คุมเบาหวานให้เข้าสู่ระยะสงบอย่างไร ในช่วงเทศกาล
GM Live
อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เว็บไซต์ว่าด้วยเรื่องราวของผู้ชาย เทรนด์ บทสัมภาษณ์ บทวิเคราะห์ธุรกิจ รถยนต์ Gadget สุขภาพ อัพเดทก่อนใคร5 เคล็ดลับเลือกอาหารอย่างชาญฉลาด
ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองแบบนี้การหลีกเลี่ยงเรื่องดื่มกินคงเป็นเรื่องยากซะหน่อย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังป่วยด้วยโรคเบาหวานที่ต้องค่อยระวังระดับน้ำตาลในเลือดสูงไปก็อันตราย ต่ำไปก็อันตราย แต่ความกังวลในเรื่องนี้เบาใจได้ เพราะ GM Live มีบทความดีๆ จาก ทันตแพทย์หญิงด็อกเตอร์อรุณี ลายธีระพงศ์ ผู้อำนวยการการแพทย์ด้านโภชนาการของแอ๊บบอต ประจำประเทศไทย เกีี่ยวกับ 5เคล็ดลับเลือกอาหารอย่างชาญฉลาด ในการคุมเบาหวานให้เข้าสู่ระยะสงบอย่างไร ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขเช่นนี้
ทั้งนี้ โรคเบาหวานยังคงเป็นหนึ่งในโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่หลายคนยังมีความเข้าใจไม่ครบถ้วนนัก ซึ่งนั้นอาจส่งผลต่อการดูแลรักษาที่เหมาะสมรวมถึงทำให้ภาวะของโรคเข้าสู่ภาวะเบาหวานสงบ หรือDiabetes Remission เป็นไปแบบช้าลง
สำหรับประเทศไทยจำนวนผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 หรือผู้ป่วยที่มีภาวะร่างกายผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ หรือเซลล์ร่างกายดื้อต่ออินซูลินทำให้กลูโคสหรือน้ำตาลเข้าเซลล์ไปใช้เป็นพลังงานได้น้อย ระดับน้ำตาลในเลือดจึงสูงค้างอยู่เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน ยิ่งเป็นช่วงเทศกาลส่งท้ายปีแบบนี้ ที่ต่างต้องร่วมวงกินดื่มในงานสังสรรค์มากขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติ และนั้นอาจทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นเรื่องท้าทายยิ่งกว่าเดิม
โดยข้อมูลจากสหพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation) ระบุว่า ปัจจุบันมีชาวไทยอายุ 20–79 ปี กว่า 6 ล้านคนที่กำลังเผชิญกับโรคเบาหวาน หรือคิดเป็นอัตราความชุก 10.2% เพิ่มขึ้นจาก 7.5% ในปี 2554 ซึ่งที่น่ากังวลก็คือ ผู้ป่วยถึงหนึ่งในสามยังไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังป่วย1 ตัวเลขนี้สะท้อนความจำเป็นในการสร้างความตระหนักรู้และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่พฤติกรรมการดื่มกินอาจเปลี่ยนไปจากปกติ
และหนึ่งในความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อโรคนี้คือ หลายคนมักคิดว่าการเป็นโรคเบาหวาน ต้องงดอาหารที่ชอบโดยสิ้นเชิง หรือจำเป็นต้องรับประทานเฉพาะขนมไร้น้ำตาลและอาหารรสจืดเท่านั้น ทั้งที่ในความเป็นจริง ความต้องการด้านอาหารของแต่ละคนแตกต่างกัน และผู้ป่วยเบาหวานยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารไทยที่อร่อยได้เช่นเดิม เพียงแค่ปรับเลือกวัตถุดิบ ปริมาณ และวิธีปรุงให้เหมาะสมขึ้นเท่านั้น
สำหรับ 5 เคล็ดลับปรับเมนูอาหารแบบไทย ๆ เพื่อช่วยผู้ป่วยเบาหวานในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและก้าวสู่ภาวะเบาหวานสงบได้ง่ายขึ้นนั้น ได้แก่
1. เลือกอาหารย่างแทนอาหารทอด
อาหารทอดเป็นหนึ่งในเมนูประจำงานเทศกาล และเป็นสิ่งที่หลายคนอดใจได้ยาก อาหารที่ผ่านการทอดมักมีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง ดังนั้นควรงดหรือหลีกเลี่ยงเมนูทอด ในช่วงเทศกาล เช่น กล้วยทอด ปอเปี๊ยะทอด ฯลฯ แล้วหันมาเลือกอาหารย่าง เช่น ปลาเผา ไก่ย่าง หรือสะเต๊ะหมู สะเต๊ะไก่ แทน ซึ่งให้โปรตีนสูง ไขมันเลวต่ำ และยังคงรสชาติอร่อยโดยไม่เพิ่มน้ำมันส่วนเกิน เหมาะสำหรับควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
2. ให้ความสำคัญกับอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low-GI)
อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำมีส่วนช่วยชะลอการดูดซึมกลูโคสและทำให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้น ตัวเลือกของอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำที่หาได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ผักใบเขียว อย่างผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ยังมี ข้าวโอ๊ต ถั่วเขียว ข้าวบาร์เลย์ เผือก และข้าวโพดหวาน นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์โภชนาการเฉพาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เช่น กลูเซอนา ก็สามารถใช้ทดแทนมื้ออาหารหรือใช้เสริมมื้ออาหารเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นกัน
3.เปลี่ยนจากแกงกะทิเป็นต้มยำน้ำใสหรือแกงจืด
แม้ว่าเมนูแกงกะทิจะมีรสชาติอร่อยเข้มข้น แต่ก็มีไขมันอิ่มตัวสูง จึงควรหลีกเลี่ยงแล้วลองเปลี่ยนเป็นต้มยำน้ำใสหรือแกงจืดที่ปรุงด้วยผักและโปรตีนไขมันต่ำ เช่น กุ้งหรือไก่ ซึ่งเมนูเหล่านี้ให้รสชาติไทยแบบคุ้นเคย แต่เบากว่าและอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และโปรตีน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลระดับน้ำตาลในเลือด
4. ใช้สมุนไพรและเครื่องเทศแทนซอสปรุงรสที่มีน้ำตาล
สมุนไพรไทย เช่น ตะไคร้ สะระแหน่ โหระพา และข่า ช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้กับอาหารโดยไม่ต้องพึ่งน้ำตาล5 แต่ในขณะเดียวกันก็ควรหลีกเลี่ยงซอสปรุงรสที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม เช่น น้ำจิ้มไก่ หรือซอสหอยนางรม ซึ่งมักมีน้ำตาลแฝงอยู่ โดยควรอ่านฉลากโภชนาการอย่างละเอียด และเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี น้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาลแทน
5. เลือกผลไม้สดแทนขนมหวานและเครื่องดื่มหวาน ๆ
ในช่วงเทศกาลที่เต็มไปด้วยขนมหวาน เครื่องดื่มหวานๆ รวมถึงของหวานประจำเทศกาล ปริมาณน้ำตาลและพลังงานที่ได้รับอาจเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว การปรับพฤติกรรมง่าย ๆ โดยการสั่งแบบหวานน้อยหรือไม่หวาน และเลือกผลไม้สดที่มีใยอาหารสูงและมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น ส้มโอหรือฝรั่ง ซึ่งให้รสชาติหวานธรรมชาติ จะช่วยลดความเสี่ยงจากระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงได้ ขณะเดียวกันก็ยังตอบโจทย์ความอยากของหวานในช่วงเทศกาลได้ดี
ฉะนั้นการใช้ชีวิตอยู่กับโรคเบาหวานไม่ได้หมายความว่าต้องละทิ้งรสชาติอาหารหรือวิถีการกินแบบดั้งเดิม สิ่งสำคัญคือการเติมเต็มร่างกายด้วยโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุล และปรับวิถีชีวิตที่ช่วยให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อเสริมพลังให้ผู้ป่วยก้าวไปสู่เป้าหมายภาวะเบาหวานสงบได้จริง
ซึ่งการดูแลโรคเบาหวานเริ่มจากความเข้าใจที่ถูกต้องและเริ่มการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำได้ทุกวันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลและการเข้าสู่ปีใหม่ที่นับว่าเป็นเวลาอันเหมาะสมในการทบทวนพฤติกรรมการกิน ดังนั้นจึงควรหันมาดูแลโภชนาการอย่างจริงจัง และทำกิจกรรมง่าย ๆ ที่จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพ ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ หรือตั้งเป้าหมายในการดูแลสุขภาพ และที่สำคัญอย่างยิ่งทุกข้อมูลล้วนมีความหมายเมื่อได้รับคำแนะนำจากบุคลากรด้านการแพทย์ถึงโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล เพราะนั้นจะนำไปสู่ภาวะเบาหวานระยะสงบได้ไม่ยาก เพียงเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้