิโลเมตร แต่ส่วนหนึ่งยังไม่ได้มีการปักปันที่สมบูรณ์ในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับความหมายทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ เช่น เขาพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย
ประวัติศาสตร์การจัดทำแผนที่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยรัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมในอินโดจีน ณ เวลานั้น ยังคงเป็นจุดเริ่มต้นของความเห็นต่าง
การตัดสินของศาลโลกในปี 2505 ที่ให้ตัวปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่ไม่ได้ชี้ชัดเส้นเขตแดนรอบพื้นที่ กลายเป็นความคลุมเครือที่ถูก “หยิบยกกลับมา” ทุกรอบที่ความสัมพันธ์การเมืองของสองประเทศสั่นไหว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความขัดแย้งนี้มีองค์ประกอบทางการเมืองภายในของทั้งสองประเทศอยู่เบื้องหลัง
ในหลายช่วงที่ผ่านมา การเผชิญหน้าชายแดนถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างคะแนนนิยม สร้างศัตรูภายนอก หรือใช้เป็นเครื่องมือเบี่ยงเบนประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ
กัมพูชากำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนภายในจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองฝ่ายค้าน ขณะที่ไทยเองต้องรักษาความเชื่อมั่นด้านความมั่นคงและศักดิ์ศรีของรัฐ
เหตุปะทะครั้งนี้ใช้ยุทโธปกรณ์ที่ต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง แทนที่จะเป็นเพียงปืนใหญ่หรือการลาดตระเวนแบบเดิม ฝ่ายกัมพูชาใช้
· จรวดหลายลำกล้อง BM-21
· โดรนทิ้งระเบิด
· โดรนพลีชีพ (Kamikaze Drone)
ส่วนฝั่งไทยตอบโต้ด้วยอาวุธตามมาตรฐานการป้องกันตนเองตามหลักสากล พร้อมเน้นควบคุมพื้นที่โดยไม่ให้ความรุนแรงลุกลาม
นี่สะท้อนว่าชายแดนไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ความมั่นคงธรรมดา แต่เป็น สนามทดสอบเทคโนโลยีการทหารระดับภูมิภาค
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดไม่ใช่กองกำลังทหาร แต่คือประชาชนชายแดนที่ต้องอพยพกว่า หนึ่งแสนชีวิต
ธุรกิจชายแดน ตลาดเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการค้าชายแดนได้รับผลกระทบทันที
ความขัดแย้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องความมั่นคง แต่เป็นเรื่อง ความเป็นอยู่ของมนุษย์
ปัจจัยชี้ขาดอาจไม่ใช่ “อาวุธ” แต่เป็น การตัดสินใจทางการเมือง
ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชาในวันนี้คือหน้าต่อของความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยทั้งความร่วมมือ ความภูมิใจ ความเจ็บปวด และความทรงจำที่ยังไม่จางหาย
คำถามสำคัญคือ เราจะปล่อยให้ประวัติศาสตร์เขียนซ้ำด้วยเสียงปืน หรือเริ่มต้นบทใหม่ด้วยการเจรจาและสันติภาพที่ยั่งยืน?
#ไทยกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #ความมั่นคง #เขาพระวิหาร #สระแก้ว #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #โดรนสงคราม #อาเซียน #ข่าววิเคราะห์ #Geopolitics