ภูธรภาค 8 'ปฏิบัติการหักขาม้า' จับกุมกลุ่มบัญชีม้า 51 ราย รวม 86 หมายจับ
ภูธรภาค 8 “ปฏิบัติการหักขาม้า” จับกุมกลุ่มบัญชีม้า 51 ราย รวม 86 หมายจับ
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศโดยเฉพาะกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงประชาชนทั่วประเทศ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(ศปอส.ตร) โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สารสนเทศ (ผอ.ศปอส.ตร.) ซึ่งได้สั่งการให้ทำการสืบสวนสอบสวนและปราบปราบกลุ่มองค์กรอาชญากรรมกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กระทำความผิดส่งผลกระทบ ต่อความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย
ภายใต้การอำนวยการและควบคุมการปฏิบัติของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8/ผอ.ศปอส.ภ.8, พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก.สส.ภ.8, พ.ต.อ.กฤดินิธิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 มีคดีเกิดขึ้นหลายคดี
สภ.พระพรหม ภ.จว.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 65 หลอกให้ลงทุน ความเสียหาย 1,419,479 บาท มีการออกหมายจับ จำนวน 20 หมาย จับกุม 4 หมาย
สภ.เมืองกระบี่ ภ.จว.กระบี่ หลอกว่าส่งพัสดุผิดกฎหมาย ผู้เสียหายโอนเงินไป 15,472,231 บาท เหตุเกิดวันที่ 4 พ.ค. 65 ออกหมายจับ จำนวน 3 หมาย จับกุม 2 หมาย อายัดตัว 1 หมาย
สภ.วิชิต ภ.จว.ภูเก็ต หลอกลงทุนซื้อขายเงินดิจิทัล เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 64 – 28 ก.พ. 65 มูลค่าความเสียหาย 1,258,630 บาท ออกหมายจับ 8 หมาย จับกุม 4 หมาย
สภ.ปากจั่น ภ.จว.ระนอง หลอกให้ลงทุน มูลค่าความเสียหาย 625,028 บาท เหตุเกิด วันที่ 6 มี.ค. 65 ออกหมายจับ 2 หมาย จับกุม 2 หมาย
สภ.หลังสวน ภ.จว.ชุมพร หลอกว่ามีคนนำเบอร์โทรศัพท์ไปใช้ผิดกฎหมายและให้โอนเงิน มูลค่าความเสียหาย 3,053,527 บาท เหตุเกิดวันที่ 9 มิ.ย. 65 ออกหมายจับ 2 หมาย จับกุม 1 หมาย
บก.สส.ภ.8 นำโดย พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก.สส.ภ.8, ร.ต.อ.ศุภกิจ ชูดา รอง สว.กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 ร่วมกันออกทำการสืบสวนขยายผลกรณีนางจารึก ทองชล อายุ 62 ปี ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าผู้เสียหายมีส่วนพัวพันกับคดียาเสพติดและมีส่วนร่วมในการฟอกเงิน โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายหลงเชื่อและได้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน 2,000,000 บาท
จากการสืบสวนพบว่าในแต่ละคดีมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน และจากการสืบสวนขยายผลจากบัญชีธนาคารของคนร้ายพบว่าได้มีการโอนเงินดังกล่าวไปยังบัญชีม้าอื่นๆ อีก 8 บัญชีเป็นเวลาต่อเนื่องกันภายในระยะเวลาไม่เกิน 20 นาที โดยเหตุที่มีการโอนเงินต่อเนื่องกันของคนร้ายนั้นเพื่อให้เกิดการทำธุรกรรมที่สลับซับซ้อนยากในการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนติดตาม จึงได้มีการดำเนินคดีและออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
เจ้าของบัญชีทั้งหมดที่มีการรับโอนเงินเป็นทอดๆ จำนวน 8 ราย และผู้ที่จัดหาว่าจ้าง ในการให้ผู้อื่นเปิดบัญชี จำนวน 1 ราย (จับกุมแล้ว) ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและสนับสนุนการฟอกเงิน”
กลุ่มบริษัท และ เจ้าของร้านขายเหรียญดิจิทัล ที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน โดยการนำเงินที่ได้จากกลุ่มคนร้ายไปเปลี่ยนเป็นสินค้า หรือแปลงสภาพในข้อหา “ฟอกเงิน” จำนวน 2 บริษัท และ จำนวน 1 ราย (จับกุมแล้วทั้ง 3 ราย)
กลุ่มบัญชีม้าอื่นๆ ที่มีการโอนเงินเข้ามาสัมพันธ์กับบัญชีม้าแถวหลัก และมีประวัติการกระทำความผิดในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในท้องที่อื่นๆ ในข้อหา “สนับสนุนการฟอกเงิน” จำนวน 13 ราย
ขยายผลบัญชีม้า แต่ละทอด ที่รับโอนเงินจากผู้เสียหายโดยตรวจสอบกลุ่มบัญชีธนาคารที่มีการรับโอนเงินจากบัญชีม้าในคดีนี้ เชื่อว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวที่มีการรับโอนเงินจากบัญชีม้านั้น มีความสัมพันธ์กับบัญชีม้าในคดีนี้ในลักษณะการรับโอนเงินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ในข้อหา “สนับสนุนการฟอกเงิน” จำนวน 26 ราย
รวมผลการจับกุมขยายผลดำเนินคดีอาญาผู้ต้องหาทั้งกลุ่มบัญชีม้า กลุ่มบริษัทและกลุ่มผู้ขายเหรียญดิจิทัล ซึ่งกระทำความผิดในคดีนี้จำนวน 51 ราย
รวมหมายจับสยบอันดามัน 5/65 “ปฏิบัติการหักขาม้า” จำนวน 86 หมาย จับกุม 24 หมาย อายัด 6 หมาย ได้มีดำเนินการร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อดำเนินการสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ ดำเนินคดีทางแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเพื่อเยียวยาคืนให้แก่ผู้เสียหายและเพื่อให้ทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอฝากถึงพี่น้องประชาชนที่เป็นผู้เสียหายซึ่งถูกหลอกลวงโดยกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือเป็นผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงจากการลงทุนระบบออนไลน์รูปแบบต่างๆ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com หรือ สถานีตำรวจทั่วประเทศ และท่านสามารถแจ้งข่าวเบาะแสการกระทำความผิดผ่าน สายด่วนของ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเบาะแส ข้อมูลได้ที่ www.pctpolice.go.th หรือสายด่วนหมายเลข 1441 สายตรง 081-8663000 เวลาราชการ โดยทางศูนย์ PCT จะสืบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป